ร่างระเหิดระหงในชุดเดรสสายเดี่ยวสีน้ำเงินโชว์แผ่นหลังโดยมีเพียงสายเส้นเล็กไขว้ไปมาจนถึงบั้นเอวซึ่งนั่นไม่สามารถปิดบังความงามของผิวเนื้อนวลนั้นได้เลยสักนิด เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวยถึงกลางหลังถูกดัดเป็นลอนเพิ่มความเปรี้ยวให้เจ้าของอีกไม่น้อย ใบหน้ารูปไข่ที่มีเครื่องหน้าอย่างพอเหมาะพอเจาะซึ่งประกอบไปด้วยดวงตายาวรีและจมูกโด่งเป็นสันโดยธรรมชาติรับกับริมฝีปากรูปกระจับที่ถูกฉาบด้วยลิปสติกสีแดงสดทำให้ใครๆ ที่มองมาต่างคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก ‘สวยจัด’ พราวฟ้าคือเจ้าของเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นแต่เต็มไปด้วยสัดส่วนอันแสนดึงดูด ทรวงอกอวบใหญ่เกินตัวแทบล้นทะลักออกมานอกตัวเสื้อที่ถูกคว้านลึกโชว์ความเซ็กซี่จนชายใดที่ได้มองต่างต้องกลืนน้ำลายกับความเย้ายวนชวนกำหนัดนั้น และแน่นอนว่าทันทีที่หญิงสาวเดินเข้า
มาภายในผับหรูหราแห่งนี้เธอก็ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนโดยทันที
“เฮ้...พราวทางนี้” พสุธาโบกไม้โบกมือให้เพื่อนสาวที่นัดกันมาปล่อยผีในคืนวันศุกร์เช่นนี้
“โทษทีนะที่มาช้า” พราวฟ้าบอกกับเพื่อนแล้วหันไปยิ้มให้ ณัฐพงษ์ซึ่งเป็นคนรักของพสุธาเพื่อนสนิทของเธอ น้อยคนนักที่จะรู้ว่าพสุธามีใจรักเพศเดียวกันเพราะเขาไม่แสดงออกเนื่องจากกลัวที่บ้านรับไม่ได้ รวมถึงหน้าที่การงานที่เป็นถึงอาจารย์ในมหาวิทยาลัยชื่อดังทำให้ชายหนุ่มต้องปิดบังตัวตนเอาไว้ ส่วนณัฐพงษ์นั้นเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาทั้งสองคบกันมาหลายปีและรักกันมาก ไม่ว่าจะพสุธาจะไปไหนมักจะพาณัฐพงษ์ไปด้วยตลอดทำให้เธอสนิทกับอีกฝ่ายไปโดยปริยาย
“ยังคงพราวสมชื่อนะจ๊ะคุณพราวฟ้า ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาผู้ชายมองกันเกรียวกราว” ณัฐพงษ์แซวด้วยจริตจะก้านคล้ายผู้หญิงซึ่งต่างจากพสุธาที่มาดแมนเหมือนผู้ชายทำให้ใครๆ มักดูไม่ออกว่าเขามีอะไรต่างจากผู้ชายแท้อกสามศอก
“ยี่ห้อพราวฟ้าจะธรรมดาได้ไงล่ะจ๊ะคุณณัฐพงษ์”
“ทำไมวันนี้มาช้าล่ะพราว ปกติมาก่อนดินตลอด” พสุธาถามเพื่อนสนิท
“ก็ท่านประธานใหญ่แห่งวัฒนาเรียลเอสเตทน่ะสิ ไม่รู้นึกเฮี้ยนอะไรขึ้นมาเรียกประชุมผู้บริหารด่วนแถมลากยาวจนเลยเวลางาน กว่าพราวจะเคลียร์งานเสร็จแล้วกลับคอนโดแต่งตัวฝ่ารถติดมาได้ก็เลยเวลานัดแล้ว”
“ฟังดูเหมือนพราวจะไม่ค่อยชอบท่านประธานเลยเนอะ” ณัฐพงษ์ออกความเห็น
“ใครจะไปชอบลงล่ะนัด คนอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดีหรอก แต่ชอบ
ทำหน้านิ่งจนพนักงานกลัวหัวหดแถมดุอย่างกับเสือ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นพี่น้องกับคุณภูดิศที่แสนใจดีมีมนุษย์สัมพันธ์ โชคดีนะที่ตอนสมัครงานเลขาคุณภูขาดพอดี ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าพราวต้องไปเป็นเลขาให้ท่านประธานจอมเนียบอย่างคุณภาคจะเป็นยังไง” พราวฟ้าเล่าถึงสรรพคุณของภาคภูมิท่านประธานใหญ่แห่งวัฒนาเรียลเอสเตทผู้เป็นพี่ชายของภูดิศเจ้านายโดยตรงของเธอ
“อาจจะถูกเสือจับกินไปแล้วก็ได้ ก็แม่กวางสาวเซ็กซี่ซะขนาดนี้” ณัฐพงษ์แซวแล้วหันไปหัวเราะกับคนรักหนุ่ม
“โอ๊ย อย่าพูดแบบนั้นสินัด แค่คิดก็ขนลุกขนพอง อีกอย่าง พราวก็เคยเล่าให้ฟังแล้วนี่ว่าคุณภาคเขาไม่ชอบพราวเจอหน้ากันทุกครั้งต้องมองพราวหัวจรดเท้าแล้วทำสายตาเหมือนว่าพราวเป็นตัวอะไรสักอย่าง แถมชอบบอกว่าพราวแต่งตัวเหมือนจะไปเดินแคทวอล์คไม่ใช่เลขา”
“ฮ่าๆๆ” พสุธาและณัฐพงษ์หัวเราะออกมาพร้อมกันเมื่อ พราวฟ้าเล่าจบ
“หัวเราะอะไรกันเนี่ย พราวพูดเรื่องจริงนะ”
“จะว่าไปดินชักอยากให้พราวเป็นเลขาคุณภาคซะแล้วสิ คงจะ
มันพิลึกเจ้านายกับเลขาที่เป็นไม้เบื่อไม้เบาและทะเลาะกันทุกวันคงมีสีสันดี” พสุธาออกความเห็น
“ขืนเป็นแบบนั้นพราวคงต้องออกจากงานไปรักษาตัวเพราะเป็นโรคประสาทแน่ๆ”
“หรือไม่ ทะเลาะกันไปทะเลาะกันมาสุดท้ายก็ขยับจากเลขามา
เป็นภรรยาแฮปปี้แอนดิ้ง” ณัฐพงษ์สรุป
“โอ๊ย หยุดคิดไปได้เลยนัด ถ้าให้พราวมีสามีแบบนั้นพราวขอขึ้นคานไปจนตายดีกว่า”
“พราวเนี่ยตาไม่ถึงเอาซะเลย คุณภาคทั้งหล่อทั้งรวยแถมเท่สุดๆ ถ้าเป็นสาวๆ คนอื่นป่านนี้คงแทบเอาตัวใส่พานไปถวาย ดูอย่างบรรดาเลขาที่ผ่านมานั่นปะไร นัดได้ยินมาว่าคุณภาคเปลี่ยนเลขาบ่อยมากเพราะเจ้าหล่อนอยากจะขยับฐานะจากเลขามาเป็นเมียท่านประธาน เลยโดนไล่ออกชนิดทำงานก้นยังไม่ทันชินกับเก้าอี้”
“ใครจะอยากขยับฐานะอะไรก็ตามสบายเถอะ แต่พราวคนหนึ่งละที่ขออยู่ให้ห่างๆ ท่านประธานจอมเนียบ ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องมาเจอะมาเจอกันเลยดีกว่า”
“จ้า นัดอยากจะรู้จริงๆ ว่าผู้ชายที่จะได้หัวใจของคุณพราวฟ้าสาวแซ่บแห่งยุคสองพันสิบหกไปครองจะหน้าตาเป็นยังไง”
“ถ้ามีเดี๋ยวก็เห็นเองนั่นแหละ พราวว่าเราเลิกคุยเรื่องเจ้านายพราวกันเถอะ อุตส่าห์หนีออกมาได้แล้วจะไปพูดถึงทำไม ปล่อยให้เขาคอยหลอกหลอนพราวแค่ในที่ทำงานก็พอ”
“โอเค ไม่พูดก็ไม่พูด ดื่มกันดีกว่า” พสุธาหยิบแก้วเครื่องดื่มชูขึ้นแล้วชนแก้วก่อนจะลากกันออกไปแดนซ์อย่างสุดเหวี่ยง
“แค่ก แค่ก” ภาคภูมิสำลักเครื่องดื่มจนไอหน้าดำหน้าแดงทำให้สาวๆ ที่ถูกเพื่อนสนิทเรียกมาคอยดูแลรีบส่งกระดาษทิชชู่ให้ทันที
“เบาๆ เว้ยไอ้ภาคไม่ต้องรีบ” นิติธรบอกเพื่อนที่นั่งจิบบรั่นดีแล้วเกิดอาการสำลักขึ้นมา
“สำลักแบบนี้โบราณว่าไม่มีคนคิดถึงก็มีคนนินทา” ธีทัตเพื่อน
สนิทอีกคนและมีสถานะเป็นเจ้าของผับหรูแห่งนี้กล่าวขึ้น
“ใครจะกล้านินทาท่านประธานใหญ่แห่งวัฒนาเรียลเอสเตทวะ ถ้าบอกว่าคิดถึงอันนี้ไม่เถียง ระดับคุณภาคภูมิ วัฒนาวิวัฒน์คงมีสาวๆ คิดถึงทั่วบ้านทั่วเมือง นี่ยังไม่รวมดารานางแบบในสังกัดที่เคยควงกันเป็นพักๆ นะ”
“พูดมากน่าไอ้ทัต” ภาคภูมิต่อว่าเพื่อนแล้วโบกมือไล่สาวๆ ออกไปจากห้องวีไอพี
“แกไล่น้องๆ เขาไปทำไมวะ ฉันอุตส่าห์คัดแต่คนเด็ดๆ มาคอยบริการ” ธีทัตถามอย่างไม่เข้าใจเพราะปกติภาคภูมิไม่เคยปฏิเสธหญิงสาวที่เขาหามาให้และมักพากันไปต่อทุกครั้ง
“วันนี้ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวาย” ภาคภูมิตอบพร้อมหยิบบรั่นดีขึ้นมาจิบและเอนกายพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย
“เออ แล้วแต่แกแล้วกัน เอาใจยากจริง” ธีทัตหยิบแก้วเครื่องดื่มของตัวเองแล้วเดินไปยังผนังกระจกที่สามารถมองลงไปเห็น
ลูกค้าที่มาใช้บริการด้านล่างได้อย่างชัดเจน
“ผับแกนี่มาทีไรคนเต็มอย่างนี้ทุกทีเลยนะ” นิติธรเปรย
“แน่นอน ของเขาดีก็แบบนี้แหละ” ธีทัตยักไหล่อย่างที่ทำจนเคยชิน
“สาวๆ แต่ละคนก็เด็ดสะระตี่ไปเลย” นิติธรกล่าวตามที่เห็นพลางสอดส่ายสายตาหาผีเสื้อราตรีที่ถูกใจและอาจพาไปไหนต่อไหน
ได้ในคืนนี้อย่างที่ทำเป็นประจำ
“แกก็หาเพื่อนนอนกลับไปสักคนสิไอ้ติ” ธีทัตบอกเพื่อน
“ของมันแน่นอนอยู่แล้ว แกไม่ต้องสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำหรอก
ไอ้ทัต” สองหนุ่มจิบเครื่องดื่มพลางเหล่มองสาวๆ ที่ด้านล่าง ในขณะที่ภาคภูมินั่งจิบบรั่นดีในแก้วตัวเองพลางปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปอย่างผ่อนคลายอยู่บนโซฟา ทันใดนั้นภาพใบหน้าสวยเฉี่ยวและเรือนร่างสุดเซ็กซี่ของพราวฟ้าเลขานุการสาวของน้องชายก็ผุดขึ้นมาในห้วงสำนึก ชายหนุ่มสะบัดศีรษะไปมาเพื่อไล่ภาพนั้นออกไปจากความคิด
“บ้าจริง จะไปนึกถึงเจ้าหล่อนทำไมกัน”
“โอ้ว...แม่เจ้า” เสียงอุทานของของนิติธรทำให้ภาคภูมิหันไปมองอย่างสนใจ
“อะไรของแกวะไอ้ติ ทำเหมือนไม่เคยเห็นผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ไปได้” ภาคภูมิต่อว่าเพื่อน
“ก็คนนี้เด็ดสะระตี่จริงๆ พับผ่าเถอะ อื้อหือ...ดูหุ่นและหน้าอกหน้าใจเจ้าหล่อนสิวะ ถ้าได้ไปกกพ่อจะไม่ให้นอนทั้งคืนเลย” นิติธรกล่าวพลางยกมือลูบปากตัวเอง
“แต่ฉันว่าหน้าคุ้นๆ ว่ะ” ธีทัตออกความเห็นและพยายามครุ่นคิดว่าเคยพบหญิงสาวที่นิติธรกำลังคลั่งไคล้ที่ไหนมาก่อน
“แม่เจ้าโว้ย ควงผู้ชายทีเดียวสองคนท่าทางจะไม่ธรรมดา”
นิติธรกล่าวเมื่อเห็นว่าพราวฟ้าโยกกายไปตามเสียงเพลงจังหวะเร้าใจโดยใช้สองแขนโอบรอบคอพสุธาเอาไว้ ส่วนณัฐพงษ์นั้นเต้นอยู่ด้านหลังและโอบเอวเธอไว้เช่นกัน ภาพที่เห็นจึงคล้ายกับว่าหญิงสาวกำลังนัวเนียกับผู้ชายถึงสองคน แต่ความจริงแล้วทั้งพสุธาและณัฐพงษ์ช่วยกันพราวฟ้าเอาไว้จากการถูกผู้ชายคนอื่นมาวุ่นวายและมักทำเช่นนี้เสมอเมื่อออกท่องราตรีด้วยกัน
“เฮ้ย!!!” ธีทัตอุทานเสียงดังเมื่อนึกได้ว่าหญิงสาวที่เพื่อนของเขา
แสดงอาการคลั่งไคล้นักหนานั่นคือใคร
“แกจะตะโกนทำไมวะไอ้ทัต” นิติธรต่อว่าเพื่อน
“นั่นมันคุณพราวฟ้าเลขาน้องชายแกนี่ไอ้ภาค” ธีทัตหันไปบอกภาคภูมิที่นั่งจิบบรั่นดีอยู่ที่โซฟา ชายหนุ่มวางแก้วลงแล้วเดินมายืนที่หน้ากระจก และภาพที่ปรากฏแก่สายตาก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“ปกติเจอที่บริษัทแกก็เห็นอยู่หรอกนะว่าคุณพราวเขาเปรี้ยวและเซ็กซี่ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้” ธีทัตออกความเห็น
“ช่างเขาเถอะ ก็แค่ผู้หญิงรักสนุกคนหนึ่ง” ภาคภูมิบอกด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ไม่น่าเป็นไปได้ เท่าที่เห็นเขาก็ดูคล่องแคล่วเป็นเวิร์คกิ้งวูแมน
นั่นอาจจะเป็นเพื่อนเขาก็ได้” นิติธรออกความเห็น
“แกเห็นเขาแค่ไม่กี่ครั้งจะไปรู้จักเขาดีได้ไงไอ้ติ”
“แล้วแกทำไมต้องทำเสียงหงุดหงิดด้วยวะ เห็นแบบนี้ฉันชักอยากจะลองจีบคุณเลขาสุดเปรี้ยวคนนี้ซะแล้วสิ” นิติธรแสดงท่าทีสนอกสนใจพราวฟ้าจนภาคภูมิรู้สึกไม่ชอบใจ
“อย่ายุ่งกับเธอ”
“แกจะมาห้ามฉันทำไมวะ อย่าบอกนะว่าแกคิดจะเป็นสมภารกินไก่วัดน่ะ”
“บ้าน่ะสิ ฉันแค่ไม่อยากให้น้องชายฉันต้องลำบากหาเลขาใหม่ เจ้าหล่อนถึงจะเปรี้ยวเข็ดฟันและชอบแต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้แต่ก็ทำงานใช้ได้ ฉันไม่อยากให้น้องฉันเสียเลขาดีๆ ไปเพราะแก” ภาคภูมิรีบแก้ตัว
เป็นพัลวัน
“ให้มันจริงเถอะไอ้ภาค อย่าให้รู้นะว่าแกเองก็คิดจะเคลมคุณพราวฟ้าเขาเหมือนกัน”
“หุบปากแกไปเลยไอ้ติ” ภาคภูมิต่อว่าเพื่อนแล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิม แต่คราวนี้รสชาติของแอลกอฮอล์มันไม่น่าอภิรมย์เสียแล้วสำหรับเขา อารมณ์ผ่อนคลายที่มีอยู่ก่อนหน้าถูกแทนที่ด้วยความขุ่นมัวอย่างไม่ทราบสาเหตุและภาพที่พราวฟ้าแนบชิดโอบกอดกับผู้ชาย
ถึงสองคนก็ก่อกวนจิตใจเขาอย่างไม่สามารถสลัดออกไปได้