เช้าวันรุ่งขึ้น
มาร์ชเพื่อนสนิทของหญิงสาวก็เดินทางมารับเธอที่บ้านและพากันร่ำลาพ่อกับแม่ของหญิงสาวเพื่อออกเดินทาง ทั้งสองพากันเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็มาถึงคอนโดที่ติณภพนั้นเป็นคนจัดการให้ เธอดูจากแผนที่ก็พบว่าเดินทางไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงที่ทำงาน อยู่ต่างจังหวัดมันเดินทางสะดวกอย่างนี้นี่เอง และตอนนี้ทั้งสองก็ยืนรอกุญแจห้องเพื่อขนของเข้าคอนโด ไม่นานก็มีรถสปอร์ตคันสีดำหนึ่งคันขับเข้ามาจอดที่หน้าล็อบบี้ของคอนโด เมื่อเจ้าของรถคันนั้นลงจากรถก็พบว่าเป็นชายหนุ่มที่รักการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก ด้วยหุ่นสมส่วน สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ผิวเข้ม ใบหน้าของเขามีเคราขึ้นเล็กน้อยที่ไม่ได้ผ่านการโกนหนวดมา จมูกโด่ง คิ้วเข้ม ตาคมและปากเป็นกระจับรับกับใบหน้าของเขา ชายคนนี้สวมเพียงเสื้อยืดแบรนด์เนมกับกางเกงยีนส์ขายาวเพียงเท่านี้ก็ทำให้เธอละสายตาไม่ได้เลย
ตึกตัก!! ตึกตัก!!
ใจของเธอเต้นแรงมาก และจู่ชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ และเปล่งคำถามออกมา
“คุณชื่อโมริใช่ไหม??”
“เออ ค่ะ ฉันโมริค่ะ”
“นี่กุญแจของคุณ และชายหนุ่มก็ยื่นกุญแจห้องให้” ใช่หญิงสาวรอกุญแจห้องจากติณภพ
“คุณคือ..คุณติณภพใช่ไหมคะ??”
“อืม ฉันติณภพ”
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ชายหนุ่มเพราะยังไงเธอก็อายุอ่อนกว่าเขาเป็นสิบๆ ปี
“สวัสดีครับ คุณติณภพ ผมมาร์ชครับ” เพื่อนหนุ่มของหญิงสาวก็เดินเข้ามาทักทายเช่นเดียวกัน
“อืม สวัสดี รับกุญแจไปซะ ฉันมีธุระจะไปต่อ ดูแลกันเองนะ ฉันไม่ว่าง” และหญิงสาวก็รับกุญแจห้องจากชายหนุ่ม และหลังจากนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่ร่ำลา จนทั้งสองนั้นยืนงง
“อะไรของเขาวะ” หญิงสาวยืนเกาหัวแบบงงๆ
“เธอตายแน่โมริ น่ากลัวว่ะ” เพื่อนหนุ่มของเธอพูดออกมา และทั้งสองก็พากันขนของขึ้นมายังห้องที่ชายหนุ่มจัดหาให้ ภายในคอนโดนั้นเป็นห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นและมีโซนสำหรับทำครัว มองออกไปเป็นสระว่ายน้ำและเป็นวิวทะเล
“เห้อ สดชื่นจังเลย”
“เออ ห้องนี่ก็ใช้ได้เหมือนกันนะเนี้ยะ”
และทั้งสองก็ช่วยกันจัดของโดยใช้เวลานานเพียงไม่นานก็เรียบร้อย เพราะไม่ค่อยมีของอะไรมาก แค่กระเป๋าเดินทางเพียงสองใบ
“อ้าว ทำไมมีกระเป๋าเสื้อผ้าของแกอ่ะมาร์ช”
“ก็ฉันจะมานอนค้างที่นี่กับเธอด้วยไง”
“อ๋อ งั้นก็ดีเลย เราออกไปขับรถเล่นกันดีไหม” เป็นปกติของเพื่อนหนุ่มที่มักจะนอนกับเธอเป็นประจำไม่ว่าจะไปหาเธอที่อังกฤษหรือไปที่ไหน จนทุกคนมองว่ากลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
“อืม ดีเหมือนกัน ฉันก็ไม่ได้มาเที่ยวที่นี่นานแล้ว”
“งั้นเราออกไปกันเลยไหม”
“อืม ไปกัน”
ด้านของติณภพ
“หึ ยัยเด็กใจแตก อายุแค่นี้หัดมีแฟนแล้ว แถมยังให้มาส่งถึงที่นี่อีก” ชายหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวที่เคยขี้มูกโป่งตอนเป็นเด็ก เมื่อโตขึ้นมาก็อดชมไม่ได้เลยว่าเธอนั้นสวยมากทำเขาละสายตาไม่ได้เลย จากตอนแรกที่จะช่วยเธอจัดของเข้าคอนโดแต่พอเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอก็ทำให้เขานั้นหงุดหงิดขึ้นมา และปล่อยให้ทั้งสองขนของจัดห้องกันเอง
“แล้วกูจะหงุดหงิดทำไมวะ” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองอย่างสงสัย ตอนนี้เขาขับรถไปเรื่อยๆ เพราะไม่รู้จะไปที่ไหนเหมือนกัน ที่บอกสองคนนั้นว่ามีธุระ จริงๆ แล้ววันนี้เขาว่างทั้งวัน จึงขับรถไปหานั่งร้านอาหารริมชายหาดแห่งหนึ่ง เมื่อเขากำลังจะอารมณ์ดีอยู่นั้นสายตาก็ไปพบกับชายหญิงสองคนที่นั่งอยู่โต๊ะอาหารอีกโต๊ะหนึ่ง ไม่ไกลจากเขาที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน ก็ทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
“เหอะ โลกมันกลมจริงๆ”
อีกด้านชายหญิงที่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานนั้นก็คือมาร์ชกับโมรินั่นเอง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายโมงแล้วทั้งสองจึงเลือกร้านอาหารริมทะเลเพื่อมานั่งทานข้าวด้วยกัน ก่อนที่จะไปเที่ยวต่อ และเมื่อทั้งสองกำลังพูดคุยอย่างสนุกอยู่นั้นสายตาของมาร์ชก็เลือบไปเห็นชายหนุ่มที่นั่งอยู่คนเดียว จึงเรียกหญิงสาวขยับมาใกล้ๆ และกระซิบบอกเธอ นั่นเป็นมุมที่ติณภพเห็นว่ามาร์ชนั้นกำลังหอมแก้มหญิงสาวอยู่ ‘เหอะ หน้าไม่อาย’
“ไอ่โม คุณติณนั่งอยู่ข้างหลังเราว่ะ”
“เชี้ย โลกกลมเชี้ยๆ” หญิงสาวทำหน้าตกใจออกมา
“เราควรไปทักทายเขาดีไหมวะ” และทั้งสองก็มองหน้ากัน
“จะดีเหรอ เพิ่งเจอกันเมื่อเช้าเองนะ”
“เออ ฉันว่าดี ถ้าเธอไม่ทักเขากินหัวเธอได้นะ จำไม่ได้หรือไงที่พ่อเธอบอกว่าเขาฝากฝั่งเธอไว้กับคุณติณภพอ่ะ ถ้าไม่ทักโดนจับหักคอแน่ๆ”
“เออๆ เข้าไปทักก็ได้วะ”
เมื่อทั้งสองปรึกษากันเรียบร้อยแล้วกำลังจะเข้าไปทักชายหนุ่มก็พบว่าเขาไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้นเสียแล้ว
“หายไปไหนของเขา?? ช่างเหอะเดี๋ยวก็ได้เจอกันอยู่ดี”