แลกเบอร์โทร

1368 Words
ตอนที่ 7 หลังจากมื้อค่ำที่ร้านอาหารซึ่งเต็มไปด้วยบทสนทนาที่ทำให้ทั้งสองรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น ธีร์ธวัชอาสาไปส่งรัญชน์รวีที่บ้าน แม้เธอจะรู้สึกเกรงใจ แต่ด้วยความอ่อนเพลียที่สะสมมาทั้งวัน ผสมกับความรู้สึกดี ๆ จึงทำให้เธอตัดสินใจยอมรับความช่วยเหลือของเขาแต่โดยดี รถของธีร์ธวัชเคลื่อนตัวมาจอดหน้าบ้านหลังเล็กที่ดูเรียบง่าย แสงไฟสลัวจากในบ้านสาดส่องออกมาเล็กน้อย ชายหนุ่มดับเครื่องยนต์แล้วหันมามองใบหน้าหวานที่ยังคงซีดเซียว แต่ยังพอมีรอยยิ้มประดับอยู่ “พี่ขอเข้าไปดื่มน้ำสักแก้วได้ไหมครับ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แววตาคมกริบฉายแววความหวังเล็กๆ ราวกับอยากจะยืดเวลาอยู่กับเธอให้นานขึ้นอีกนิด รัญชน์รวีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในใจก็รู้สึกแปลกๆ ที่จะให้ผู้ชายเข้าบ้านยามค่ำคืน แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความห่วงใยของเขาที่แสดงออกมา เธอก็รู้สึกวางใจและไว้ใจให้เขา “ก็ได้ค่ะ” เธอตอบตกลงในที่สุด ธีร์ธวัชยิ้มกว้างอย่างพอใจ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถและเดินตามเธอเข้าไป บรรยากาศภายในบ้านของรัญชน์รวีดูอบอุ่นและเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้จะไม่ได้หรูหราแต่ก็สัมผัสได้ถึงความรักและความใส่ใจของเจ้าของบ้าน ธีร์ธวัชเหลือบมองรอบๆ ห้องนั่งเล่นเล็กๆ ที่ตกแต่งด้วยงานฝีมือประดิษฐ์ประดอยอย่างน่ารัก ขณะที่รัญชน์รวีกำลังรินน้ำให้เขา ธีร์ธวัชก็ตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปอีก “น้องรัญชน์!!!” เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอเสียงทุ้ม ทำให้รัญชน์รวีที่กำลังหันหลังให้ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย “ค่ะ!!” เธอกล่าวตอบพร้อมหันกลับมามองด้วยความแปลกใจ ธีร์ธวัชก้าวเข้าไปหาเธอช้าๆ จนระยะห่างระหว่างเขากับเธอเหลือเพียงไม่กี่ก้าว ดวงตาคมกริบจ้องมองดวงตากลมโตของเธออย่างอ่อนโยน “พี่ขอเบอร์กับไลน์เอาไว้ติดต่อหน่อยสิ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติที่สุด แต่ในใจกลับเต้นรัวอย่างไม่อาจควบคุมได้ รัญชน์รวีถึงกับหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย “อ๋อ ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว พลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เขาสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเพิ่มเพื่อนในไลน์ ธีร์ธวัชรับโทรศัพท์ของรัญชน์รวีมาอย่างช้าๆ นิ้วแกร่งสัมผัสปลายนิ้วเรียวของเธอเพียงชั่วครู่ ก็รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่าน เขาจัดการสแกนคิวอาร์โค้ดอย่างรวดเร็ว พร้อมยิงเบอร์โทรศัพท์ของเธอเข้าไปในเครื่องของเขาก่อนจะบันทึกเบอร์โทรของเธอ “รัญชน์...พักผ่อนเยอะๆ นะครับ พี่ไม่กวนล่ะ” ธีร์ธวัชกล่าวด้วยรอยยิ้มอบอุ่นพร้อมกับยื่นโทรศัพท์คืนให้เธอ หลังจากที่ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว เขาก็ไม่คิดจะรบกวนเธออีกในตอนนี้ พร้อมกับส่งรอยยิ้มสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความหมาย ก่อนจะเดินออกจากบ้านของเธอไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้รัญชน์รวียืนนิ่งอยู่กลางห้อง หัวใจเต้นระรัวกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น หลังเลิกเรียนที่มหาวิทยาลัย รัญชน์รวีเดินออกมาจากอาคารเรียนด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ร่างกายยังคงอ่อนเพลียจากอาการท้องเสียเมื่อคืน แต่ใจกลับรู้สึกตื่นเต้นกับบทบาทใหม่ที่กำลังจะมาถึง ไม่นานนัก รถเอสยูวีสีขาวคันคุ้นตาก็มาจอดเทียบอยู่ตรงหน้า ธีร์ธวัชลดกระจกลงพร้อมส่งยิ้มกว้างมาให้ แววตาคมกริบฉายแววความสุขอย่างปิดไม่มิด “น้องรัญชน์เรียนเสร็จแล้วเหรอครับ” เขาเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงสดใสอ่อนโยน รัญชน์รวีพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มบางๆ “ค่ะ พี่ธีร์มาเร็วจัง” เธอถามด้วยความประหลาดใจระคนสงสัย เพราะคิดว่าลลินดาจะเป็นคนมารับ “พี่ลินกับน้องณดา กำลังรอรัญชน์อยู่ที่บ้านครับ เราไปกันเลยมั้ย” “ค่ะ” ตอบเสร็จรัญชน์รวีก็อ้อมมาขึ้นรถของเขา เมื่อเธอก้าวเข้ามานั่งในรถเสร็จเรียบร้อย ธีร์ธวัชก็ออกรถทันที “พอพี่เล่าเรื่องของรัญชน์ให้ฟังน้องณดาฟัง หลานก็อยากเจอรัญชน์ตั้งแต่เช้าแล้วละ นี่ก็พูดถึงรัญชน์ไม่หยุดเลยนะ” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เพียงไม่นาน รถก็มาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ที่ดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา ธีร์ธวัชลงจากรถและเปิดประตูให้รัญชน์รวีอย่างสุภาพ สวนหย่อมหน้าบ้านเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ บรรยากาศภายในบ้านมีของเล่นเด็กวางกระจัดกระจายอยู่ ไม่นานก็ได้ยินเสียงหัวเราะสดใสของเด็กน้อยก็ดังขึ้น น้องณดาวัยห้าขวบวิ่งออกมาจากห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางร่าเริง ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นรัญชน์รวี ณดาดูจะยังไม่คุ้นเคยกับเธอมากนัก เด็กหญิงเกาะติดธีร์ธวัชอยู่ตลอดเวลา ธีร์ธวัชพยายามชวนณดาให้มาเล่นกับรัญชน์ แต่ณดาก็เอาแต่หลบอยู่ข้างหลังของผู้เป็นน้า “ณดาครับ มาเล่นกับพี่รัญชน์สิครับ พี่รัญชน์ใจดีน้า...” ธีร์ธวัชพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ณดายังคงนิ่งเงียบ รัญชน์รวียิ้มให้ธีร์ธวัช “ไม่เป็นไรค่ะ...พี่ธีร์ ให้เวลาน้องณดาได้ปรับตัวก่อนก็ได้” เธอหันไปยิ้มให้ณดาก่อนจะเอ่ยขึ้นกับสาวน้อย “พี่รัญชน์มีสมุดระบายสีกับสีสวย ๆ มาให้ณดาด้วยนะ อยากระบายสีไหมคะ” ณดาเงยหน้าขึ้นมองรัญชน์ ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย เธอพยักหน้าเบา ๆ รัญชน์จึงค่อย ๆ หยิบสมุดระบายสีและสีออกมาจากกระเป๋า แล้ววางลงบนโต๊ะ ณดาค่อย ๆ เดินเข้ามาหาอย่างช้า ๆ และเริ่มนั่งลงระบายสีอย่างเงียบ ๆ ธีร์ธวัชมองภาพนั้นด้วยความโล่งใจ เขาไม่รู้ว่ารัญชน์มีวิธีเข้าหาเด็กเก่งขนาดนี้ได้อย่างไร เขารู้สึกว่าการตัดสินใจจ้างรัญชน์มาเป็นพี่เลี้ยงณดาเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดแล้ว “คุณแม่อยู่ไหนครับณดา” ธีร์ธวัชถามหลานสาว “คุณแม่คุยโทรศัพท์อยู่ในห้องค่ะ” ณดาตอบ พลางจูงมือรัญชน์รวีเดินนำไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างกระตือรือร้น เมื่อเริ่มสนิทสนมกันแล้ว ธีร์ธวัชเดินเข้าไปตามพี่สาวในห้องทำงาน เมื่อเข้ามาในห้องทำงาน ลลินดากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ มือถือเอกสารบางอย่าง แต่เมื่อเห็นน้องชายที่บอกว่าพี่เลี้ยงคนใหม่ของลูกสาวมาถึงแล้ว เธอก็คลี่ยิ้มทันที ก่อนจะเดินตามน้องชายออกไปที่ห้องนั่งเล่น “น้องรัญชน์ มาถึงแล้วเหรอจ๊ะ” ลลินดาเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ท่าทางใจดีดวงตาของเธอมองสำรวจรัญชน์รวีด้วยความสนใจ “สวัสดีค่ะพี่ลิน” รัญชน์รวียกมือไหว้อย่างนอบน้อม เธอรู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศที่อบอุ่นของบ้านหลังนี้ ทักทายกันเสร็จ ลลินดาก็บอกให้ ลูกสาวไปเล่นกับพี่เลี้ยงต่อ “ณดาไปเล่นกับพี่รัญชน์ก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่กับน้าธีร์จะคุยเรื่องงานกัน” ลลินดาบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เย้! ไปค่ะพี่รัญชน์! เราไปวาดรูปกันต่อนะคะ!” น้องณดาไม่รอช้า รีบจูงมือรัญชน์รวีไปยังมุมห้องที่มีโต๊ะและอุปกรณ์วาดรูปวางอยู่ รัญชน์รวียิ้มรับ เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีตั้งแต่แรกพบ ธีร์ธวัชมองตามพี่เลี้ยงและหลานสาวใบหน้าของเขายิ้มอย่างพึงพอใจ นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีของแผนการที่เขาวางไว้... และอาจจะมากกว่าแค่เรื่องของพี่เลี้ยงเด็ก เขารู้สึกได้ว่าชีวิตของเขากำลังจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD