โต๊ะอาหารค่ำ
คุณหญิงพรวิมลชวนนภัสสรให้อยู่รับประทานค่ำด้วยกันซึ่งท่านก็โทรให้ลูกชายมาร่วมด้วย โดยกำชับว่าต้องมาคนเดียวเท่านั้น ห้ามพานางแบบสายฝอนมโตเข้ามาในบ้านเด็ดขาด
ทว่าเขากลับไม่สนคำพูดของแม่ พาหญิงสาวที่ควงออกงานทุกวันเข้ามาในบ้านวิสุทธิ์ถากร
“คณิน แม่บอกให้ลูกมาคนเดียว พาคนอื่นมาด้วยทำไม” คุณหญิงพรวิมลเอ่ยถามเสียงแข็ง รู้ทั้งรู้ว่าท่านไม่ชอบแม่นางแบบสาวคนนี้ก็ยังพามาเสนอหน้าอีก
“แปลกตรงไหนครับ ทีแม่ยังให้ยัยลูกแม่บ้านมาดินเนอร์ด้วยกัน โดยที่ไม่บอกผมสักคำ” เขาสวนกลับพลางมองนภัสสรด้วยสายตาไม่พอใจ
เคร๊ง!
“ลูกอย่ามายอกย้อนแม่นะ!” คุณหญิงพรวิมลกระแทกช้อนส้อมกระทบจาน หมดความอดทนกับการกระทำของลูกชายคนนี้
“อุ๊ยตาย! เป็นแม่ลูกกันรักกันไว้เถอะ อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ” ไข่มุกพูดแทรกขึ้นเพื่อดับอารมณ์ร้อนระหว่างแม่กับลูก
แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล ยิ่งทำให้คุณหญิงพรวิมลไม่พอใจหนักกว่าเดิม
“กรุณามีมารยาทด้วยการไม่พูดแทรกเพราะฉันไม่ได้พูดกับเธอ!”
ไข่มุกยิ้มแห้งที่ถูกหญิงวัยหกสิบกว่าตอกหน้าเรื่องมารยาท มีหรือที่เธอจะยอมแพ้ ในเมื่อไม่ชอบหน้าเธอนัก เธอก็จะอยู่ร่วมโต๊ะดินเนอร์ให้ขัดหูขัดตานี่แหละ
“ถ้าอย่างนั้นมื้อนี้ มุกขอโอกาสฝากท้องที่บ้านวิสุทธิ์ถากรเลยนะคะ หวังว่าคุณแม่เอ้ย คุณหญิงคงไม่รังเกียจ...”
พูดจบไข่มุกก็เลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างคณิน ตักอาหารให้เขา เอาใจเขาสารพัดต่อหน้าคุณหญิงพรวิมลกับนภัสสร โดยไม่มีความเกรงใจสักนิด
คณินจ้องหน้านภัสสรที่นั่งฝั่งตรงข้ามเขม็ง ตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อคนละมหาวิทยาลัย และไม่ได้เจอเธออีกเป็นเวลาสี่ปี
เธอเปลี่ยนไปเยอะอยู่เหมือนกัน สวย น่ารัก รูปร่างดี แต่งตัวเก่ง แต่ยังคงความสุภาพเรียบร้อยในชุดเดรสยาว
ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวรุงรังเห็นครั้งแรกนึกว่ายัยเพิ้งเดินออกมาจากป่าดงดิบ
“วันนี้เอาเรื่องอะไรมาประจบคุณแม่อีกล่ะ” เขาพูดจาเหน็บแนมเธอพลางก้มหน้าหั่นสเต๊กยื่นให้ไข่มุกรับประทาน
สำหรับนภัสสร คณินยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง นั่นก็คือเกลียดเธอไม่เปลี่ยนแปลง
“ฉันนำมาลัยมากราบคุณท่านที่ส่งเสียให้ฉันเรียนจนจบค่ะ” เธอตอบเขาด้วยน้ำเสียงเรียบ นภัสสรเจียมตัวอยู่เสมอว่าเป็นแค่ลูกแม่บ้าน
ต่อให้โดนดูถูกหรือพูดจาเหน็บแนมสักแค่ไหนก็ทำได้แค่อดทนไม่มีสิทธิ์ตอบโต้
“อ้อ! ลืมไป ถ้าไม่ได้คุณแม่ฉัน เธอจะเอาปัญญาที่ไหนไปเรียนหนังสือ!” ใบหน้าหล่อยิ้มยกมุมปากสูงด้วยความสะใจที่ได้พูดจาเย้ยหยันซึ่งนภัสสรไม่แปลกใจที่เขาพูดกับเธออย่างนี้ จะเรียกว่าชินชาเลยก็ว่าได้
“คณิน!” คุณหญิงพรวิมลซึ่งนั่งหัวโต๊ะขึ้นเสียงใส่ลูกชายตัวเองอีกครั้งเพราะเขาพูดจาดูถูกนภัสสร เจ้าตัวไม่เคยแม้แต่จะให้เกียรติเธอสักครั้ง
“ผมพูดความจริงผิดตรงไหนครับ ลูกแม่บ้านจนๆ จะมีปัญญาเรียนจบปริญญาตรีได้ยังไง ถ้าคุณแม่ไม่ส่งเสีย” เขาว่าพลางยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม ก่อนจะหันไปมองหน้าไข่มุกด้วยสายตาหวานฉ่ำซึ่งไข่มุกก็เบะปากใส่นภัสสรเช่นกัน
“อย่างน้อยภัสสรก็ทำให้แม่ภูมิใจมาโดยตลอดเรียนได้ที่หนึ่ง มารยาทก็งาม จบเกียรตินิยม ทำงานเก่ง แล้วลูกล่ะทำอะไรให้แม่ภูมิใจบ้าง วันๆ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไปเที่ยวกลางคืน คิดถึงหน้าแม่บ้างไหม”
“ในสายตาแม่ ผมมีอะไรดีบ้าง ผมต้องดีใจไหมครับที่แม่ยังเห็นว่าผมเป็นลูก…”
“ก่อนะพูดอะไรออกมา หัดใช้หัวคิดซะบ้าง ถ้าแม่ไม่เห็นว่าลูกเป็นลูก คงไม่ให้เป็นรองประธานบริษัทหรอก” คุณหญิงพรวิมลลุกขึ้นยืนต่อว่าลูกชายตัวเองที่กำลังกอดอกด้วยความไม่พอใจ ก่อนยื่นคำขาดเรื่องหนึ่ง...
“ไปเลิกกับผู้หญิงทุกคนที่ลูกกำลังคบหาซะ”
“...ทำไมผมต้องทำตามด้วย”
“เพราะแม่จะให้ลูกแต่งงานกับภัสสร ถ้าลูกไม่แต่ง ตำแหน่งประธานบริษัทของลูกจะกลายเป็นของคนอื่นทันที!” สิ้นประโยคสุดท้าย คุณหญิงพรวิมลก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารทันที
ขืนอยู่ต่อไปโรคหัวใจได้กำเริบอย่างแน่นอน โดยป้าแม่บ้านประคองท่านขึ้นไปพักบนห้องนอน
คณินอึ้งไปชั่วขณะ เขาหัวเสียเป็นอย่างมากที่รู้ว่าตัวเองต้องแต่งงานกับคนที่เกลียดมาทั้งชีวิต
ตำแหน่งประธานบริษัทเป็นตำแหน่งที่เขาสูญเสียไปไม่ได้เด็ดขาด
ที่ผ่านมาเขาทำงานหนักเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคู่ควรกับตำแหน่งนี้มาโดยตลอด เขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาช่วงชิงตำแหน่งนี้ไปได้
ใบหน้าหล่อปรายตามองหญิงสาวที่นั่งบนโต๊ะราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ร่างสูงเดินอ้อมไปคว้าแขนของเธอขึ้นมา
“คุณคณินจะทำอะไรคะ...ปล่อยฉันนะ” นภัสสรเอ่ยถามด้วยความตกใจ
เขากำมือเธอไว้แน่น ฝ่ามือหนาบีบรัดจนเธอรู้สึกเจ็บ แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยตามคำร้องขอของเธอ และลากเธอมาบริเวณริมสระว่ายน้ำ
“ฉันไม่อยากแต่งงานกับลูกแม่บ้านอย่างเธอ ไปบอกแม่ฉันให้ยกเลิกงานแต่งเดี๋ยวนี้!”
“คุณผู้หญิงมีบุญคุณกับฉันมาก ท่านสั่งให้ทำอะไร ฉันก็ทำต้องทำ!”
“ถ้าแม่ฉันให้เธอไปตาย เธอก็ไปตายงั้นสิ”
“คุณคณิน…”
“หึ! อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าเธออยากเป็นเมียฉันจนตัวสั่น…” ดวงตาคมมองหญิงสาวที่ต้อยต่ำตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความดูถูก
“ฉะ…ฉันแค่อยากตอบแทนคุณท่าน…”
หึ! บุญคุณงั้นหรอ?
คณินใช้ลิ้นสากดันกระพุ้งแก้มก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ร่างเล็ก วงแขนแกร่งคว้าตัวเธอเข้ามาแนบชิดพลันจูบบดขยี้ลงบนริมฝีปากอวบอิ่มด้วยความโกรธจัดราวกับต้องการระบายอารมณ์
“อื้อ ปล่อยฉันนะ!” ร่างบางพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนเขา แต่คณินกอดรัดเธอแน่นขึ้น ก่อนจะทำในสิ่งที่ใจคิดนั่นก็คือผลักเธอตกลงในสระน้ำ
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
“นี่แค่เริ่มต้น ถ้าเธอไม่บอกแม่ฉันให้ยกเลิกงานแต่ง เจอหนักกว่านี้แน่” เขาเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงพลางมองเธอที่ยืนเปียกโชกอยู่ในน้ำอย่างสะใจ
“คุณคณินฟังฉันก่อนได้ไหม…”
“ไม่!”
หญิงสาวที่เปียกโชกอยู่ในสระว่ายน้ำ มองคณินด้วยสายตาที่อยากให้เขาเข้าว่าคนอย่างเธอไม่ได้อยากเอาชนะหรือมีเจตนาที่ไม่ดีกับเขาเลย
แต่คณินไม่สนใจว่านภัสสรต้องการเจรจากับเขาเรื่องอะไร จังหวะนั้นไข่มุกเดินออกมาควงแขนแสดงความเป็นเจ้าของเขา และเอ่ยปากออดอ้อนว่าคืนนี้อยากไปเที่ยวผับซึ่งคณินก็ตามใจพาไปขึ้นสปอร์ตที่เธอชื่นชอบ