1 เปิดเทอมวันแรก
"อ๊ะ~ อ๊าส์~ อ๊าา อ๊าา พี่ซันเดร์ขาาา~"
เสีนงครางหวานดังขึ้น ทันทีที่นิ้วร้ายสอดเข้าไปที่รูร่องคับแน่นของเธอ และในจังหวะนั้นขาเรียวก็ขยับแยกออกกว้างขึ้นทันที ราวกับสมยอมให้คนที่กำลังลูกล้ำ ส่วนที่เธอสงวนที่สุดโดยง่ายดาย
"อ๊าาา พี่ซันเดร์คะ อ๊าา อ๊ะ~ รู้สึกดีจังเลยค่ะพี่ซันเดร์ อ๊าส์~"
"ชอบไหม"
เสียงแหบพร่าของชายที่เธอหลงรัก เอ่ยกระซิบเบาๆที่ข้างใบหูขาว ทำให้คนที่ได้ฟังเคลิบเคลิ้ม ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับแรงอารมณ์ ที่ไม่อาจควบคุมได้
"ชอบค่ะพี่ซันเดย์ หนูชอบพี่มากค่ะ"
เด็กสาวตอบแค่นั้นใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่ม ก็โน้มใบหน้าเข้ามาประกบจูบที่ริมฝีปากของเธอทันที นอกจากเธอจะไม่ห้ามเขาแล้วเธอยังเผยอปากขึ้น ให้เขาได้จูบเธอตามที่เขาต้องการอีกด้วย
จูบนี้ช่างหวานละมุนจนหัวใจแทบหยุดเต้น ทั้งเร่าร้อนและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน เธอไม่เคยสัมผัสจูบจากใครมาก่อน แต่ไม่รู้ทำไม เพียงแค่ริมฝีปากของเขาสัมผัส เธอกลับรู้สึกเหมือนทั้งโลกหยุดหมุน เหลือเพียงแค่เราและลมหายใจ ที่ลดกันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่พวงแก้มนุ่ม
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก
“ฮื้อ… ค่ะ…”
ฉันสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้น มาพร้อมกับกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง และเสียงที่ได้ยินนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากเสียงของแม่ฉันเอง
“ตื่นได้แล้วลูก วันนี้เปิดเรียนวันแรกนะเดี๋ยวสายเอา”
“ค่ะแม่ หนูตื่นแล้วค่ะ”
ฉันขานรับออกไป ทั้งที่หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด ราวกับความรู้สึกบางอย่างจากในฝันยังไม่ยอมจางหายไป
“นี่เราฝันไปเหรอเนี่ยเฮ้อ...บ้าชะมัด”
ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะรีบตั้งสติหันมองรอบห้องให้แน่ใจว่านั่นมันแค่ฝันจริงๆ ทั้งที่ภาพความรู้สึกจากในนั้นกลับชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ จนฉันอดสงสัยไม่ได้ ว่าทำไมความฝันนั้นถึงดูจริงขนาดนี้กันนะ แถมคนที่อยู่ในฝันก็เป็นพี่ซันเดย์อีกด้วย
“ฉันคิดถึงพี่ซันเดย์มากไป จนเก็บเอาไปฝันเลยเหรอเนี่ย เฮ้ออ…”
ฉันถอนหายใจพลางยกมือจับแก้มตัวเองเบาๆ ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่แผ่วขึ้นมาจากในอก พอรู้ว่าทั้งหมดมันเป็นเพียงแค่ความฝัน ก็อดจะรู้สึกทั้งเขินทั้งขำตัวเองไม่ได้
หลังจากตั้งสติได้ฉันค่อยๆลุกจากเตียง เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเพื่อเตรียมอาบน้ำ วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของชีวิตในรั้วมหาลัย วันที่ฉันรอคอยมานานแสนนาน
และที่สำคัญฉันจะได้เจอพี่เดย์ทุกวันหลังจากนี้ แค่คิดหัวใจก็เต้นแรงไม่หยุด ราวกับความฝันเมื่อคืนยังคงตามฉันมาถึงยามเช้า
แต่ทว่าฉันเดินมาถึงห้องน้ำ ฉันก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างแฉะๆแล้วก็เหนียวเยิ้มที่กลางหว่างขาของฉัน ฉันไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเยอะขนาดนั้น เยอะถึงขนาดที่รู้สึกว่ามันเปียกแฉะไปหมด
"บ้าเอ้ย...แค่ฝันเองแท้ๆ"
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันฝันอะไรแบบนั้น แต่ถึงจะเขินอยู่บ้าง ฉันก็รู้ดีว่านั่นเป็นเรื่องธรรมชาติของวัยหนุ่มสาว เลยไม่ได้ใส่ใจมากนัก ก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมไปมหาลัย ในเช้าวันเปิดเทอมวันแรก
“ลงมาได้ซักที มากินข้าวก่อนแล้วค่อยไป แม่ให้พี่แก้วตาเตรียมข้าวต้มร้อนๆไว้ที่โต๊ะแล้วนะ”
เสียงแม่ตะโกนเรียกจากชั้นล่างดังขึ้นทันทีที่ฉันเปิดประตูห้องออกมา
“แต่หนูยังไม่หิวเลยค่ะแม่”
ฉันตอบเสียงอ่อย พร้อมทำหน้ามุ่ยอย่างคนไม่อยากกินอะไรในตอนเช้า ก็ฉันไม่เคยชอบอาหารเช้าเลย มันรู้สึกว่าเร็วเกินไปสำหรับมื้อแรกของวัน
“ไม่หิวก็ต้องกินสิลูก ถ้าไม่กินแล้วจะเอาสารอาหารที่ไหนไปเลี้ยงสมอง เดี๋ยวก็เรียนไม่รู้เรื่องหรอก”
“ค่ะแม่...”
ฉันลากเสียงตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอยู่ดี
“ให้มากินข้าวทำหน้ายังกะถูกบังคับแน่ะ”
พ่อพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มขำๆ ขณะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงหัวโต๊ะ เสียงหัวเราะเบาๆ ของเขาทำให้บรรยากาศเช้าวันนี้ดูสดใสขึ้นมานิดหน่อย
มหาวิทยาลัยบดินทรยอเซฟ
“มิราทางนี้”
ฉันโบกมือเรียกเพื่อนทันทีที่เห็นเธอกำลังเดินอยู่อีกฝั่งของถนน เราสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่มอต้น ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะจนกลายเป็นเพื่อนรัก และแน่นอนว่าพอถึงเวลาขึ้นมหาลัย เราก็เลือกที่จะมาเรียนที่เดียวกันอีกตามเคย
มิราหล่อนชอบและมีความฝันอยากเรียนคณะวิศวะอยู่แล้ว เธอทั้งเก่งและตั้งใจมากๆ ส่วนฉันจะพูดยังไงดีล่ะ ก็แค่อยากเรียนวิศวะตามพี่ซันเดย์ก็เท่านั้นแหละ พูดง่ายๆคือฉันไม่ได้สนใจคณะนี้นักหรอก แต่อยากอยู่ใกล้พี่ซันเดร์เขามากกว่า
“แก”
เสียงของมิราดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เธอรีบวิ่งข้ามถนนมาหาฉันอย่างไม่รอช้า ก่อนจะโผเข้ามากอดฉันแน่นจนฉันแทบหายใจไม่ออก
"โอ้ยแกฉันหายใจไม่ออก"
"ก็ฉันคิดถึงแกอ่ะ"
ในช่วงปิดเทอมมิราหล่อนไปอยู่ต่างประเทศซะนาน เราสองคนก็เลยไม่ได้เจอกันเลยในช่วงปิดเทอมแบบนี้ ก็ไม่แปลกหรอกที่เราสองคนจะคิดถึงกันมาก
“แกใส่ชุดนักศึกษาแล้วแกสวยมากเลยพะพิ้ง งานนี้หนุ่มๆตามจีบตรึมแน่ๆ”
เสียงแซวของมิราทำเอาฉันยิ้มแก้มปริ เธอก้มมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า แววตาเป็นประกายยังกะไม่เคยเห็นฉันงั้นแหละ
“แกเองก็ใช่ย่อยนะดูสิ กระโปรงทรงเอเข้ากับแกมากมิรา แกใช่ชุดที่ฉันเลือกให้วันนั้นใช่ปะ บอกเลยงานนี้หนุ่มๆมีลังเลกันบ้างละ”
ฉันพูดพลางหัวเราะเบาๆ มิราเพื่อนสนิทของฉันทั้งสวย ทั้งดูดีไม่แพ้ฉันเลยละ เราสองคนก็ถือว่าสวยพอๆกันแหละ อันนี้ไม่ได้อวยตัวเองกับเพื่อนนะ แต่เราสองคนสวยสูสีกันเลยจริงๆ ตัวเล็กๆ ผิวขาว ตาโต หุ่นดีพอใช้ พอเดินคู่กันทีไรก็มักจะมีคนบอกว่าเราคล้ายกันมาก
มิราเป็นเพื่อนที่ฉันรักมากที่สุดในชีวิต และยิ่งกว่านั้นบ้านของเธอก็ไม่ธรรมดา เป็นถึงลูกสาวเจ้าของห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้เลยด้วย รสนิยมของเราสองคนก็เลยค่อนข้างคล้ายกันแทบทุกอย่าง
“ใช่แล้วสวยไหม”
มิราพูดพลางหมุนตัวให้ฉันดูอย่างมั่นใจ ฉันอดคิดในใจไม่ได้ว่าเพื่อนของฉันทั้งสวยแล้วก็น่ารัก ผมยาวสลวยของเธอปลิวตามแรงหมุนจนฉันอดหัวเราะไม่ได้
“สวยค่ะ สวยมากค่ะเพื่อน”
ฉันตอบพลางยิ้มกว้างเพราะพูดจากใจจริงเลย ถ้าฉันเป็นผู้ชายล่ะก็คงไม่ลังเลจะจีบยัยมิรานี่แน่ๆ
“แกฉันหิวแล้วอ่ะ ไปหาอะไรกินก่อนเถอะปะ”
เสียงของยัยมิราดังขึ้นพร้อมกับมือที่คว้าแขนฉัน
“แต่ฉันกินข้าวมาแล้วนะ ฉันไปกับแกได้แต่ฉันไม่กินด้วยนะ”
ฉันตอบพลางทำหน้ามุ่ย
“ได้ดิปะรีบไปเลย เดี๋ยวไม่ทันลงทะเบียน”
ยังไม่ทันที่ฉันจะอ้าปากพูดอะไรต่อ มิราก็ลากแขนฉันไปทันที ร่างของฉันแทบจะปลิวตามแรงดึงของเพื่อนสาว
“โอ๊ย เบาๆหน่อยสิแกเดี๋ยวแขนฉันก็หลุด”
"เวอร์มากค่ะเพื่อน ฉันออกแรงเบาๆเองเถอะ"
ทั้งคู่เดินพูดคุยกันไปพร้อมทั้งยิ้มขำไปด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานเกือบสองเดือน
“นักศึกษาคนไหนมาถึงแล้ว มาลงทะเบียนก่อนนะครับ”
เสียงของรุ่นพี่ดังลั่นทั่วลานหน้าอาคารเรียน พอดีกับจังหวะที่ฉันและมิราเดินมาถึงพอดี
“แกพี่เขาเรียกไปลงทะเบียนแล้ว”
มิราสะกิดแขนฉันเบาๆ แต่ตอนนั้นสายตาของฉันไม่ได้อยู่ที่โต๊ะลงทะเบียนเลย เพราะฉันกำลังมองหาพี่ซันเดย์อยู่เลย
คณะวิศวะคนไม่เยอะมาก แต่ทำไมฉันไม่เห็นพี่ซันเดย์สักทีนะ