เลือกหนึ่งชีวิต

2253 Words
7 เลือกหนึ่งชีวิต  ปัจจุบัน หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ไม่มีใครในบ้านฐลัชนันท์ได้ข่าวคราวจากแก้วมุกดาอีกเลย มีเพียงรำไพพรรณคนเดียวที่พยายามติดต่อลูกสะใภ้ ทว่าปลายทางก็ไม่มีการตอบรับ พอโทร.ไปหาฝั่งญาติผู้ใหญ่ของแก้วมุกดาก็ปฏิเสธให้ข้อมูลและบอกไม่ให้ติดต่อมาอีก ส่วนลูกชายตัวดีก็ทำประหนึ่งกำเนิดมาจากภูเขาน้ำแข็ง เยือกเย็น เย็นชา ตาขวางใส่ทุกคน พันแสงทำงานจันทร์ถึงศุกร์ กลับบ้านตรงเวลาทุกวัน และมุ่งมาที่เคาน์เตอร์บาร์เป็นประจำ เพนต์เฮาส์ที่เคยเป็นดั่งสวรรค์แต่บัดนี้พันแสงไม่คิดกลับไปเหยียบตั้งแต่มีปัญหากับภรรยา ทุกคนในบ้านฐลัชนันท์รู้ว่าพันแสงกดความเจ็บปวดไว้ภายใต้ใบหน้าที่ปกปิดด้วยความขรึม รำไพพรรณบอกให้เขาง้อภรรยา แต่ทิฐิของลูกชายเธอก็หนาเสียจนรถแบคโฮก็ขุดไม่ได้ “พี่ซันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหนคะคุณแม่” เพียงดาวและรำไพพรรณแอบมองอยู่ตรงเชิงบันได สองสาวต่างวัยพากันทอดถอนใจกับคนช้ำรักที่นั่งร่ำสุราอยู่ตามลำพัง โดยเปิดทีวีจอยักษ์บนผนังไว้เป็นเพื่อนเพียงไม่ให้โซนนั้นเงียบเหงา “ก็จนกว่าเมียจะเป็นฝ่ายมาง้อเองล่ะมั้ง พี่เราเขายอมเปิดใจมีความรักก็ถือว่าบุญเท่าไหร่แล้ว โชคดีที่เราได้มีโอกาสเห็นเขาในมุมอ่อนโยน เรื่องในคืนนั้นแม่ว่าต่างคนต่างแรงด้วยกันทั้งคู่ ซันเองก็น่าจะโกรธหนูมุกมากที่ป้ายสีว่าเราเป็นคนแจ้งจับพ่อของเธอ” “แล้วคุณแม่คิดว่ามุกจะเป็นฝ่ายมาง้อไหมคะ” “ไม่รู้สินะ แม่ก็เดาอะไรไม่ได้เลย ก็ต้องรอให้หนูมุกจัดการคดีความของคุณวิเลิศให้เบาลงกว่านี้ก่อน” “แล้วคุณแม่ติดต่อมุกไม่ได้เลยเหรอคะ” “ใช่ เธอไม่ยอมรับสายเลย ส่วนอาของเธอก็บอกว่าไม่ต้องติดต่อมาอีก เอาคำขอโทษกองไว้ตรงนั้น เด็กสองคนไปต่อด้วยกันในฐานะสามีภรรยาไม่ได้อีกแล้ว พวกเขาโกรธเราทั้งบ้านแล้ว เฮ้อ! แม่ก็ได้แต่ภาวนาเอาใจช่วยให้แก้วมุกดาผ่านวิกฤตชีวิตได้อย่างเร็วไว” “น่าสงสารเธอนะคะ เพิ่งเสียแม่ได้ไม่กี่วัน พ่อก็มาเจอข้อหาหนัก แถมตอนนี้สามีก็หันหลังให้อีก” “น่าสงสารมากจริงๆ แต่เราเป็นคนนอกยุ่งอะไรมากไม่ได้ มันเป็นเรื่องของผัวเมียด้วยแหละ เอาเป็นว่าแม่ขอพักเรื่องเครียดๆ ไปหาความสำราญกับซีรีส์จีนก่อนนะ” รำไพพรรณแตะบ่าลูกสาวแล้วแยกตัวกลับห้องพัก หลังมื้อเย็นของทุกวันคือช่วงเวลาหาความบันเทิงของคุณผู้หญิง เพียงดาวยืนมองพี่ชายต่างสายเลือดอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพาตัวเองแทรกเข้าไปในบรรยากาศที่มีแค่เขากับเมรัย “ดื่มหนักทุกวันเลยนะคะพี่ซัน” “ไม่ต้องยุ่ง” เสียงเข้มตอบกลับอย่างเย็นชา ปรายหางตามองน้องสาวบุญธรรมเพียงแว็บเดียว พันแสงก็เป็นเช่นนี้กับเธอมานานแสนนาน วางตัวห่างเหินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นเสมอมา ซึ่งเพียงดาวก็ชินชาเสียแล้ว เคยคิดมากจนตอนนี้เลิกคิดไปแล้ว “ไม่ได้อยากยุ่งเท่าไหร่หรอกค่ะ แค่เป็นห่วงคุณแม่ที่กลุ้มกับการที่พี่ดื่มเหล้าหนักทุกวัน” “ดื่มอยู่ในบ้านตลอด มีอะไรต้องห่วง เมาแล้วไม่ไปสร้างความฉิบหายที่ไหนก็แล้วกัน” เครื่องดื่มสีอำพันละลายในน้ำแข็งกลมเกลี้ยงถูกกระดกเข้าปากจนหมดแก้ว ก่อนเบือนมองเพียงดาวด้วยแววตาที่อ่อนลง “ขอโทษที่พูดจาไม่ดีกับเรา” “ไม่ถือค่ะ ดาวชินแล้ว” ก็เธอคือคนนอกนี่นะ เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ตอนอายุสิบสี่ปี ทุกคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ก็เว้นอยู่คนเดียวคือพันแสง ช่วงแรกเพียงดาวคิดมากและเกรงใจเขา แต่ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพันแสงเขาพูดน้อยหน้าเหวี่ยงเป็นปกติ และยิ่งครั้งที่พี่ใหญ่ของบ้านไปเรียนต่างประเทศตอนอายุสิบแปดและกลับมาอีกทีหลังจบปริญญาโท ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องคนละสายเลือดก็ยิ่งห่างเหินหนักกว่าเดิม “แล้วนี่มีอะไรหรือเปล่า เราก็รู้ว่าพี่ชอบนั่งเงียบๆ คนเดียว” “ชอบอยู่เงียบๆ แต่ก็เปิดทีวีไว้เป็นเพื่อนด้วยเนอะ” เพียงดาวเหลือบมองจอแบนขนาดหกสิบนิ้วซึ่งกำลังฉายละครไทย แน่นอนว่าพันแสงไม่ได้สนใจดูอยู่แล้ว “ดาวแค่อยากมาบอกว่าถ้าพี่ซันรักเธอก็ควรไปขอโทษและตามเธอกลับมานะคะ” “แต่เธอเป็นคนผิด ทำอะไรเป็นเด็กๆ ไม่คิดว่าจะงี่เง่าแบบนี้ เอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยกับคู่แข่งได้ยังไง” นับจากวันนั้นจนวันนี้พันแสงไม่ได้สนใจติดตามผลข้อมูลการประมูลโครงการรัฐที่รั่วไหล และยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดจากบริษัททีทิสในเชิงโจมตี อันที่จริงพันแสงไม่สนใจอะไรด้วยซ้ำ นอกจากพยายามลืมภรรยา “พี่ซันไม่สงสารมุกเหรอคะ เธอตัวคนเดียวนะ” “เธอคิดว่าคนระดับนั้นจะตัวคนเดียวเหรอ แก้วมุกดาเป็นลูกสาวรัฐมนตรี โคตรเหง้าตระกูลพ่อของเธอเป็นนักการเมืองจากรุ่นสู่รุ่น ร่ำรวยเงินทองและอิทธิพล ส่วนครอบครัวแม่ของมุกดาก็เป็นผู้ดีเชื้อสายเจ้า ไม่มีอะไรต้องห่วงสักนิด เผลอๆ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันวิเลิศก็พ้นผิดและกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม ประเทศนี้มันก็แบบนี้แหละ” “เย็นชาจัง” เพียงดาวพึมพำแต่คนช้ำรักก็ได้ยิน พันแสงยังโกรธปนน้อยใจภรรยา ผ่านมานับสัปดาห์แต่เธอก็ยังเงียบ ไม่มีการขอโทษสักคำ เพราะถ้าเธอขอโทษ เขาก็พร้อมให้อภัยทันที “แล้วถ้าสมมติดาวเป็นมุกดา ดาวจะกลับมาไหม” “อืม คงไม่กลับมั้งคะ โดนไล่ซะขนาดนั้น อีกอย่างระยะเวลาที่รู้จักบวกกับแต่งงานอยู่ด้วยกันก็แค่สองสามเดือน คงไม่ได้รักไม่ได้อาลัยอาวรณ์ มุกเองก็ดูไม่ได้อยากแต่งตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอคะ เขาอาจจะยินดีที่จะไป” เพียงดาวให้ความเห็นในแบบที่คิดว่าพันแสงอยากได้ยิน และแฝงการประชดประชันอยู่ในที ผู้ชายก็แบบนี้น้อยคนนักจะรู้ว่าผู้หญิงก็น้อยใจและรอการง้องอนอยู่ “หึ ก็จริง” “คือดาวก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าระหว่างพี่สองคนมีความพิเศษอะไรหรือเปล่า แต่พี่ซันดูทรมานมาก ไม่ลองกลับไปคุยกันใหม่ล่ะคะ เป็นฝ่ายง้อก่อนก็ไม่เสียหายนะ ถือซะว่าเป็นการขอโทษที่วันนั้นไล่เธอไปเดินตากฝน” “ไม่! เขาอยากไปไหนก็ปล่อยไป ตามสบาย” อันที่จริงคืนนั้นพันแสงขับรถออกไปตามเธอแล้ว แต่เป็นช่วงเวลาที่ทิ้งห่างกว่าหนึ่งชั่วโมง “งั้นดาวไปล่ะค่ะ” “ก่อนไปเปลี่ยนช่องให้หน่อย รีโมตอยู่ใกล้มือเธอ ช่องไหนก็ได้ที่มีข่าวไม่ใช่ฉายแต่ละครโง่ๆ” คุณชายพันแสงสั่งพลางรินเครื่องดื่มราดบนไอซ์บอลอีกครั้ง เพียงดาวเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ตามที่พี่ชายสั่ง และครั้นจะหมุนตัวเดินออกไปก็สะดุดหูกับการรายงานข่าว ‘นายวิเลิศ นับพันเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม เสียชีวิตแล้วเมื่อสิบสามนาฬิกาของวันนี้ สาเหตุของการเสียชีวิตคือโดนลูกหลงจากเหตุจราจลในเรือนจำ โดยนายวิเลิศถูกแทงบริเวณช่องท้องเป็นแผลลึก ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา’ พันแสงดูข่าวด้วยนัยน์ตาเบิกกว้าง หัวใจประหวัดถึงบุตรสาวของผู้สูญเสียจนความเป็นห่วงวิ่งนำหน้าทิฐิที่หยิ่งผยองมาทั้งสัปดาห์ ร่างสูงซวนเซลงจากเก้าอี้ พรวดพราดลงบันไดโดยไม่สนใจหันไปตอบคำถามเพียงดาวว่ากำลังจะไปไหน พันแสงขับรถออกไปจากคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง พลางต่อสายถึงภรรยาที่มีเพียงสัญญาณดังอย่างต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่า พันแสงคิดว่าเธอน่าจะอยู่โรงพยาบาลที่ซึ่งร่างของวิเลิศคงถูกจัดการตามกระบวนการขั้นตอน แม้มั่นใจเช่นนั้นแต่ก็มุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของเธอก่อนเพราะอย่างน้อยก็เป็นทางผ่าน ยี่สิบนาทีต่อมา รองประธานฯ แห่งบริษัทรับเหมาก่อสร้างก็ก้าวลงจากรถมายืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ของวิเลิศ มือกำลังจะเอื้อมกดกริ่งแต่ถูกดึงความสนใจด้วยรถยนต์ SUV ที่แล่นมาจอดชิดรถของเขา ชายวัยกลางคนหน้าตาละม้ายคล้ายวิเลิศก้าวออกมาจากรถฝั่งผู้โดยสารพร้อมด้วยสตรีวัยเดียวกัน และทั้งคู่สวมใส่เสื้อผ้าสีดำ “คุณมาทำอะไรที่นี่” “ผมเป็นสามีของมุกดาครับ” พันแสงรู้สึกคุ้นหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน แต่ยังนึกไม่ออกในทันที “ทราบแล้ว งานแต่งของคุณผมก็ไปร่วม แล้วนี่สรุปว่ามาทำไม” นพพลแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา ในเมื่อแตกหักกันแล้วก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องไว้หน้า “ผมมาหามุกดาครับ” “มาหาทำไม คุณไล่เขาไปแล้วไม่ใช่เหรอ และตอนนี้ก็ถือว่าเป็นอดีตสามีภรรยากันแล้ว” “พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก เรายังเป็นสามีภรรยากัน เราไม่ได้หย่ากัน” “ยังไม่หย่าก็เหมือนหย่าไปแล้วน่ะแหละ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย พวกเราครอบครัวนับพันเกียรติไม่ต้อนรับฐลัชนันท์อีกต่อไป” นพพลตะเพิดไล่ เขากับภรรยามาที่บ้านของพี่ชายด้วยตั้งใจมาเก็บเสื้อสำหรับใช้ในพิธีฌาปนกิจ “ขอร้องเถอะนะครับ ผมอยากเจอมุกดา เธออยู่ไหนครับ คือผมเพิ่งทราบว่าคุณวิเลิศเสียชีวิตแล้ว” พันแสงจำได้แล้ว ผู้ชายคนนี้คือนพพล คุณอาของแก้วมุกดา “ก็เลยจะมาเยาะเย้ยงั้นสิ” “เปล่าเลยนะครับคุณอา ผมไม่ใช่คนใจคอโหดเหี้ยมแบบนั้น” “แต่คุณเป็นคนแจ้งจับพี่ชายผม ใส่ร้ายว่าเขาพรากผู้เยาว์จนเขามีจุดจบแบบนั้น เขาต้องตายอย่างไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีก็เพราะคุณ” “ผมไม่ได้ทำ แต่ช่างเถอะ พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ผมอยากเจอมุกดา” “อยากเจอทำไมคะในเมื่อคุณไล่เธอแล้ว” รพีคู่ชีวิตของนพพลเอ่ยขึ้นอย่างทนเงียบไม่ไหวอีกต่อไป “ผม… ผมแค่มาแสดงความเสียใจ” ป่านนี้แก้วมุกดาจะเป็นอย่างไร เพิ่งเสียแม่ไปได้ไม่นานก็ต้องมาพรากจากบิดาอย่างไม่มีวันกลับ พันแสงอยากอยู่ตรงนั้นกับเธอ เรื่องอื่นไว้ค่อยเคลียร์ทีหลังก็ได้ ขอแค่ได้เจอเธอก่อน “เอาเป็นว่าถ้าหลานผมฟื้นแล้วจะบอกละกัน” นพพลรับปากอย่างขอไปที ครั้นจะก้าวไปทางประตูบ้าน พันแสงก็รุดมาขวางหน้า “ที่คุณอาพูดหมายความว่าไงครับ ฟื้นแล้วจะบอก?” ใบหน้านพพลกระตุกเนื้อเต้น โกรธจนหน้าแดงก่ำ รู้สึกร้อนผ่าวในอก มีคำพูดมากมายที่พรั่งพรูอยู่ในหัว แต่โมโหและจุกเสียจนพูดอะไรไม่ออก รพีแตะแขนสามีและเป็นฝ่ายกระแอมเอ่ย “แก้วมุกดาถูกรถชนในคืนที่คุณไล่เธอออกจากบ้าน จุดเกิดเหตุห่างจากบ้านของคุณแค่ร้อยเมตร เธออยู่ในอาการโคม่าจนตอนนี้ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ก็ยังไม่ฟื้น เราเลยตัดสินใจส่งตัวเธอไปรักษาที่ต่างประเทศ อ้อ… และก็ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยนะ” “ยะ… ยินดีอะไร” พันแสงเสียงตะกุกตะกัก ร่างกายโงนเงนคล้ายกับว่าเท้าชาจนยืนไม่ไหว เขาเป็นคนไล่ภรรยาจนเกิดเรื่องร้ายขึ้น หนำซ้ำยังไม่คิดไปดูดำดูดี เขาทำได้อย่างไร ใจแข็งกับเธอขนาดนั้นได้อย่างไร ถ้าคืนนั้นเขาออกไปตามเธอเร็วกว่านั้นเรื่องคงไม่เลวร้ายแบบนี้ “ยินดีที่ไม่ได้เป็นพ่อคนแล้ว ด้วยความที่ต้องรักษาชีวิตของหลาน เราก็เลยต้องปล่อยให้อีกหนึ่งชีวิตจากไป ก็ดีแล้วล่ะค่ะที่เขาไม่ได้เกิดมาภายใต้สายเลือดโหดร้ายของคุณ” “กลับไปซะ ทุกอย่างจบแล้ว ถือเป็นเวรเป็นกรรมของคุณกับมุกและตอนนี้เวรกรรมก็สิ้นสุดแล้ว หลานผมช่างน่าเวทนาจริงๆ ขนาดพ่อตายก็ไม่ตื่นมารับรู้ ให้เธอหลับไปสักพักก็ดีเหมือนกัน มุกสูญเสียมาเยอะแล้ว และทันทีที่หลานผมฟื้นจะจัดการเรื่องหย่าให้” “เธออยู่ที่ไหน” “ไม่มีสิทธิ์ต้องรู้แล้วค่ะ จบก็คือจบ ในเมื่อคุณเองก็ไม่เต็มใจที่จะแต่งงานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ้มขอบคุณอิสรภาพซะสิ” สองสามีภรรยาไม่สนใจคนที่ช็อกจนสีหน้าไร้เลือดฝาด ตั้งใจไว้แล้วว่าหากเขาเป็นลมล้มพับตรงนี้ก็จะไม่ดูดำดูดี จะใจร้ายเยี่ยงซาตานให้เหมือนกับที่เขาทำกับหลานสาวที่รัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD