บทที่ 6 ลำบากแค่ไหนก็อยู่กันได้ 2/2

906 Words
วราภัคหยุดหั่นเนื้อแล้วหันมายกมีดขู่เขาแทน “หยุดพูดเรื่องนี้สักที ฉันคนธรรมดา ไม่อาจเอื้อมไปคบไฮโซอย่างคุณหรอก” “นี่หมดยุคแบ่งชนชั้นวรรณะแล้วนะ เหตุผลอะไรของคุณไฮโซโลโซ แล้วหมออย่างผมจะมีเมียได้ยังไงหากเลือกแต่ฐานะเท่ากัน” เธอไม่รู้หรือไงว่าเมียดี ๆ หายากแค่ไหน ยิ่งเมียหุ่นดี น่ารักแถมทำกับข้าวเก่งแบบนี้ด้วย “หึ...น้อยไปสิ พวกรวย ๆ ก็คบกับคนรวย ๆ” “อย่าเอาผู้ชายคนเดียวมาตัดสินคนทั้งโลกได้ไหม” อยากรู้จังว่าอดีตของเธอนั้นเป็นใคร เขาจะไปอัดหน้ามันที่ทำให้เธอไม่ยอมเปิดใจให้เขา “นี่ก็ดึกแล้วนะ คุณกลับไปได้แล้วฉันจะได้พักผ่อน” “อยากดูเมียอีกหน่อย คิดถึง!” เขาเอามือเท้าคางมองเธอทำกับข้าวแล้วสบายตาจัง ปัง!!! เสียงมีดปักลงบนเขียงไม้ดังลั่นทำให้เขาที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหวานเยิ้มสะดุ้ง “หยุดพูดเรื่องผัวเรื่องเมียได้แล้ว ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณสักหน่อย” “เดี๋ยวก็เป็นเชื่อสิ” “คุณกร!” เธอเรียกเขาเสียงต่ำ แต่ทว่าชายหนุ่มขานรับเสียงหวานฉ่ำ “ครับที่รัก” แต่เมื่อเห็นสายตาไม่สบอารมณ์ของว่าที่เมียในอนาคตอันใกล้ก็ต้องสะดุ้ง “ผมกลับแล้ว พรุ่งนี้จะมาหาคิดถึงนะครับ ฝันดีจุ๊บ!” สุ้มเสียงทะลึ่งทะเล้นกล่าวออกมาพร้อมกับเตรียมตัวออกวิ่งเมื่อเธอคว้ามีดขึ้นพร้อมไล่แทง เสียงประตูปิดลงพร้อมกับความหนักอึ้งในหัวใจของวราภัค เธอไม่รู้จะจัดการกับเขาอย่างไรดี เขาช่างปักใจเชื่อเหลือเกินว่าเควินเป็นลูกของเขา ทั้งที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงมั่วผู้ชายก็แล้ว ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่เชื่อนะ หลังจากจัดของเสร็จแล้วเธอก็อาบน้ำนอน แล้วก็ไม่ได้ปลุกลูกชายให้มาอาบน้ำก่อน เพียงแต่ถอดเสื้อผ้าและเช็ดตัวให้กับเขาแทน ใบหน้าที่พริ้มหลับอย่างมีความสุขของลูก ทำให้เธอคิดถึงเขา บอกตามตรงว่าไม่อยากเป็นเพียงของเล่นของใครอีกแล้ว ชวกรกลับถึงบ้านห้าทุ่มแล้ว เพราะมัวแต่ต่อปากต่อคำกับเธออยู่ แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คาดคุณแม่ที่ควรจะนอน กล่อมปานดาวคนสวยกลับนั่งดูทีวีรอเขาอยู่ห้องรับแขก “ตากรเป็นยังไง บ้านน้องอยู่ไกลเหรอ” “ก็ไม่เท่าไหร่ครับ แต่อยากดูให้แน่ใจว่าปลอดภัยดีไหมเลยกลับช้า” เขาพูดเสียงเนือย ๆ บ่งบอกว่ารู้สึกเหนื่อยล้ามาก ๆ “สรุปแล้วมันยังไง” คราวนี้ขวัญนรีนั่งตัวตรง พร้อมซักประวัติ “อย่างที่แม่เห็นนั่นลูก แล้วก็เมีย” “พูดชุ่ยแบบนี้ได้ยังไง มีตั้งแต่เมื่อไหร่จนลูกโตป่านนี้แล้วทำไมไม่บอกแม่ จะได้จัดงานแต่งให้มันใหญ่โต แล้วปล่อยให้น้องอยู่ยังไงลำบาก ไปบอกย้ายมาอยู่บ้านเราเลยนะ” ขวัญนรีใส่ยับชนิดที่ชวกรเองก็ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนจนต้องรั้งให้ผู้เป็นมารดาหยุดก่อน “ใจเย็นครับแม่ ผมเพิ่งรู้ว่ามีลูกวันนี้เหมือนกัน” “ฮะ...ว่าไงนะ แกไปปล้ำน้องใช่ไหม แกนี่นะฉันบอกกี่ครั้งแล้วผู้หญิงไม่ยอมก็อย่าไปยุ่ง แล้วก็เลิกนิสัยเพลย์บอยได้แล้วนะ” “...” ยับกว่าเดิมบอกเลยว่ายับ “ใจเย็นครับแม่ ผมผิดเองที่พาเธอไปตอนเมา แต่ว่าเธอก็อยากลองมีอะไรสักครั้ง ผมก็เลยได้ครั้งแรกของเธอไปตื่นมาเธอก็ไม่อยู่แล้ว ผมตามหามานาน หากไม่ต้องไปส่งปานดาวที่โรงเรียนผมก็ไม่เคยรู้เลยว่ามีลูก” “แกนี่!” ขวัญนรีหมดคำจะพูดกับเจ้าลูกชาย คิดไปถึงวราภัคที่ต้องคลอดคนเดียว เลี้ยงลูกคนเดียว ทั้งยังทำงานอีกจะเหนื่อยแค่ไหน “โรงเรียนปานดาวค่าเทอมก็ครึ่งแสน น้องจะไม่เดือดร้อนเหรอ” “เดือดร้อนสิครับ ยังค้างค่าเทอมอยู่เลย ผมจะไปจ่ายให้วันจันทร์นี่แหละ” หากเขาไม่เจอเธอวันนี้เธอจะลำบากอีกเท่าไหร่ ไม่อยากจะจินตนาการเลย “แล้วเมื่อไหร่แกจะให้เขาย้ายมาบ้านเรา” “ผมอยากไปขนของออกจากคอนโดวันนี้ด้วยซ้ำครับแม่ แต่เธอยอมที่ไหนปฏิเสธไม่ใช่ลูกท่าเดียว ผมก็เครียด” “ไม่ใช่ได้ยังไง เควินมันแกตอนเด็ก ๆ ชัด ๆ” “ขนาดแม่ยังเชื่อเลย แล้วเธอก็ยังโกหกผมอยู่แล้ว แม่จะให้ผมทำยังไง” ชวกรพูดอย่างรู้สึกอึดอัดในหัวใจ แค่พบกันวันแรกเธอก็ตั้งกำแพงสูงขนาดนี้แล้ว “หลานฉันแกไปทำยังไงก็ได้ ถ้าง้อน้องมาเป็นเมียไม่ได้แกก็ไม่ต้องกลับบ้าน” “แม่คราบบบบ...!”และคุณขวัญนรีทิ้งระเบิดให้เขาแล้วเดินเข้าห้องไปนอนกับหลานสาวคนสวย เห้อ...! “ไม่มีใครเข้าใจผมหรอก” เขาเข้าไปหยิบเครื่องดื่มออกมาเปิดดื่มแก้กระหาย คนที่อยากเจอมาตลอด 6 ปีก็ได้เจอแล้ว แต่ว่ากว่าจะง้อมาได้ไม่ใช่ง่ายเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD