"อะ อะไรนะคะ"
พริบพราวถามใหม่ราวกับไม่เชื่อหูตัวเองว่าเธอเพิ่งได้ยินคำพูดทำร้ายจิตใจจากผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็น'คู่เดท'ของเธอ
"ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว และไม่มีวันชอบคุณ ฝากบอกคุณแม่ด้วย ว่าแผนที่จะจับคู่ผมกับคุณ มันไม่มีวันสำเร็จ อย่าได้พยายามเลย"
เพล้ง!!
ภาพรักแรกในวัยเด็กของเธอแหลกสลายไม่มีชิ้นดี ทุกอย่างมันจบก่อนที่จะมีจุดเริ่มต้นด้วยซ้ำไป
"อ๋อค่ะ พราวก็มีคนที่ชอบแล้วเหมือนกันค่ะ ที่มาเพราะพราวอยากรักษาน้ำใจคุณลุงคุณป้า แบบ บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นนะคะ"
คนที่เธอชอบ ก็เขาไง ไอ้บื้อเอ้ย!!!
"เป็นหลานที่ดีจริงๆเลยนะครับ คุณจะสั่งอะไรมั้ย ผมหิวยังไม่ได้กินอะไรเลย"
"ไม่ค่ะ เชิญตามสบาย ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อนนะคะ"
ร่างงามทำท่าจะลุกขึ้น แต่มือหนาของเขาแตะสัมผัสตัวเธอ มันให้ความรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต ชาๆ วูบๆ ไปทั้งร่าง จนคนตัวเล็กต้องรีบขยับมือหนีทันที
"ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะโดนตัว แต่แค่จะบอกว่า อยู่เป็นเพื่อนกินข้าวก่อนได้มั้ย ร้านหรูขนาดนี้ ถ้าผมกินคนเดียวคงจะประหลาดแย่"
หึ! แต่ฉันทนกินข้าวกับคนที่เพิ่งปฏิเสธฉันที่เพียบพร้อมไปด้วยความสวย ความรวย ความสาวไม่ได้ เชอะ! ในเมื่อมีคนรักอยู่แล้ว ทำไมไม่ตามมากินข้าวด้วยกันล่ะ จะมาทนกินกับคนที่ไม่ได้ชอบแบบเธอ จะกินลงรึไง
"พราวก็อยากอยู่ทานเป็นเพื่อนพี่นนท์นะคะ แต่พอดีคนคุยของพราวเขาทักมาให้พราวไปช่วยเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณแม่เขานะคะ พราวคงไม่สะดวกที่จะทานกับพี่นนท์ พี่นนท์ลองโทรหาแฟนของพี่นนท์เถอะค่ะ"
"เขาไม่ใช่แฟน แต่เป็นคนที่ฉันชอบและไม่มีวันเปลี่ยนใจด้วย"
พริบพราวอยากจะแหมให้ถึงดาวอังคาร จ๊ะ พ่อคนหล่อ พ่อคนรักเดียวใจเดียว เธอเองก็ลูกพระยานาหมื่น เรื่องอะไรจะต้องง้อแค่ผู้ชายที่แอบชอบมาเป็นสิบๆปีคนเดียวคนนี้ด้วย เห้อ หัวใจคล้ายเหทือนลูกโป่งที่ปล่อยลม มันแฟ่บ มันห่อ มันเหี่ยว
"งั้นพราวขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ"
หญิงสาวพยายามที่จะประคับประคองสีหน้าให้รื่นเริง สดใส เพราะไม่อยากตกเป้าสายตาคนอื่นมากกว่านี้ ทั้งที่คนทั้งร้านก็เห็นว่าเธอรอผู้ชายคนนี้มาหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ตาม แถมที่รอ กลับโดนพูดใส่หน้าว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เธออย่าหวัง ก็ดี ดีจริงๆ วันดีๆเนี่ย
เธอจะกลับไปตัดใจ เขาประกาศกร้าวออกขนาดนั้น ไม่ต้องลุ้นค่ะ คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายขา น้องพริบพร่วยังขายไม่ออก ต้องเกาะคุณพ่อคุณแม่ไปอีกนานแสนนานค่ะ
หลังจากที่เดินขึ้นมาบนรถ เสียงโทรศัพท์สั่นขึ้นมาเตือนทันที เป็นเบอร์แปลกตอนแรกพริบพราวจะไม่รับ แต่คิดขึ้นได้ว่าเผื่อเป็นลูกค้าที่ต้องการอินฟูตัวน้อยคนนี้ไปรีวิวสินค้า รับสักหน่อยก็คงดี
"หนูพราว..."
เสียงนี้ ป้าดวงใจ แม่ธนนท์แน่นอน
"ค่ะ ป้าดวง"
"เป็นไงบ้างจ๊ะ เดทกับตานนท์ พี่เขาโอเครึเปล่า ป้าขอโทษด้วยนะ วันนี้พี่เขาไปสายเพราะติดเคสด่วน หมอก็แบบนี้แหละ ไม่ค่อยมีเวลาว่างที่แน่นอน ถ้าโดนตามก็คือต้องไป"
ปลายสายมีน้ำเสียงของความรื่นเริง ดีใจ ที่สามารถลากลูกชายมาออกเดทกับหญิงสาวได้สำเร็จ
"เอ่อ คุณป้าค่ะ พอดีว่า ตอนนี้พราวกับพี่นนท์เราแยกย้ายกันแล้วค่ะ"
"อ้าว ทานข้าวกันเสร็จแล้วเหรอ ทำไมไม่ไปหากาแฟหรือของหวานกินกันต่อล่ะลูก"
"จริงๆแล้ว ข้าวก็ไม่ได้ทานค่ะ"
"ห๊ะ ทำไมล่ะ ทำไมไม่ได้ทานล่ะลูก มีอะไรไม่พอใจกันรึเปล่า"
"พี่นนท์บอกพราวว่า เขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว พราวเลยไม่อยากจะเดทต่อแล้วค่ะ พราวไม่อยากจะฝืนใจพี่เขา"
อย่าหาว่าเธอขี้ฟ้องเลยนะ แต่เรื่องจับคู่ระหว่างเธอกับพี่นนท์คนดีจะได้จบสิ้นไปเลย ไม่ต้องมีความหวัง ไม่ต้องมีเยื่อใยกันอยู่
"หนูพราวว่าไงนะ ตานนท์บอกว่าเขามีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้ว"
"ค่ะ พี่นนท์บอกพราวแบบนั้น"
บอกอยู่สองสามรอบด้วยนะ ถ้าจำไม่ผิด ย้ำแล้วย้ำอีก
"คุณดูสิค่ะ ลูกคุณทำงามหน้าแค่ไหน มาปฏิเสธหนูพราวแบบนี้ได้ยังไง นี้แปลว่า ตานนท์ยังคิดจะรักจะชอบผู้หญิงคนนั้นอีก..."
ตุ๊บ พลั่ก เพี๊ยะ
"โอ้ย คุณดวง ผมเจ็บ คุณดวง"
เสียงคล้ายปลายสายกำลังทะเลาะกัน นั่นทำให้พริบพราวต้องเอาโทรศัพท์ออกจากหูและกดวางในที่สุด
อ่า...พอจะเข้าใจล่ะ
ทั้งป้าดวง ทั้งลุงธนพ น่าจะพอรู้ว่าลูกชายตัวเองชอบใคร แต่แค่ไม่ชอบขี้หน้าว่าที่ฃูกสะใภ้หรืออะไรก็ตาม เลยเลือกที่จะมาลากตัวเธอ เข้าไปให้หมอธนนท์มาดูตัว เผื่อจะได้เปลี่ยนใจ
แต่บังเอิญว่าหมอธนนท์ผู้รักเดียวใจเดียว ปักใจรักสาวคนนั้นเหลือเกิน ถึงขั้นประกาศกร้าวว่า ผมจะรักแค่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียว ทำให้นาวมารร้ายแบบเธอ ยังไม่ทันออกโรงไปแยกคู่รักที่หวานชื่นกัน ก็ต้องโดนเขาเขี่ยออกอย่างง่ายดาย
เห้อ...
ดีแล้วล่ะ เธอก็จะได้ตัดใจ ออกจากพื้นที่ปลอดภัย หัวใจได้เป็นอิสระ ว่าแต่ทำไมมันรู้สึกแสบๆคันๆ แปล๊บๆ ปล๊าบๆแบบนี้
แถมเมื่อแตะที่ใบหน้าสวย ปรากฏว่า กลับมีน้ำสีใสๆไหลอาบใบหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่
หรือว่านี้ คืออาการของคนอกหักกันล่ะเนี่ย