บนโต๊ะอาหารตัวใหญ่ที่เดิมก็ให้ความรู้สึกไกลกันอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งดูห่างเหินเมื่อคู่สามีภรรยานั่งทานข้าวกันอย่างเงียบๆ ไม่มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและการสนทนา มีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบจานเป็นบางจังหวะเท่านั้น
เธอชินแล้ว ชาจนชิน...
ธีริญกลืนข้าวอย่างฝืดคอ กลิ่นคาวจากเนื้อปลากระพงตีขึ้นโพรงจมูกจนอยากจะอาเจียน แต่ต้องพยายามฝืนทนเอาไว้อย่างสุดกำลัง เธอรวบช้อนทั้งที่ทานไปเพียงไม่กี่คำ ทำให้คนที่ร่วมโต๊ะมองด้วยความสงสัย
“ทำไมวันนี้กินน้อย ปกติคุณชอบพวกอาหารรสจัดไม่ใช่เหรอ” ภิฌานถามพร้อมทกับตักเนื้อปลาชิ้นโตๆ ใส่จานเธอ
ธีริญรู้สึกได้ถึงของที่เพิ่งทานเข้าไปมาจุกอยู่ตรงลำคอ กลิ่นคาวทำให้เธอต้องยกมือขึ้นปิดจมูก อดกลั้นกลืนน้ำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ให้มันขย้อนออกมา รอจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่คอหอยอีก จึงตอบเขาว่า
“มื้อเที่ยงกินเยอะ ก็เลยไม่ค่อยหิวค่ะ”
“ไม่หิวหรือมีเรื่องกลุ้มใจที่ทำให้กินไม่ลง?”
“เรื่องอะไร ไม่มีนี่” เธอรู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องหนี้สินที่ยังคงติดค้าง แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ ปัญหาของเธอ ไม่ใช่ของเขา
“ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอก” ภิฌานไม่ซักไซ้ เขาเคารพการตัดสินใจของเธอ
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มขื่น จะกล้ารบกวนเขาได้อย่างไร ข้อตกลงก็ระบุชัดอยู่แล้วว่าเงินทองไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แล้วจะให้เธอบากหน้ายืมเงินเขาเป็นล้านๆ เนี่ยนะ หน้าเธอด้านไม่พอ ยิ่งไปกว่านั้นหากเขาปฏิเสธหรือตอกกลับมาแรงๆ เธอคงไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดที่รูไหน
บทสนทนาถูกตัดจบไปเพียงแค่นั้น ภิฌานไม่พูดอะไรอีก ส่วนเธอก็นั่งนิ่งรอจนเขาทานอิ่ม จึงเก็บจานชามไปล้าง เพราะไม่อยากให้เขาพูดได้ว่าเอาเปรียบกัน ถึงภิฌานจะไม่เคยพูดก็เถอะ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จสิ้นเธอเช็ดเคาน์เตอร์ครัวจนสะอาดหมดจด กำลังจะหันหลังก็ถูกวงแขนกำยำของสามีโอบกอดพันธนาการเอาไว้ด้วยความวาบหวาม
ภิฌานกดปลายจมูกโด่งสันลงข้างขมับลากไซ้ลงมาตามใบหู ขยี้หนักๆ อย่างมันเขี้ยวที่ซอกคอหอมละมุน ซุกซบสูดดมกลิ่นกายเคยคุ้นที่ห่างหายไปนานเข้าเต็มปอด แล้วลากไล้วกกลับขึ้นมาที่ริมฝีปากบางอิ่ม ประกบจูบดันช็อกโกแลตเม็ดโตที่เขากินมาก่อนหน้านี้ป้อนเข้ามาในปากเธอ ความหวานอมขมแผ่ซ่านทั่วโพรงปากนุ่มจนเขาไม่รู้ว่าอะไรนุ่มกว่ากันระหว่าง ปากเธอกับช็อกโกแลต
“อืม...” ลิ้นสากพลิกพลิ้วปาดเลียกลืนความหอมหวานซ่านลึกถึงใจ บดเคล้าริมฝีปากดูดดื่มแนบแน่น ตวัดลิ้นเสียดสีโลมเล้าลิ้นน้อยๆ ดุนดันกวาดต้อนคลอเคลีย ดูดดื่มกลืนกินอย่างกระหาย บดจูบรุกเร้าอย่างเร่าร้อนจนหญิงสาวครางโหยอยู่ในริมฝีปากเขา จูบซ้ำๆ จนภรรยาสาวหมดแรงอ่อนระทวยแนบซบอยู่ในอ้อมอกกว้าง
“อร่อยมั้ย” ภิฌานยิ้มกรุ้มกริ่ม แววตาลุ่มลึกมองคนในอ้อมแขนอย่างยั่วเย้า
ธีริญพยักหน้า หลุบหลบสายตาที่อัดแน่นไปด้วยแรงปรารถนาขุ่นคลั่ก เขาไม่ยอมให้เธอหลบเลี่ยง เชยคางกดจูบดูดดื่มลงมา ดูดเคล้าขบเม้มริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วงให้เธอรู้สึกและยอมรับตัวตนของเขา ขณะยกตัวเธอขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ ฝ่ามือร้อนลูบโลมไปตามสัดส่วนเย้ายวนของภรรยา บีบเฟ้นเค้นคลึงทรวงอกอวบเต็มตึงเหมาะเจาะกับฝ่ามือเขาพอดี
“อะ อา...” เสียงครางหวานซ่านใจดังแผ่วแว่วข้างหู แทนเรียวดุจลำเทียนยกโอบรอบลำคอแกร่ง แหงนหงายเปิดทางให้เขารุกเร้าแตะต้องเธออย่างแนบชิดถนัดใจ แอ่นอกยกตัวขึ้นรับสัมผัสร้อนๆ จากปลายนิ้วมือที่บดบี้สะกิดปลายถันของเธออย่างปลุกเร้า ริมฝีปากอิ่มปากขบเม้มเสียวซ่านเมื่อสามีฝังใบหน้าซุกไซ้กลางร่องอก จูบดูดดึงนวลเนื้อปาดเลียปลายยอด แล้วสวมครอบอ้าอมตวัดลิ้นคล้ายกำลังกินลูกอมที่ชื่นชอบ
“อื้อ...อ...” ธีริญขยุ้มเส้นผมของเขาด้วยความซ่านสยิว ร้อนวูบวาบไปทั้งท้องน้อย ความรู้สึกร้อนรุ่มวิ่งไปรุมเร้ากระจุกอยู่ที่กลางร่างสาว โพรงกล้ามเนื้อภายในเต้นกระตุกขมิบถี่ๆ ขับน้ำรักออกมาชุ่มชโลมเปียกกางเกงชั้นในเป็นวงกว้าง เธอรู้สึกได้เพราะนิ้วเรียวยาวของภิฌานกำลังทำหน้าที่ปรนเปรอกันอยู่ เขาแหวกปราการที่ขวางกั้นสอดนิ้วครูดสีบดคลึงปากทางสวาทที่คับแน่นของเธออย่างยั่วยวน กระทั้นเข้าออกเร็วระรัวอย่างช่ำชอง หมุนควงคว้านลึกจนสุดโคลนนิ้ว สร้างความเสียดเสียวทำให้เธอแทบดิ้นพล่าน พลิกไหวส่ายสะโพกรับจังหวะการกระแทก
“คุณตอดนิ้วผมแน่นเชียว” ภิฌานกระซิบยั่ว