Intro
สาวน้อยหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มตามประสาสาวญี่ปุ่นอย่างฟูมิโกะที่ตรงสเปกผู้ชายไทยหลายคนทำให้เธอกลายเป็นสาวฮอตไปโดยไม่รู้ตัว หนำซ้ำแววตา และท่าทางไร้เดียงสาโดยธรรมชาติของเธอก็ยิ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล ทว่ากลับมีผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้คิด และมองเห็นเธอในมุมที่ผู้ชายคนอื่นมองเห็น
สำหรับธามฟูมิโกะคือตัวปัญหาที่เขาอยากจัดการออกจากชีวิตให้ได้เร็วมากที่สุด ติดก็ตรงที่…เธอดันมาจากครอบครัวยากูซ่าที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงต้องจำใจเล่นละครตบตาครอบครัวของเธอหลังจากที่เธอไปก่อเรื่องโกหกทุกคนเอาไว้ว่าเธอกับเขาเป็นแฟนกันเพื่อล้มงานแต่งที่ถูกจับคลุมถุงชน
และความลำบากใจของเขาคือผู้ชายที่เธอต้องแต่งงานด้วยดันเป็นพี่เขยของเขาทำให้เขาไม่มีทางที่จะหลีกหนีเธอได้เลย เพราะหากความลับระหว่างเขากับเธอถูกคนอื่นจับได้ขึ้นมาเรื่องราวคงบานปลายไปกระทบทุกฝ่าย รวมถึงตัวเขาเองที่อาจจะโดนซ้อมตายขึ้นมา
“ขนมได้แล้วค่า~” ภาษาไทยสำเนียงญี่ปุ่นที่ฟูมิโกะพยายามฝึกพูดอยู่นานเรียกรอยยิ้มจากลูกค้าที่ร้านขนมหวานของธามที่เปิดกับพี่สาวได้เป็นอย่างดี ทว่าตอนนี้พี่สาวเขาได้ถอนตัวออกไปแล้วเนื่องจากกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง และได้ย้ายกลับไปอยู่กับสามีที่เตรียมแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันเร็วๆ นี้ ทำให้เขาต้องดูแลร้านเพียงลำพัง
แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่ได้ลูกคุณหนูยากูซ่าเอาแต่ใจอย่างฟูมิโกะมาช่วยระหว่างที่เขากำลังประกาศรับสมัครพนักงานเพื่อมาช่วยดูร้าน
“ไปฝึกพูดมาตอนไหน” ธามเอ่ยถามฟูมิโกะที่เดินถือถาดเสิร์ฟอาหารกลับมาเก็บ
“เก่งละสิ” ฟูมิโกะฉีกยิ้มกว้างจนตาเป็นสระอิด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะจางหายไปเมื่อธามได้เอ่ยประโยคถัดมา
“ถ้าจะพูดเพี้ยนขนาดนั้นก็ไม่ต้องพูดหรอกฉันอายแทน” ธามตอบพร้อมกับทำสีหน้าขนลุกใส่ฟูมิโกะที่สีหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดขึ้นทีละนิด
“คนเขาอุตส่าห์มาช่วยอุตส่าห์พยายามฝึกมาตั้งนานชมสักหน่อยจะตายเหรอ”
“เธอมาทำงานร้านฉันเพื่อที่เธอจะได้หาข้ออ้างมาใกล้ชิดฉันไม่ใช่เหรอ” หัวคิ้วหนาเลิกขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจในตัวเองจนอีกฝ่ายอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้
“ถ้าไม่ใช่เพราะพวกหน้าโหดนั้นจับตาดูอยู่ฉันไม่มาเป็นทาสที่ร้านนายแบบนี้หรอก” ฟูมิโกะบ่นอุบพลางหันไปมองคนที่พ่อของเธอส่งมาจับตาดู
“ช่วยไม่ได้บอกแล้วว่าไม่เอาด้วยกับแผนการนี้”
“แต่มันก็ได้ผลไม่ใช่รึไงไม่งั้นตอนนี้นายจะได้มีหลานคนที่สอง พี่สาวนายเองก็ได้มีครอบครัวที่อบอุ่นไม่ดีรึไง”
“ฉันต้องขอบคุณเธอไหมที่ทำให้ฉันต้องเสียเวลามาแกล้งเป็นแฟนปลอมๆ ให้เธอ”
“ก็ควรนะ ฉันต่างหากที่เสียสละตัวเองนายไม่เห็นเหรอว่าฉันน่ะมีผู้ชายต่อคิวเยอะขนาดไหน” ฟูมิโกะไหวไหล่เบาๆ อย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะหันไปโปรยเสน่ห์ใส่ลูกค้าผู้ชายโดยการส่งยิ้มหวานไปให้
“ปากฉีกถึงรูหูแล้วมั้ง” ประโยคกระแนะกระแหนของชายหนุ่มทำให้ใบหน้าหวานหันขวับกลับมามองเขาตาขวางทันที
“ปากนายก็หาอะไรมาเย็บบ้างนะ เที่ยวปล่อยหมามากัดคนอื่น” ฟูมิโกะตอบกลับความปากร้ายของธามด้วยความเคยชิน ก่อนจะนำออร์เดอร์ต่อไปไปเสิร์ฟให้ลูกค้าทำให้ศึกปะทะฝีปากระหว่างเขากับเธอสงบลงชั่วคราว
ฟูมิโกะทำหน้าที่พนักงานเสิร์ฟได้อย่างไม่มีข้อบกพร่องคงเพราะมาช่วยงานที่ร้านจนชินแล้ว รวมถึงลูกค้าที่ร้านก็คุ้นเคยกับท่าทางน่ารักของเธอเป็นอย่างดี รวมถึงธามที่ถึงแม้จะปากแข็งหาเรื่องทะเลาะกับเธอได้อยู่ทุกวัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเคยชินกับการที่ได้เห็นเธอในทุกๆ วัน เพราะทุกเช้าเขาเองก็จะทำมื้อเช้าเผื่อเธอเอาไว้เพื่อรอกินพร้อมกันจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเขาไปเสียแล้ว
“นี่นายหลังร้านปิดไปหาอะไรกินกันไหม” ฟูมิโกะเดินมาบอกธามด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพลางส่งสายตาหวานไปให้ปริบๆ
“ที่ไหน” ธามเอ่ยถามโดยไม่ได้มองหน้าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
“อยากกินหมูกระทะบุฟเฟต์อยากกินหลายอย่าง”
“ตะกละ” เขาหันมามองหน้าตาจิ้มลิ้มของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความคุ้นเคย
“โทษนายนั่นแหละที่เลี้ยงฉันอดอยาก” ฟูมิโกะรีบโทษอีกฝ่าย เพราะเขาแทบจะไม่สนใจเธอเลยหากเธอไม่มาหาเขาที่ร้านเขาก็ไม่เคยเป็นฝ่ายไปหาเธอก่อนเลย
“อืม เดี๋ยวพาไป” แววตาน่าสงสารของหญิงสาวที่ตัดพ้อออกมาทำให้ธามใจอ่อนไม่กล้าเอ่ยปฏิเสธคำขอของเธอในครั้งนี้
“พูดจริงนะ” หญิงสาวตาโตด้วยความตื่นเต้น
“พูดเล่น”
“ไม่นับ ไม่มีใครเขาพูดเล่นเรื่องของกินกันหรอก” ฟูมิโกะแสร้งเมินเฉยไม่สะทกสะท้านต่อคำพูดของชายหนุ่ม ก่อนจะเดินถือถาดไปเก็บโต๊ะอย่างอารมณ์ดี ทำให้ธามอดยิ้มตามหลังไม่ได้กับความทะเล้นของเธอ