“นาย…”
เธอควรตกใจกับเรื่องไหนก่อนดี เรื่องที่เห็นผู้หญิงในห้องตรวจโดยไม่รู้ว่าสองคนนี้กำลังทำอะไรกันอยู่ กับเรื่องที่เขาเป็นผู้ชายในคืนนั้น ที่เคยมีความทรงจำอันเร่าร้อนด้วยกัน
แม้คืนนั้นเธอจะเมาและดูขาดสติไปบ้าง แต่เธอก็จดจำใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาได้ดี คืนนั้นเขาสวมใส่ชุดสบายๆ หากแต่ดูมีเสน่ห์เหลือล้น ทว่าวันนี้…เขาอยู่ในเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตา ขัดกับความร้อนแรงในคืนนั้นโดยสิ้นเชิง
คุณหมอหนุ่มเดินผ่านหน้ามีญ่าไปนั่งลงเก้าอี้ทำงาน ใบหน้าที่เคยเจ้าเล่ห์ในคืนนั้นดูเรียบนิ่งราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน มือที่กำลังจับปากกาอยู่นั้น…คือมือเดียวกันกับที่ใช้ถอดชุดของเธอ
และ…สัมผัสร่างกายของเธอ
“ถ้างั้นจีน่ากลับก่อนนะคะหมอ เจอกันใหม่ค่ะ” จีน่าส่งยิ้มให้คุณหมอที่ตัวเองหมายปอง ก่อนจะเดินเชิดผ่านหน้ามีญ่าออกไปอย่างไม่พอใจที่โดนขัดจังหวะในการจีบคุณหมอหนุ่ม
ไรอัน ไม่สนใจจีน่าสักนิด ไม่แม้แต่จะกล่าวคำลาหรือส่งยิ้ม ในขณะที่จีน่าพูดสายตาก็มองหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือคลิกเมาท์ดูงานของตัวเอง การกระทำแสนเย็นชาพลอยทำให้จีน่ารู้สึกอับอาย ท่ามกลางสายตามีญ่าและพยาบาล
พยาบาลเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้มีญ่าและไรอันอยู่กันตามลำพัง เมื่อทั้งห้องมีกันแค่สองคน บรรยากาศภายในห้องเริ่มปกคลุมด้วยความเงียบจนมีญ่ารู้สึกอึดอัด
“นั่งสิ” ไรอันขยับริมฝีปากบอกมีญ่า โดยสายตาไม่ได้มองหญิงสาวแม้แต่น้อย
มีญ่าสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะก้าวเข้าไปนั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของไรอัน มือที่วางบนตักบีบเข้าหากันแน่นเพื่อระบายความอึดอัด
“ฉันมาตรวจร่างกายค่ะ”
“…”
“นัดไว้ตอนสิบโมงเช้าตรง แต่ว่าตอนนี้มันจะสิบเอ็ดโมงแล้ว ปกติหมอเขาตรงต่อเวลาไม่ใช่เหรอคะ” ต่อให้จะทำตัวไม่ถูกที่เขาคือคนเดียวกับคืนนั้น แต่ก็อดรู้สึกไม่โอเคกับเรื่องที่ถูกเลทมาครึ่งชั่วไม่ได้
“เรื่องนั้นขอโทษด้วยครับ” ไรอันขยับริมฝีปากพูด หากแต่สายตายังคงเอาแต่มองงานตรงหน้า
คำขอโทษที่สวนทางกับการกระทำ ทำให้มีญ่าขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ปากบอกขอโทษแต่สายตากลับไม่ยอมมองนี่เรียกว่าอะไรกัน ขอโทษพอเป็นพิธีอย่างนั้นหรือ
“สงสัยฉันคงต้องรายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของคุณให้กับทางโรงพยาบาลได้รู้แล้วล่ะค่ะ” เธอพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แต่พอเหลือบไปเห็นชื่อและนามสกุลของเขาถึงกับชะงัก…
นายแพทย์ รวิกร ภูริธนากุล
‘ภูริธนากุล’ นี่มันนามสกุลของคุณลุงรามิลนี่นา อย่าบอกนะว่าเขาเป็น…ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล!
ไรอันละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มามองมีญ่า ก่อนจะหันไปหยิบแฟ้มประวัติของคนไข้ตรงหน้ามาอ่าน ความเงียบเข้าปกคลุมภายในห้องสี่เหลี่ยมอีกครั้ง คุณหมอหนุ่มไม่มีทีท่าจะหวาดกลัวต่อคำขู่ที่อีกฝ่ายจะรายงานเรื่องพฤติกรรมให้ทางโรงพยาบาลรู้แต่อย่างใด
เพราะเขานี่แหละ…เจ้าของโรงพยาบาล
“เริ่มตรวจร่างกายกันเลยไหมครับ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“…ค่ะ” เธอตอบอย่างไม่เต็มใจนัก
ไรอันลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปหยิบอุปกรณ์ตรวจร่างกายบนโต๊ะเล็กข้างเตียงตรวจ ขณะที่มีญ่าลุกตามอย่างไม่เต็มใจ ความอึดอัดในบรรยากาศยิ่งทวีคูณเมื่อเธอเห็นสายตาเรียบเฉยของเขาที่มองมาเพียงชั่วครู่ ก่อนจะหันไปเตรียมอุปกรณ์โดยไม่ได้พูดอะไรต่อ
“นายเป็นลูกชายของคุณลุงรามิลเหรอ”
“ครับ เชิญนั่งครับ ผมจะเริ่มตรวจ”
มีญ่ากัดริมฝีปากก่อนจะขึ้นไปนั่งบนเตียงตรวจ เธอพยายามไม่คิดฟุ้งซ่านขณะที่เขาเริ่มตรวจร่างกายตามขั้นตอนปกติ ทว่าทุกครั้งที่มือของเขาแตะผิวของเธอเพื่อวัดชีพจรหรือกดตรวจจุดต่างๆ ความทรงจำในคืนนั้นก็หวนกลับมาอีกครั้ง…
คืนนั้นผ่านมานานแล้ว เลิกคิดได้แล้วยัยมีญ่า คงมีแค่เธอที่คิดสินะ เพราะท่าทางของเขาดูปกติราวกับเรื่องในคืนนั้นไม่เคยเกิดขึ้น ไม่ถามและไม่ทักทายกันสักคำ ถ้าจะบอกว่าลืมก็คงไม่ใช่ คิดว่าเขาไม่สนใจเลยมากกว่า เธอสะบัดไล่ความคิดพวกนั้นออกไปจากหัว
คนอย่างเขาคงมีสาวๆ เข้าหาไม่ขาด ดูอย่างผู้หญิงคนนั้นที่เพิ่งเดินออกไป เธอมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ได้มาหาหมอเพราะป่วยอย่างแน่นอน หน้าตาเขาที่หล่อเหลาไปทั้งใบหน้า รูปร่างสูงใหญ่ราวกับนายแบบ การศึกษาก็ดี แถมยังเป็นถึงลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลที่พ่วงมาด้วยตำแหน่ง ‘คุณหมอ’ สาวๆ ที่ไหนไม่ชอบเขาบ้าง ขนาดเธอยังแอบใจสั่นตอนที่เห็นเขาใส่เสื้อกาวน์สีขาว
“เสร็จแล้วครับ”
เสียงเรียบนิ่งของไรอันดึงเธอออกจากภวังค์
“ขะ…ขอบคุณค่ะ” เธอรีบลุกจากเตียงตรวจ แต่เพราะความเร่งรีบและไม่ทันระวัง เท้าของเธอกลับลื่นไถลจากขั้นบันไดเล็กๆ ของเตียงตรวจ
แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน…
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ร่างของเธอเสียหลักเซถลาไปหาชายหนุ่มอย่างไม่ทันตั้งตัว สองมือของเธอยกขึ้นเพื่อคว้าบางอย่าง
“ว้าย!” เธอส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ร่างของเธอเซถลาไปหาคุณหมออย่างไม่ทันตั้งตัว สองมือของเธอยกขึ้นเพื่อคว้าบางอย่าง และสิ่งที่มือของเธอสัมผัสกลับเป็นแผงอกแกร่งแน่นของเขา
แต่ที่แย่ไปกว่านั้น…
ริมฝีปากของเธอชนเข้ากับริมฝีปากของเขาเต็มๆ
จูบ…
ใช่! เธอกับเขาจูบกัน
ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนลงชั่วขณะ หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบหลุดจากอก ความร้อนแผ่กระจายไปทั่วใบหน้า โดยที่มือของเขากำลังโอบเอวเธอเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ล้ม
เธอผละตัวออกทันที ริมฝีปากยังคงรู้สึกชา ในขณะที่ใบหน้าของเธอร้อนวาบจนแทบไม่กล้าสบตากับเขา
“ฉะ…ฉันขอโทษ” เธอรีบพูดจนเสียงสั่น ร่างกายตอนนี้แข็งทื่อไปหมด
“ไม่เป็นไรครับ” เสียงของเขาเรียบนิ่งเหมือนเดิม กลิ่นคาวเลือดตรงริมฝีปากทำให้เขายกมือขึ้นไปแตะดูเบาๆ และพบว่าปากของตัวเองนั้นแตกจากแรงกระแทกเมื่อครู่
“ปากนาย…” จะทำไงดีล่ะยัยมีญ่า ดันไปทำปากคุณหมอแตกซะนี่
“แผลแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก”
“ฉันขอโทษจริงๆ นะคะ ไม่คิดว่าจะถึงขั้นทำปากของคุณแตก”
ไรอันพยักหน้าเบาๆ
“ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วครับ”
ไม่รู้เธอคิดไปเองคนเดียวไหม แต่นั่น…คงไม่ใช่ประโยคไล่ทางอ้อมใช่ไหม?
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เธอรู้ตัวว่าโดนไล่จึงก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องตรวจด้วยหัวใจที่เต้นแรงและใบหน้าแดงก่ำ
มีญ่าแทบไม่กล้าสบตากับใครที่เดินสวนไปมาบนโถงทางเดิน ราวกับกลัวว่าจะมีใครรู้เรื่องที่ตนเพิ่งจูบกับคุณหมอหนุ่มมา
แต่จะว่าไป ปากคุณหมอก็นุ่มใช้ได้เลยนะ
ยังนุ่มเหมือนคืนนั้นไม่มีผิด…