Ep 5 ในฝัน
จิน้อยเร่งฝีเท้าให้ไปยังประตูทิศใต้ เพราะอาจารย์สั่งงานแล้วเธอก็เลยต้องรอให้เพื่อนจัดการจัดรายชื่อกลุ่มให้เสร็จ จริง ๆ กลุ่มเธอก็มีดสนีย์ เพ้ยเพ้ย ยิปโซ เป็นหลักแต่รอบนี้อาจารย์ให้จับกลุ่ม 6 คนนั้นล่ะที่ทำให้เธอช้า ร่างสูงยืนรอนิ่งราวกับรูปปั้นหินของนักรบโบราณ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่มีใครกล้าจะมองเขาตรง ๆซึ่ง 1 ในนั้นก็คือเธอจิน้อย เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมายืนตรงนี้แต่ก็ทำให้เธอแอบคิดว่าใช่คนที่เธอนัดไว้รึเปล่า ถ้าใช่เธอคงประหม่าจนทำตัวไม่ถูกเพราะเขาคือคนที่อยู่ในงานมอบรางวัลและเป็นคนที่เธอแอบมองจนข้าวตูแซว
"จะไปไหน?"
"คะ?"
"นัดไว้แล้วเธอจะเดินไปไหน?"
"อ๋อ...ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าเป็นรุ่นพี่เมื่อเช้าก็ใส่หมวกกันน็อกไว้"
"งั้นไปเลยฉันหิว"
ร่างของจิน้อยเดินจ้ำตามรุ่นพี่อย่างทิมมี่เงียบ ๆ จนถึงลานจอดรถด้านหลังตึกวิศวะ เขาเดินอ้อมไปเปิดประตูรถฝั่งคนนั่งข้างคนขับให้จิ เธอยืนนิ่งมองเขาอย่างสงสัยก่อนจะได้ถามอะไรออกไป มือหนาก็จับเข้าที่ศีรษะของเธอแล้วดันเข้าไปในรถปิดประตู ทิมมี่เดินกลับมาขึ้นรถฝั่งคนขับเขาเหลือบมองเธอแล้วก็ถอดหายใจ
"วางของก่อนไหม?"
"อ๋อ ๆ ค่ะ ๆ"
"คาดเบลท์ด้วย"
"ค่ะ"
"อย่ากระตุกแบบนั้นดึงช้า ๆ"
"ค่ะ"
เขาไม่ใช่ผู้ชายแบบเพื่อนสนิทอย่างเจเจที่จะต้องเอาอกเอาใจผู้หญิงทุกอย่าง ไม่ว่าจะคาดเบลท์จะถือกระเป๋าจะอะไรก็ช่างมันไม่ใช่นิสัยเขา หน้าตาของจิน้อยมันแสดงออกถึงความสงสัยใคร่รู้แต่ไม่กล้าพูดจนทิมมี่ต้องถามออกมาเอง
"มีอะไร"
"เออ"
"ถามก็ตอบ"
"ดุจัง" [งุบงิบ]
"ว่าไงนะ"
"ปะ เปล่า ๆ ค่ะแค่อยากจะถามว่ารุ่นพี่มีรถกี่คันเมื่อเช้าขี่บิ๊กไบค์นี่คะ"
"ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องรู้"
"โอ๊ะ...แล้วให้ถามทำไม"
เสียงบ่นงุบงิบของจิน้อยทิมมี่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เขาหักพวงมาลัยออกรถตรงไปยังร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง รถติดตามก็ขับอยู่ด้านหลังไม่ไกลเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของเขา จิน้อยที่เห็นป้ายร้านกับสถานที่เธอถึงกับหน้าถอดสี ไอ้ที่ว่าจะเลี้ยงข้าวไม่ได้หมายความว่ามื้อละหลายพันหลายมื้อได้สักหน่อย
"เดี๋ยวค่ะ"
"ลงฉันหิวอย่าพูดมาก"
"แต่..."
"อย่าให้พูดซ้ำ"
"..."
"ของวางในรถไม่ต้องแบกลงไป"
"สั่งเก่ง" [งุบงิบ]
"ว่าอะไร"
"เปล่าค่า"
จิน้อยจะทำอย่างไรได้เมื่อเจอคนดุขนาดนี้ ทั้งชีวิตมีแต่คุณยายล่ะที่ดุเธอที่สุด แต่พอเจอคนอย่างทิมมี่เข้าไปจิน้อยรู้สึกรักคุณยายมากกว่าเดิมทันที ระหว่างเดินก็รีบพิมพ์ข้อความหาคุณยายว่ารักนะ ปกติคุณยายจะส่งสวัสดีวันจันทร์มาให้ในกลุ่มครอบครัว แต่ครั้งนี้จิส่งหาคุณยายเป็นการส่วนตัวและหวังว่าท่านคงไม่ช็อกตอนเปิดอ่าน หลานบอกรักในรอบปีอาจจะทำให้ความดันท่านขึ้นได้
ภายในร้านมีโต๊ะไม่มากและมีคนนั่งกินอาหารอยู่ก่อนเธอกับทิมมี่จะเดินเข้ามา โต๊ะของพวกเขาตั้งอยู่ริมหน้าต่างสุดขอบร้านและใกล้กับห้องครัว พนักงานทุกคนรวมทั้งเชฟอีก 2 อยู่รอและโค้งศีรษะเล็กน้อยให้ จิน้อยไม่ได้รู้ถึงความหมายนั้นเธอเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติที่พนักงานจะโค้งศีรษะรับลูกค้า ส่วนเธอเองก็โค้งศีรษะตอบกลับไปเช่นกัน อย่างไงเสียเธอก็ยังเด็กไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นลูกค้าชั้นดีที่ไหน
ร้านอาหารหรูเธอเคยไปกินกับที่บ้านบ่อย แต่ครั้งนี้เธอต้องมานั่งกินกับคนหน้าแปลก ใช่ในใจเธอเรียกทิมมี่ว่าคนหน้าแปลกไม่ใช่คนแปลกหน้า ทั้งแปลกทั้งหยิ่งแถมดุอีกต่างหาก พนักงานไม่ได้เอาเมนูมาให้แต่กลับเสิร์ฟอาหารทันที
"ฉันสั่งไว้แล้วไวน์หน่อยไหม?"
"อืม...ค่ะ"
"ฮึ"
"ทำไม?"
"นึกว่าเธอจะตอบว่าไม่"
"แก้วเดียวฉันดื่มได้"
"ดี"
"ฉันขอถาม"
"ว่ามา"
"ฉันควรเรียกรุ่นพี่ว่าอะไรคะ"
"พี่ทิมมี่"
"แค่นั้น"
"อืม"
"โอเค"
ไม่มีบทสนทนาใด ๆ อีกเพราะจิน้อยกำลังมีความสุขกับอาหารตรงหน้า และเธอก็คิดว่าไม่น่าจะได้ยุ่งเกี่ยวกับทิมมี่อีกในอนาคต กิน ๆ ไปแล้วจ่ายเงินแม้มันอาจจะไปกระทบค่าขนมเดือนหน้าของเธอก็ตาม แต่ตอบแทนค่ามือถือที่เขาเก็บแล้วฝากเพื่อมาคืนให้ก็ถือว่าคุ้มอยู่ มือถือตอนนี้ปาไปครึ่งแสนถ้าหายเธอก็ปาดเหงื่อเหมือนกันนะ
แม้คนตัวจิ๋วจะตั้งหน้าตั้งตากินโดยทำท่าทีไม่สนใจเขา แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเธอถูกอบรมมารยาทบนโต๊ะอาหารมาอย่างดี ส้อมช้อนหยิบจับใช้ไม่มีผิดชนิดสักครั้ง จากที่เคยมองคนตรงหน้าด้วยปรายหางตาตอนนี้เขารู้สึกอยากจะมองให้เต็ม ๆ ตาแล้วสิ เมื่อกินของหวานอย่างทีรามิสุปิดท้ายเสร็จ จิก็เปิดกระเป๋าเพื่อหยิบเครดิตการ์ดขึ้นมาจ่ายค่าอาหาร แต่ร่างสูงของทิมมี่ก็ลุกขึ้นยืนก่อนที่เธอจะเรียกพนักงาน
"พี่รีบเหรอรอก่อนสิยังไม่ได้จ่ายเงิน"
"ฉันจัดการแล้ว"
"เอ๊ะ...แต่"
"ลุก"
"โอ๊ะ"
"เร็ว"
พนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลได้แต่ยิ้มหวานให้กับจิน้อย เธอได้แต่มึนงงแล้วก็เก็บเครดิตการ์ดลงกระเป๋าสะพายเช่นเดิม เธอเดินตามทิมมี่ออกมาที่จอดรถแต่คราวนี้เธอเอาตัวเองเข้าไปในรถโดยไม่ต้องรอให้เขาเปิดประตูให้
"เดี๋ยวพี่ส่งฉันข้างหน้าก็ได้"
"ทำไม"
"เกรงใจ"
"นั่งเฉย ๆ"
"สั่งอีกล่ะ" [ งุบงิบ ]
"อะไร"
"เปล่าค่า...นั่งค่ะจะนั่งเฉย ๆ"
พอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนแอร์ในรถก็เย็นสบาย บวกกับไวน์แก้วใหญ่ที่ดื่มเพื่อเพิ่มอรรถรสก็ดีซะจนทำให้จิน้อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว การล่อลวงของซาตานไม่จนเป็นต้องเป็นมนต์สะกด แค่อาหารอร่อยกับไวน์ชั้นดีก็ทำให้ใครบางคนเผลอตัวไม่ระมัดระวัง ภาพเลือนรางในหัวของจิคือร่างสูงใหญ่คล้ายซาตานในซีรี่ย์ที่เธอเพิ่งดูเมื่อตอนวันหยุด แขนของเขาอุ้มเธอไว้แล้วพาเดินไปยังเตียงสีดำอันใหญ่โต อากาศรอบตัวช่างเย็นเฉียบแต่ร่างกายของเขากลับร้อนจนเธอเอาตัวซุกเบียดเพื่อหาความอบอุ่น ซาตานไม่ได้ผลักไสเธอเขากลับนิ่งให้เธอเอาแขนเล็ก ๆ โอบกอดเขาไว้ได้ตามความพอใจ ใช่...มันคือความฝันของจิน้อย