แล้วยังไงต่อ

1414 Words
“ค่ะ ดิฉันเตรียมไว้แล้ว” พลอยดาวเลื่อนแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าเขา งานพวกนี้พราวมุกจัดการไว้ก่อนแล้ว เธอแค่เรียงลำดับวางตามความสำคัญ “โอเค.” เขาพยักหน้ารับ “อาหารเช้าผมล่ะ” “อาหารเช้า?” พลอยดาวทำหน้างุนงง แต่เขาขมวดคิ้วใส่ “เป็นเลขาภาษาอะไร คุณน่าจะรู้ว่าผมกินข้าวเช้าที่ออฟฟิศ” “เอ่อ...ขอโทษค่ะ ประเดี๋ยวดิฉันสั่งให้นะคะ ไม่ทราบว่าท่านประธานจะรับประทานอะไรดี” กวิวัชร์สูดลมหายใจลึก รู้สึกไม่พอใจการพูดจาเป็นทางการนี้เสียเหลือกิน “ผมรู้ว่าคุณมาทำงานได้แค่สองเดือน แต่ผมคิดว่าสองเดือนนี้คุณน่าจะเรียนรู้งานเป็นอย่างดีแล้วนะ” “ค่ะๆ พลอย เอ๊ย! ดิฉันจะไปจัดการให้ค่ะ” ถ้าวิ่งได้ เธอคงวิ่งออกมาแล้วแต่ยังต้องทำใจเย็นเชิดหน้าก้าวเดินอย่างมั่นคงตามสไตล์ของพราวมุก ทว่าเมื่อปิดบานประตูลง เธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ รีบหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาพราวมุกทันที “ยัยมุก ไหนบอกว่าเจ้านายไม่เข้าออฟฟิศไง” “อ้าว เขามาทำงานเหรอ” “ใช่! ถามหาอาหารเช้า!” “อ้อ! ได้ เดี๋ยวฉันสั่งแกรปไปส่งให้เอง ไม่ต้องตื่นเต้นไป” “ช้าไปแล้ว กำลังตื่นเต้นอยู่” “เอาน่า ไม่มีอะไรหรอก บอสหน้าตาตายไม่ชอบผู้หญิง พลอยสบายใจได้” “จริงเหรอ?” “จริงสิ เอาล่ะ แค่นี้ก่อนนะ นั่งสวยๆ เดี๋ยวฉันสั่งข้าวกล่องให้บอส” ปลายสายตัดสัญญาไปแล้ว พลอยดาวถอนหายใจอีกครั้ง เธอเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานหน้าห้องทำงานของท่านประธาน สงบใจไว้พลอยดาว ยิ่งเครียดจะยิ่งถูกจับผิด เธอสูดลมหายใจลึกแล้วจัดการพิมพ์เอกสารสรุปการประชุม จะว่าไปพราวมุกก็ทำงานได้ยอดเยี่ยม เมื่อคืนเธอนอนคุยกับน้องสาว แม้ว่าวันนี้ต้องแอบหนีงานไปทำอย่างอื่น แต่งานประจำก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด ‘นี่มุกคิดจะทำงานประจำจริงๆเหรอ’ ‘พลอยก็คิดว่ามุกทำงานประจำไม่ได้สินะ’ ‘ไม่ใช่แบบนั้น แค่คิดว่ามุกจะรับงานฟรีแลนซ์อะไรแบบนั้นมากกว่า’ ‘มุกอยากเป็นเจ้าของกิจการ จะทำอะไรอีกเรื่องหนึ่งนะ แต่ว่ามุกอยากลองเรียนรู้งานหลายๆ อย่าง อยากรู้ว่าตัวเองจะทำอะไรได้แค่ไหน’ ‘แล้วนี่คิดจะทำงานที่นี่นานแค่ไหน’ ‘ถ้าผ่านทดลองงานสามเดือนก็จะทำต่อให้ครบปี แต่พลอยอย่าพูดไปนะ เดี๋ยวคนอื่นมองมุกไม่ดี ว่ามาทำงานเอาประสบการณ์ปีเดียว’ ‘เข้าใจแล้ว’ พลอยดาวถอนหายใจครั้งที่เท่าไรไม่รู้ แล้วเผลอมองเวลาบนหน้าจอมือถือ ทำไมวันนี้เหมือนเวลาเดินช้าเหลือเกิน ... “แล้วยังไงต่อ” “ก็ไม่มีอะไรแล้ว” พลอยดาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะนั่งเป่าผมให้พราวมุก วันนี้ผ่านมาได้อย่างทุลักทุเลจริงๆ เธอรู้สึกว่ากวิวัชร์จ้องมองเธอตลอดเวลา “เล่ามาให้หมด ไม่งั้นโดนจับได้แน่ๆ” พราวมุกหมุนตัวมาจ้องหน้าแฝดผู้พี่ หลังจากเสร็จงานแล้วเธอก็รีบกลับมาที่คอนโดและพบว่าพลอยดาวกลับมาก่อนแล้ว “ก็ไม่มีอะไรจริงๆ พลอยก็แปลเอกสารสั่งซื้อไว้ให้เรียบร้อยดีทุกอย่าง ท่านประธานก็อ่านแล้วไม่ได้ให้แก้ไขอะไร” “หือ? พลอยเรียกบอสว่าท่านประธานเหรอ” “แล้วไม่เรียกท่านประธานจะให้เรียกอะไรล่ะ เรียกชื่อเขาเฉยๆ เหรอ” พราวมุกทำหน้ายู่ “ปกติมุกเรียกบอสไง” “ไปเรียกแบบนั้นได้ยังไง เขาเป็นเจ้านายนะ” “ก็เป็นเจ้านายไง” พราวมุกยักไหล่ แล้วดึงไดร์เป่าผมออกจากมือของพลอยดาว “แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องขอบใจพลอยมากเลยนะ” “ถ้าเจ้านายไม่เข้ามาจะดีมาก” พลอยดาวเผลอถอนหายใจอีกครั้ง เคยไปทำงานแทนพราวมุกก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ เธอเห็นเขาระยะไกล แต่ครั้งนี้ทำให้เธอตัวเกร็งจนจะเป็นไมเกรน “แล้วงามล่ามภาษามือของมุกเป็นไงบ้าง ทำไมจู่ๆ ถึงต้องหยุดงานล่ะ” พลอยดาวรู้ดีว่าพราวมุกหวังใจว่าจะได้งานประจำที่นี่มากๆ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เธอไม่ยอมหยุดงานแน่ “พอดีพี่ที่ต้องเป็นล่ามวันนี้ไม่สบาย ไม่มีคนมาแทน มุกเลยต้องไป” พราวมุกตอบตามจริง เธอเคยเรียนภาษามือมา ตอนที่อยู่เมืองนอกเคยเป็นอาสาทำกิจกรรมกับผู้พิการมาบ้าง พอมาเมืองไทยได้รู้จักกับเพื่อนที่ทำกิจกรรมกับเด็กๆ พิการทางการได้ยิน หากมีเวลาเธอก็มาช่วยงานตามสะดวก “แล้วพลอยไม่อยากหางานทำเหรอ” พราวมุกลุกขึ้นเอาไดร์เป่าผมไปเก็บแล้วเดินไปหยิบนมกล่องใหญ่รินใส่แก้วสองใบ “เรียนจบแล้วอยากทำอะไรล่ะ” “พ่ออยากให้พลอยเรียนปริญญาโท” พลอยดาวรับแก้วนมจากแฝดผู้น้องมาดื่ม “นั้นเป็นความคิดของพ่อ แล้วพลอยล่ะ คิดอะไรยังไง” พราวมุกยกแก้วนมขึ้นดื่มรวดเดียวหมด วันนี้ใช้พลังงานไปมาก ต้องดื่มนมเพิ่มพลังงาน “พลอยก็ชอบสายภาษานะ” พลอยดาวดันแว่นตาชิดใบหน้าด้วยความเคยชิน เธอไม่ค่อยชอบใส่คอนแท็กเลนส์ แต่วันนี้สวมรอยเป็นพราวมุกจึงต้องใช้ “ถ้าเรียนต่อก็จบมาทำงานเป็นครูหรืออาจารย์เหมือนพ่อได้” “นี่” พราวมุกวางแก้วนมแล้วใช้มือประคองหน้าพลอยดาว “พลอยเคยถามตัวเองไหมว่าอยากทำอะไร อยากใช้ชีวิตแบบไหน” “ก็...” “รู้ไหม มุกแอบคิดนะว่า ที่พ่อไม่แต่งงานใหม่เพราะเป็นห่วงพลอย แต่พลอยลองคิดดูสิ พ่อเรายังหนุ่มอยู่เลยนะ พ่อก็น่าจะมีใครสักคนอยู่ข้างๆ วันหนึ่งพลอยก็ต้องแต่งงานมีครอบครัว ถึงเวลานั้นพ่อจะอยู่กับใคร” “เพราะพลอยเหรอ” พลอยดาวเองก็เคยคิดแบบนี้ เธอเคยคุยกับพ่อ ทำไมพ่อไม่แต่งงานใหม่ เพราะแม่เองก็แต่งงานมีคนรักใหม่แต่ไม่ได้ทอดทิ้งเธอกับน้องเลย ตอนที่แม่ยังอยู่เมืองไทยยังมารับเธอไปนอนค้างบ้านคุณยายบ่อยๆ “มุกไม่ได้โทษว่าเป็นความผิดของพลอยนะ” พราวมุกรีบอธิบาย “แต่พลอยก็รู้ว่าพ่อเป็นแบบนั้น พ่อไม่เหมือนแม่ที่มูฟออนออกมานานแล้ว” “พลอยเข้าใจ” พลอยดาวพยักหน้า “แล้วมุกล่ะ มาอยู่เมืองไทยคนเดียวแม่ไม่บ่นเอาเหรอ” “ไม่หรอก” พราวมุกหัวเราะร่าแล้วเดินไปหยิบรีโมทโทรทัศน์ “มุกรู้ว่าเดวิทอยากมีลูกของตัวเองกับแม่ของเรา แต่ติดที่ทั้งสองคนเป็นห่วงความรู้สึกของมุก ผู้หญิงไม่เหมือนผู้ชายนะ ถ้าท้องตอนอายุมากจะมีปัญหา มุกเลยหาเรื่องแยกตัวมาใช้ชีวิตคนเดียว แต่อยู่เมืองไทยแม่จะยังสบายใจกว่า เพราะถ้ามีอะไรก็ยังมีพ่อมีพลอยและครอบครัวฝั่งคุณตากับคุณยาย มุกก็เลยกลับมาไทยนี่แหละ” “แล้วมุกคิดจะทำงานประจำนี่จริงๆเหรอ” “พลอยถามมุกหลายรอบแล้วนะ” พราวมุกทำปากยื่นใส่ “มาดูหนังกัน” พลอยดาวขยับตัวไปนอนเบียดพราวมุก ทั้งสองไม่ได้เหมือนกันแค่หน้าตา แต่รูปร่างยังพอๆกันอีกด้วย พราวมุกใส่เสื้อผ้าของพลอยดาวได้ แต่พลอยดาวไม่ค่อยชอบเสื้อผ้าของพราวมุกนัก รู้สึกว่ามันสั้นไปนิด รัดรูปไปหน่อย ถ้าพ่อเห็นคงต้องบ่นแน่นอน “ถ้าทำงานประจำได้ ก็จะได้มีตังค์ใช้ทุกเดือนไง ส่วนงานอื่นเป็นรายได้เสริม และถือว่าหาประสบการณ์ไปด้วย” “อื้ม” พลอยดาวพยักหน้ารับ “ไม่ดูหนังผีนะ” “หนังฆาตกรรมต่างหาก” “ไม่เอา ดูหนังรักไม่ได้เหรอ” “ตามใจๆ ถือว่าวันนี้ช่วยมุกไว้” พราวมุกหัวเราะ แล้วกดรีโมทเลื่อนดูรายการที่ต้องการ “บอสของมุกเป็นไงล่ะ” “ตานั้นนะเหรอ” พลอยมุกแอบเบ้ปากใส่ “ขี้เก๊กชะมัด” พราวมุกหัวเราะเสียงใส “ทำไงได้ล่ะ ต้องพิสูจน์ตัวเองนี่ ถึงจะเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทก็เถอะ” “อย่างนั้นเหรอ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD