บทที่ 5
คนใจบาป
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่มาร์ชกลับไม่สนใจ ชายหนุ่มยังคงจูบเด็กสาวอย่างร้อนแรง นิ้วมือก็บดขยี้เนินอวบอูมผ่านเนื้อผ้าบางจนเปียกชุ่ม ร่างบางเริ่มดิ้นเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งแบบถี่ๆ
ก๊อก ก๊อก
“คุณมาร์ชค่ะ คุณมาร์ช..คุณมายด์อยู่ในห้องคุณมาร์ชหรือเปล่าคะ? ”
เสียงสมจิตดังแทรกเข้ามาแว่วๆ ทำให้มาร์ชต้องถอนจูบออกอย่างขัดใจ ชายหนุ่มยกร่างบางลงจากตักให้เธอยืนบนพื้น ส่งผลให้คนตัวเล็กเซเล็กน้อยเพราะยังมีสติไม่ครบถ้วน มาร์ชลุกขึ้นพลางมองไปยังประตู
“แต่งตัวให้เรียบร้อยสิ ยืนเซ่ออยู่ทำไม!!”
ชายหนุ่มเอ็ดเสียงเบาก่อนเสยผมตัวเองลวกๆ มองคนตัวเล็กที่ลนลานติดกระดุมเสื้อด้วยมือสั่นเทา ติดผิดติดถูกอย่างหงุดหงิด
“ซื่อบื้อ ชักช้า น่ารำคาญ มานี่!”
มาร์ชกระชากแขนเธอให้เดินเข้าไปในห้องแต่งตัว กำชับเสียงเข้มว่าห้ามส่งเสียงดังให้อยู่เงียบๆ เขาจะไปบอกสมจิตเองว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้อง คนตัวเล็กพยักหน้ารับทราบ แล้วรีบติดกระดุมเสื้ออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เงี่ยหูฟังบทสนทนาระหว่างมาร์ชกับสมจิตด้วยใจลุ้นระทึก
แกร็ก..
“ว่าไงครับป้าจิต”
“คุณมายด์อยู่กับคุณมาร์ชมั้ยคะ” สมจิตถามพร้อมกับชะเง้อคอมองข้ามตัวมาร์ชเข้าไปในห้องเพื่อหาบุคคลที่ตามหา
“ไม่ครับ” มาร์ชหน้านิ่งพูดเสียงเรียบ นึกรำคาญสายตาสอดรู้สอดเห็นของสมจิตอยู่ไม่น้อย แต่ไม่สามารถแสดงออกเพราะกลัวมีพิรุธให้จับได้
“ป้าไปดูที่ห้องคุณมายด์ แล้วคุณมายด์ไม่อยู่ เลยคิดว่าคงอยู่ห้องคุณมาร์ช”
“ลงไปหาอะไรกินหรือเปล่า ป้าจิตลองไปดูข้างล่างสิครับ”
“ค่ะๆ ป้าขอโทษนะคะที่มารบกวนคุณมาร์ช”
เมื่อเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของเจ้านายสมจิตก็ยอมถอย ทั้งที่รู้ดีว่ามายด์ไม่ได้อยู่ข้างล่างอย่างแน่นอน เพราะนางอยู่รอในห้องอาหารตั้งแต่เห็นเด็กสาววิ่งตามมาร์ชขึ้นมาชั้นบน และมายด์ก็ไม่ได้ลงไปข้างล่างอีกเลย
หลังจากสมจิตไปแล้ว มาร์ชก็เรียกมายด์ออกมา เด็กสาวเดินมาหยิบโทรศัพท์ที่หล่นอยู่บนพื้นมาถือไว้ ก่อนมองไปยังร่างสูงอย่างทำอะไรไม่ถูก ดูเหงอะหงะน่ารำคาญในสายตามาร์ชเป็นอย่างยิ่ง
“รีบกลับห้องไปสิ จะอยู่รอให้ป้าจิตมาเจอเหรอไง!”
น้ำเสียงห้วนๆของมาชทำให้มายด์เกิดความน้อยใจ เหมือนว่าเขาจะอารมณ์แปรปรวนเหลือเกิน ตอนจูบเธอเขาดูใจดีออดอ้อน แต่ตอนนี้กลับดูฉุนเฉียว
..เป็นไบโพล่าเหรอไงคนบ้า!..
“อ่อ..ค่ะๆ มายด์ไปนะคะ” มายด์เปิดประตูก่อนมองซ้ายขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีใครก็รีบวิ่งไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่อีกฝั่งของบ้านอย่างรวดเร็ว
หารู้ไม่ว่ามีสายตาของสมจิตจับจ้องอยู่ แม่บ้านเอามือทาบอกเมื่อเห็นสภาพของเด็กสาวที่เปิดประตูออกมาจากห้องมาร์ช ไม่บอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้น นางคงต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดไปไกล..
หลังจากคนซื่อบื้อในความคิดของเขาออกจากห้องไปแล้ว มาร์ชก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมที่ใช้เป็นที่สอนจูบน้องสาวร่วมโลกอย่างเร่าร้อนเมื่อครู่ ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาเพื่อนสนิทอย่างลีโอในทันที
[ว่าไงครับเพื่อน..โทรมาตอนนี้ต้องมีอะไรดีแน่ๆ เลย]
“กูโทรมารายงานผล”
[หู้ย..ไอ้เหี้ย..เรื่องแบบนี้เร็วชิบหาย กูเพิ่งแนะนำไปเมื่อเย็น ตกลงมึงจัดการน้องสาวนอกไส้ไปแล้วเหรอวะ เป็นไงบ้างเด็ดมั้ย?..กูอยากเสือก]
“ยังไม่ได้เอา แค่ดูดนมกับล้วงช่วงล่าง แม่ง!เด็กมันแรด แค่กูล้วงก็แฉะแล้ว”
[ไอ้ใจทราม ทำน้องเขาแล้วมาว่าน้องแรดลับหลังแบบนี้ก็ได้เหรอวะ]
“เด็กมันนมใหญ่จริงอย่างที่มึงว่า ก้นก็เด้ง กูโคตรอยากเอาเลยว่ะ เสียดายป้าจิตมาขัดจังหวะเคาะห้องซะก่อน”
[เชี่ย ! ระวังนะมึง แม่บ้านนี่ตัวดีเรื่องสอดรู้สอดเห็น ถ้าเรื่องถึงหูพ่อมึงได้ซวยแน่]
“ไม่หรอก ป้าจิตไม่รู้ว่ายัยซื่อบื้ออยู่ในห้องกู”
[มึงแน่ใจนะ ว่าไม่รู้]
“อืม..กูแน่ใจ 100 %”
[ว่าแต่มึงคิดว่าน้องมายด์ยังซิงป่ะวะ ]
“ซิงแน่นอน แค่จูบยังจูบไม่เป็นเลย แต่หัวไวมากโดนกูจูบแค่สองครั้งก็แลกลิ้นเป็นแล้วเล่นซะกูแข็งโปกเลย แม่ง! พูดแล้วอยากไปลากมากระแทกให้จมเตียง”
[สัส ! ใจบาปเหี้ยๆ น้องอายุแค่สิบหกเอง มึงใจเย็นๆ ดิวะ โอ้ย..อิจฉาคนมีน้องสาวให้แทะโลมโว้ยย.. ทั้งขาวทั้งนมใหญ่มึงโคตรโชคดีเลยวะไอ้มาร์ช]
“ใจเย็นเหี้ยไร พอแตกเนื้อสาวเด็กมันก็อ่อยกูทุกวัน กูแค่รอจังหวะ สบโอกาสเมื่อไหร่กูจะฟาดให้ยับเลย”
[จ้ะ..พ่อเอวติดเทอร์โบ กูใฝ่ฝันชีวิตในมหาลัยแล้วเนี่ย อีกแค่ไม่กี่เดือนก็จะเป็นนักศึกษากันแล้ว ถึงตอนนั้นกูจะใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยงเลย ได้ขับรถเท่ๆ ไปเรียน นั่งเหล่สาวรุ่นพี่ แค่คิดก็มันส์แล้ว]
“ฮ่าๆ มึงนี่นะ คิดแต่เรื่องเหี้ยๆ ”
[สาบานว่ามึงไม่คิด? ]
“เออๆ ยอมรับว่าคิด แต่เรื่องมายด์มึงห้ามให้ปรางรู้นะ กูไม่อยากถูกยัยนั้นซักฟอก ทำตัวยังกะเป็นเมียกูเข้าไปทุกวันแระ น่าเบื่อ”
[สาบานว่ามึงไม่รู้ว่าปรางคิดอะไรกับมึง]
“กูรู้แต่กูไม่ได้คิดอะไรกับปราง เพื่อนก็คือเพื่อนมั้ยวะ กูไม่นิยมกินคนใกล้ตัว”
[แต่จ้องจะปี้น้องสาว ไอ้เหี้ยโคตรย้อนแย้ง]
“ยัยซื่อบื้อนั้นไม่นับว่าเป็นคนใกล้ตัวเว้ย เพราะฉะนั้นกูกินได้ไม่ติดขัดอะไร”
[จ้ะ..นาทีนี้อะไรก็ยกเว้นหมดแหละสำหรับคนนี้อ่ะ]
“เออๆ แค่นี้นะ กูขอไปชักว่าวก่อน อารมณ์ค้างไม่ไหวแล้ว”
[โอ้ย พ่อไฟแรงสูง แค่นี้] ตู้ด ตู้ด ตู้ด
วางสายจากเพื่อนสนิทแล้วมาร์ชก็รีบเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ระหว่างนั้นก็คิดถึงรสจูบระหว่างเขากับมายด์ไปด้วย ยอมรับว่าอยากได้เธอมากๆ ไม่ได้ชอบหรือรักหรอกนะ แค่อารมณ์ ‘อยาก’ ตามประสาวัยคะนองล้วนๆ ..
เช้าวันต่อมา
มายด์ตื่นเช้ารีบแต่งตัวแล้วมานั่งรอมาร์ชในห้องนั่งเล่นเช่นเคย เด็กสาวนั่งคิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็แก้มแดงปลั่ง เธออมยิ้มอย่างมีความสุข หารู้ไม่ว่าการกระทำทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของสมจิตที่กำลังเก็บข้อมูลเพื่อไปรายงานประมุขของบ้านตามคำสั่ง เมื่อคืนนางได้โทรเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณธวัชได้รับรู้
ด้วยเหตุนี้วิเชียรจึงถูกสั่งให้กลับมากลางดึก คุณธวัชสั่งให้นางจับตาดูมายด์อย่างใกล้ชิดและต้องนอนเป็นเพื่อนมายด์ตั้งแต่คืนนี้เพื่อป้องกันเหตุการณ์อย่างเมื่อคืนไม่ให้เกิดขึ้นอีก
“คุณมายด์แต่งตัวเสร็จแล้วใช่มั้ยคะ ลุงเชียรรออยู่ข้างหน้าแล้วค่ะ” สมจิตพูดขัดความสุขของคุณตัวเล็ก
“อ้าว ลุงเชียรกลับมาแล้วเหรอคะ แล้วคุณพ่อกับคุณแม่กลับมาด้วยหรือเปล่า” มายด์แปลกใจไม่น้อยกลับเรื่องที่สมจิตบอกไปส่ง”
“มายด์ก็ไปกับพี่มาร์ชไงคะ” เด็กสาวหน้ามุ่ยผิดหวังที่ไม่ได้นั่งรถไปเรียนกับมาร์ช
“ป้าว่าอย่าไปรบกวนคุณมาร์ชเลยค่ะ รีบไปค่ะลุงเชียรรอนานแล้ว”
สมจิตเดินมาหยิบกระเป๋านักเรียนของเด็กสาวก่อนจับจูงคนตัวเล็กให้เดินตามไปอย่างรีบเร่ง เมื่อหางตามองเห็นมาร์ชกำลังเดินลงบันได
“ค่ะ..ป้าจิต” มายด์เดินตามแรงจูงไปอย่างงวยงง ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกว่าสมจิตดูรีบร้อนจนผิดปกติ
ร่างสูงมองตามคนตัวเล็กที่โดนจับจูงไปเขม็ง แปลกใจที่วันนี้เธอไม่วิ่งเข้าหาเหมือนอย่างเคย และยิ่งสงสัยเข้าไปอีกเมื่อเห็นวิเชียรกำลังเปิดประตูรถให้เธอ
วันนี้มาร์ชตั้งใจว่าเลิกเรียนเขาจะรอกลับพร้อมมายด์แล้วพาเธอไปกินไอติม จากนั้นก็ค่อยหลอกล่อเธอไปสานต่อเรื่องเมื่อคืนให้จบกระบวนการ แต่เอาเถอะต่อให้ไม่ได้กลับพร้อมกันก็ใช่ว่าเขาจะไม่มีโอกาสเข้าหา ไว้ค่อยคิดว่าคืนนี้จะทำไงเพื่อให้เธอมาที่ห้องเขาอีกครั้ง..
แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดไว้ สมจิตทำตัวติดมายด์ตลอดเวลา ไม่ว่าเด็กสาวจะทำอะไรสมจิตจะคอยวนเวียนอยู่ไม่ห่าง จนมาร์ชไม่สามารถเข้าใกล้เด็กสาวได้เลย จนกระทั้งเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์คุณธวัชกับคุณพิมพ์พรรณกลับจากหัวหิน และตอนนี้เขา
กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานของพ่อซึ่งอยู่ในบ้าน แต่คุณธวัชเอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมพูดอะไร จนเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดและเกิดความสงสัย
“พ่อมีอะไรกับผมก็รีบพูดมาเถอะครับ ดึกแล้วพรุ่งนี้ผมต้องสอบเป็นวันแรก” มาร์ชพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยเมื่อคุณธวัชดูลังเลไม่กล้าพูด
“คือ..พ่อ..จะบอกมาร์ชว่า ถ้าเข้าปีหนึ่งแล้ว พ่ออยากให้มาร์ชย้ายไปอยู่คอนโด จะได้เดินทางไปมหาลัยสะดวกๆ”