วราภัคหยุดหั่นเนื้อแล้วหันมายกมีดขู่เขาแทน
“หยุดพูดเรื่องนี้สักที ฉันคนธรรมดา ไม่อาจเอื้อมไปคบไฮโซอย่างคุณหรอก”
“นี่หมดยุคแบ่งชนชั้นวรรณะแล้วนะ เหตุผลอะไรของคุณไฮโซโลโซ แล้วหมออย่างผมจะมีเมียได้ยังไงหากเลือกแต่ฐานะเท่ากัน” เธอไม่รู้หรือไงว่าเมียดี ๆ หายากแค่ไหน ยิ่งเมียหุ่นดี น่ารักแถมทำกับข้าวเก่งแบบนี้ด้วย
“หึ...น้อยไปสิ พวกรวย ๆ ก็คบกับคนรวย ๆ”
“อย่าเอาผู้ชายคนเดียวมาตัดสินคนทั้งโลกได้ไหม” อยากรู้จังว่าอดีตของเธอนั้นเป็นใคร เขาจะไปอัดหน้ามันที่ทำให้เธอไม่ยอมเปิดใจให้เขา
“นี่ก็ดึกแล้วนะ คุณกลับไปได้แล้วฉันจะได้พักผ่อน”
“อยากดูเมียอีกหน่อย คิดถึง!” เขาเอามือเท้าคางมองเธอทำกับข้าวแล้วสบายตาจัง
ปัง!!!
เสียงมีดปักลงบนเขียงไม้ดังลั่นทำให้เขาที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหวานเยิ้มสะดุ้ง
“หยุดพูดเรื่องผัวเรื่องเมียได้แล้ว ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณสักหน่อย”
“เดี๋ยวก็เป็นเชื่อสิ”
“คุณกร!” เธอเรียกเขาเสียงต่ำ แต่ทว่าชายหนุ่มขานรับเสียงหวานฉ่ำ
“ครับที่รัก”
แต่เมื่อเห็นสายตาไม่สบอารมณ์ของว่าที่เมียในอนาคตอันใกล้ก็ต้องสะดุ้ง
“ผมกลับแล้ว พรุ่งนี้จะมาหาคิดถึงนะครับ ฝันดีจุ๊บ!”
สุ้มเสียงทะลึ่งทะเล้นกล่าวออกมาพร้อมกับเตรียมตัวออกวิ่งเมื่อเธอคว้ามีดขึ้นพร้อมไล่แทง
เสียงประตูปิดลงพร้อมกับความหนักอึ้งในหัวใจของวราภัค เธอไม่รู้จะจัดการกับเขาอย่างไรดี เขาช่างปักใจเชื่อเหลือเกินว่าเควินเป็นลูกของเขา ทั้งที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงมั่วผู้ชายก็แล้ว
ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่เชื่อนะ
หลังจากจัดของเสร็จแล้วเธอก็อาบน้ำนอน แล้วก็ไม่ได้ปลุกลูกชายให้มาอาบน้ำก่อน เพียงแต่ถอดเสื้อผ้าและเช็ดตัวให้กับเขาแทน
ใบหน้าที่พริ้มหลับอย่างมีความสุขของลูก ทำให้เธอคิดถึงเขา บอกตามตรงว่าไม่อยากเป็นเพียงของเล่นของใครอีกแล้ว
ชวกรกลับถึงบ้านห้าทุ่มแล้ว เพราะมัวแต่ต่อปากต่อคำกับเธออยู่ แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คาดคุณแม่ที่ควรจะนอน กล่อมปานดาวคนสวยกลับนั่งดูทีวีรอเขาอยู่ห้องรับแขก
“ตากรเป็นยังไง บ้านน้องอยู่ไกลเหรอ”
“ก็ไม่เท่าไหร่ครับ แต่อยากดูให้แน่ใจว่าปลอดภัยดีไหมเลยกลับช้า” เขาพูดเสียงเนือย ๆ บ่งบอกว่ารู้สึกเหนื่อยล้ามาก ๆ
“สรุปแล้วมันยังไง” คราวนี้ขวัญนรีนั่งตัวตรง พร้อมซักประวัติ
“อย่างที่แม่เห็นนั่นลูก แล้วก็เมีย”
“พูดชุ่ยแบบนี้ได้ยังไง มีตั้งแต่เมื่อไหร่จนลูกโตป่านนี้แล้วทำไมไม่บอกแม่ จะได้จัดงานแต่งให้มันใหญ่โต แล้วปล่อยให้น้องอยู่ยังไงลำบาก ไปบอกย้ายมาอยู่บ้านเราเลยนะ”
ขวัญนรีใส่ยับชนิดที่ชวกรเองก็ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนจนต้องรั้งให้ผู้เป็นมารดาหยุดก่อน
“ใจเย็นครับแม่ ผมเพิ่งรู้ว่ามีลูกวันนี้เหมือนกัน”
“ฮะ...ว่าไงนะ แกไปปล้ำน้องใช่ไหม แกนี่นะฉันบอกกี่ครั้งแล้วผู้หญิงไม่ยอมก็อย่าไปยุ่ง แล้วก็เลิกนิสัยเพลย์บอยได้แล้วนะ”
“...”
ยับกว่าเดิมบอกเลยว่ายับ
“ใจเย็นครับแม่ ผมผิดเองที่พาเธอไปตอนเมา แต่ว่าเธอก็อยากลองมีอะไรสักครั้ง ผมก็เลยได้ครั้งแรกของเธอไปตื่นมาเธอก็ไม่อยู่แล้ว ผมตามหามานาน หากไม่ต้องไปส่งปานดาวที่โรงเรียนผมก็ไม่เคยรู้เลยว่ามีลูก”
“แกนี่!” ขวัญนรีหมดคำจะพูดกับเจ้าลูกชาย คิดไปถึงวราภัคที่ต้องคลอดคนเดียว เลี้ยงลูกคนเดียว ทั้งยังทำงานอีกจะเหนื่อยแค่ไหน
“โรงเรียนปานดาวค่าเทอมก็ครึ่งแสน น้องจะไม่เดือดร้อนเหรอ”
“เดือดร้อนสิครับ ยังค้างค่าเทอมอยู่เลย ผมจะไปจ่ายให้วันจันทร์นี่แหละ” หากเขาไม่เจอเธอวันนี้เธอจะลำบากอีกเท่าไหร่ ไม่อยากจะจินตนาการเลย
“แล้วเมื่อไหร่แกจะให้เขาย้ายมาบ้านเรา”
“ผมอยากไปขนของออกจากคอนโดวันนี้ด้วยซ้ำครับแม่ แต่เธอยอมที่ไหนปฏิเสธไม่ใช่ลูกท่าเดียว ผมก็เครียด”
“ไม่ใช่ได้ยังไง เควินมันแกตอนเด็ก ๆ ชัด ๆ”
“ขนาดแม่ยังเชื่อเลย แล้วเธอก็ยังโกหกผมอยู่แล้ว แม่จะให้ผมทำยังไง” ชวกรพูดอย่างรู้สึกอึดอัดในหัวใจ แค่พบกันวันแรกเธอก็ตั้งกำแพงสูงขนาดนี้แล้ว
“หลานฉันแกไปทำยังไงก็ได้ ถ้าง้อน้องมาเป็นเมียไม่ได้แกก็ไม่ต้องกลับบ้าน”
“แม่คราบบบบ...!”และคุณขวัญนรีทิ้งระเบิดให้เขาแล้วเดินเข้าห้องไปนอนกับหลานสาวคนสวย
เห้อ...!
“ไม่มีใครเข้าใจผมหรอก”
เขาเข้าไปหยิบเครื่องดื่มออกมาเปิดดื่มแก้กระหาย คนที่อยากเจอมาตลอด 6 ปีก็ได้เจอแล้ว แต่ว่ากว่าจะง้อมาได้ไม่ใช่ง่ายเลย