อันเฟยถึงกับยืนขมวดคิ้วมองไปยังคนตัวโตที่โวยวายดุจเด็กเล็กที่ไม่ยอมห่างจากอกมารดาอย่างที่ท่านอ๋องกำลังทำอยู่ นางไม่เข้าใจว่าจู่ ๆ เขาจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ในเวลาเพียงไม่นาน “หม่อมฉันไม่ได้จะบอกว่าให้กงหลี่มานอนเฝ้านี่เพคะ เพียงแค่ให้เขาคอยตรวจยาที่ต้มมาให้พระองค์เท่านั้น เหตุใดต้องโวยวายเช่นนั้นด้วยเพคะ” “อ้อ หากเจ้าพูดเช่นนั้น…ก็แล้วไป” อันเฟยหันมายกถาดอาหารขึ้นมา ท่านอ๋องจึงได้ทักนางอีกครั้ง “แล้วนั่นเจ้าจะไปไหนอีก เหตุใดไม่ให้คนมายกออกไป” “พระองค์ประชวรอยู่ อาการเช่นนี้ห้ามให้ผู้อื่นอยู่ใกล้มากและไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย ท่านหมอจึงสั่งให้คนอื่น ๆ ไม่เข้าออกมากในช่วงนี้ หม่อมฉันจะยกออกไปให้กงหลี่เอาไปเก็บ” “ลำบากเจ้าแล้ว” “จะดีมากหากพระองค์เงียบและนอนเฉย ๆ เพคะ” “นี่เจ้า….หาว่าข้าพูดมากงั้นหรือ” อันเฟยไม่ตอบแต่ยกถาดอาหารออกไป เมื่อนางออกมาก็พบว่าสนมลี่เดินมาและพยายามเข้ามาที่ห้องบรรท