ตอนที่ 1 หอต้าหรง

1459 Words
สำนักฝึกวิชา “เทียนซู” แคว้นหงหนาน “อันเฟย!!” “อาจารย์หญิง!!” สตรีอ่อนวัยหันมาพร้อมกับดาบในมือที่ยังฝึกอยู่ในมือเมื่ออาจารย์หญิงเดินมาเรียก นางจึงได้เก็บดาบและเดินเข้ามาหาผู้ที่เรียกนางเมื่อสักครู่ “อาจารย์หญิง ท่านมีเรื่องด่วนอันใดหรือเจ้าคะ” “มีจดหมายจากท่านพ่อของเจ้าพึ่งส่งมาถึงก็เลยรีบนำมาให้เจ้า” “ขอบคุณเจ้าค่ะ” “หมิงอันเฟย” รับจดหมายจากอาจารย์หญิงมาอ่านใต้ต้นดอกเหมยปลายฤดูหนาวของหงหนาน นางเป็นศิษย์ "สำนักเทียนซู" สำนักอันดับหนึ่งที่เก่งกาจเรื่องการใช้ดาบและอาวุธลับ วิชาที่โดดเด่นมากที่สุดคือการฝึกพลังปราณคู่กับดาบที่กล้าแข็งไร้ผู้ใดเทียบได้ พลังปราณของพวกนางสามารถโยกย้ายสิ่งของได้และขับพิษบางอย่างได้ สำนักนี้อยู่ในแคว้นหงหนานที่เก่งเรื่องวิชายุทธ์ สำนักนี้จึงมีชื่อเสียงดังไปทั่วสามแคว้นที่อยู่ติดกัน แคว้นฉินนักรบบนหลังอาชาที่องอาจปราศจากผู้รุกล้ำมานานกว่าศตวรรษ เก่งกาจด้านการรบและการใช้อาวุธ และแคว้นเป่ยหยางผู้เก่งเรื่องการปรุงยาและเลี้ยงสัตว์ในเขตทุ่งหญ้า “อะไรเนี่ย…ฝันไปเถอะ!!” หมิงอี้เฟยทำหน้าราวกับฝันร้ายกำลังจะมาเยือนในไม่ช้า ใช่แล้วอีกไม่กี่วันนางก็จะได้ลงจากเขา ที่จริงควรจะไปจากที่นี่ได้แล้วเพราะนางร่ำเรียนจบไปมากกว่าหนึ่งปีแล้วแต่เพราะนิสัยชอบฝึกฝนและรักสำนักนางจึงขอบิดาอยู่ที่นี่ต่อ แต่เมื่อจดหมายฉบับล่าสุดที่ถูกส่งมาถึงนางทำให้นางตัดสินใจลงจากเขาทันที “เอี้ยนซือ ส่งให้ถึงมือพี่ใหญ่ข้าด้วยล่ะ” จดหมายอีกหนึ่งฉบับถูกส่งไปกับเหยี่ยวสาวที่นางเลี้ยงเอาไว้ เหยี่ยวตัวนี้มากับนางครั้งแรกที่ขึ้นเขามาร่ำเรียนที่สำนักเทียนซู และตอนนี้อันเฟยก็เดินมายังห้องของอาจารย์หญิง “เนี่ยเจิน” อาจารย์ใหญ่ที่คอยดูแลนางอยู่ แต่ตอนนี้อาจารย์หญิงเข้านอนแล้วนางจึงวางจดหมายเอาไว้ที่บนโต๊ะทำงานแทน “ขออภัยที่ศิษย์มิได้เอ่ยลาด้วยตนเอง อาจารย์โปรดอภัยด้วย” นางวางจดหมายเอาไว้เรียบร้อยก็หันหลังเดินจากมาทันทีพร้อมกับลงเขาเทียนซูไปเงียบ ๆ มุ่งตรงไปยังชายแดนที่ติดกับหงหนานทางเหนือนั่นก็คือเมือง “ฉินโจว” เมืองหลวงของแคว้นฉินที่อยู่ใกล้หงหนานมากที่สุด เมืองฉินโจว เสียงอึกทึกของเมืองหลวงที่คึกคักตั้งแต่ยามเช้าและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างแดนที่เริ่มเข้ามาตั้งแผงร้านค้าทำให้ถนนรอบเมืองหลวงเริ่มแคบลงทุกที แต่อันเฟยกลับชอบบรรยากาศที่คึกคักเช่นนี้เพราะนาน ๆ นางจะได้มีโอกาสลงจากเขาสักทีเมื่อเดินเข้ามายังเมืองหลวงนางจึงเริ่มเดินไปตามเส้นทางจนกระทั่งพบจุดหมายตรงหน้า “โรงเตี๊ยมต้าหรง ใช่แล้วที่นี่แหละ” อันเฟยเดินเข้าไปพร้อมกับมองหาผู้ที่นางจะพอสื่อสารได้ ไม่นานก็มีชายสูงอายุ หลังค่อมนิด ๆ ที่ดูท่าทางราวกับผู้ที่มีหน้าที่จัดการในร้านเดินเข้ามาหานาง “แม่นางท่านนี้ ต้องการห้องพักหรือมากินข้าวหรือขอรับ” “อะฮึ่ม!! คือว่า….นี่” นางยกป้ายหยกรูปหงส์ที่มีดวงตาสีแดงทับทิมชูให้ชายผู้นั้นดูพร้อมกับเอ่ยคำบางอย่างขึ้น “ใบหลิวลู่ลม ต้นสนเปลี่ยนทิศ” / อันเฟย “บรรพตกลืนตะวัน” / เสี่ยวเอ้อร์ “จันทราผลัดปฐพี พันลี้ใช้เพียงประโยคเดียว” / อันเฟย “คุณหนูเชิญทางนี้เลยขอรับ” “ขอบคุณ” ชายผู้นั้นเดินนำทางนางขึ้นไปยังชั้นสองของโรงเตี๊ยมและเลี้ยวไปยังทางซ้ายมือจนสุดทางก่อนจะเปิดประตูให้นางเข้าไปพบกับผู้ที่ทำหน้าที่คุมหอต้าหรงด้านใน “คุณหนู เชิญท่านยกป้ายหยกอีกครั้ง” นางทำตามที่ชายผู้นั้นสั่ง คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะบัญชีเงยหน้าขึ้นมามองนางนิ่งพร้อมกับรับป้ายหยกของนางมาส่องไฟดู ตรงดวงตาทับทิมสีแดงเริ่มเปลี่ยนสีและเกิดอักษรคำว่า “หมิง” ที่สะท้อนไปยังผนังเขาจึงรีบส่งป้ายนั้นคืนให้นางพร้อมคำนับให้ “มิทราบว่าคุณหนูต้องการสิ่งใดขอรับ” “ข้าขอเบิกเงินสักหน่อย” “แต่ว่า…นายท่านสั่งเอาไว้ จะเบิกเงินต้องทำงานแลกไม่มียกเว้น” “ทำงานงั้นหรือ แล้ว…มีงานใดที่น่าทำบ้างเล่า” “….ท่านรอสักครู่” เขาหันไปรื้อเอากล่องงานที่รับมาซึ่งแยกออกเป็นสามกล่องและนำมาวางตรงหน้านาง “นี่อะไรกันน่ะ” “สามกล่องนี้คืองานที่มีให้ท่านเลือกขอรับ กล่องแรกเป็นงานง่าย ๆ รับส่งเอกสาร แก้ปัญหาผัว ๆ เมีย ๆ แต่ค่าตอบแทนก็จะไม่เกินสิบตำลึง” “สิบตำลึง!! ซื้อเหล้าดี ๆ ยังไม่ได้เลย แล้วกล่องกลางนี่เล่า” “งานนี้จะเสี่ยงขึ้นมาหน่อย ช่วยทางการสืบคดีอย่างลับ ๆ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากแต่สถานที่ที่จะไปคือพวกบ่อนการพนัน หอนางโลม และโรงสุรา เป็นเหมือนนางนกต่อและปลอมตัวเพื่อช่วยทางการจับคนร้าย ราคาค่าจ้างก็จะอยู่ไม่เกินสองร้อยตำลึง” “ทำไมมันต่างกันละ” ครั้งนี้เองที่อันเฟยหยิบแต่ละแผ่นขึ้นมาดู "งานไม่ยาก ปลอมเป็นนักดนตรี นางรำ นางโลมแล้วไปเอาหลักฐานในตัวคนร้ายและมอบทางการ ผู้จ้างวาน “ฟู่” พวกท่านให้ผู้จ้างลงชื่อเช่นนี้จะไม่เป็นภัยหรอกหรือ" “คุณหนูไม่ต้องห่วง ชื่อเหล่านี้ล้วนแต่เป็นชื่อปลอมทั้งสิ้นและทางเราเก็บทุกอย่างเป็นความลับขอรับ” “อ้าว เช่นนี้แล้วจะจ่ายเงินอย่างไรกัน” “ก่อนพวกเขามาว่าจ้างต้องวางเงินก่อนขอรับ ที่เหลือรับตอนปิดงานแน่นอนว่าหอต้าหรงของเราย่อมรู้จักผู้จ้างวานทุก ๆ คนดีขอรับ” “เช่นนั้นก็ถือว่ารอบคอบ ว่าแต่…คนหนึ่งรับได้กี่งาน จำกัดหรือไม่” “นั่นขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้รับงาน” “สองกล่องนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีผู้ใดหยิบเท่าใดเลยนะ” นางหมายถึงกล่องที่หนึ่งและกล่องที่สาม ผู้ดูแลบัญชีกล่าวตอบนางด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่แฝงเลศนัย แม้ว่านางจะคุยกับเขาไม่นานแต่ก็พอรู้ว่าคนผู้นี้คงพูดเล่นด้วยไม่ได้ เขาดูจริงจังราวกับพวกเสนาบดีหรืออำมาตย์ในวังหลวงก็มิปาน “นั่นเพราะมันง่ายเกินไป อีกกล่องก็…ยากเกินไปจึงไม่ค่อยมีผู้ใดสนใจขอรับ” “จะยากสักเพียงใดกัน ….อะไรนี่…ฆ่าคน!! แล้วยังมี วางยาพิษ….เดี๋ยวนะเรื่องนี้มันผิดกฎหมายนี่” “ฆ่าคนที่สมควรฆ่าจึงฆ่า เป็นผู้ที่ทางการต้องการ เป็นนักโทษที่ก่อคดีร้ายแรง วางยาพิษที่ไม่ได้ทำให้ถึงตายเพียงแค่ข่มขู่ คุณหนูท่านควรอ่านเงื่อนไขให้ครบ” “อ้อ เหลียนฮุย ฆ่าคนตายเก้าศพล้วนเป็นผู้หญิงงั้นหรือ เจ้าสารเลวนี่…” “ฆาตกรต่อเนื่องก่อคดีข่มขืนแล้วฆ่าสตรีในเมืองหลวงมาเกือบสองเดือนแล้วที่ทางการตามจับแต่ก็ยังไม่มีวี่แวว” “ไอ้คนสารเลว ข้าเอง!! ข้ารับงานนี้” “คุณหนูท่านแน่ใจงั้นหรือ” “ข้าแน่ใจงานนี้ข้าไม่เอาเงินรางวัลด้วย คนสารเลวเช่นนี้…สมควรตาย!!” นางอ่านคดีที่คนผู้นี้ฆ่าเพียงสตรีไปเก้าคน บางคนยังเป็นเด็กที่อายุไม่ถึงสิบหกปีด้วยซ้ำ บางคนก็เป็นบุตรขุนนางในเมืองหลวง และคนสุดท้ายที่มันฆ่าคือสตรีที่พึ่งตั้งครรภ์ได้สามเดือน อันเฟยเดินออกไปพร้อมกับดาบในมือเมื่ออ่านรายละเอียดของคนร้ายแล้ว “ชุดสีสดใส ทางปากสีแดงและสวมเครื่องประดับที่มีเสียง เจ้าคนนี้ต้องเป็นคนวิปริตเป็นแน่” อันเฟยจงใจเดินออกมานอกโรงเตี๊ยมแถวตรอกที่เคยบอกว่าคนร้ายมักจะมาฆ่าคนในบริเวณนี้เพราะใกล้กับหอนางโลมและโรงหมักสุรา อันเฟยเดินไปจนสุดตรอกก็ยังไม่พบความผิดปกติ “นั่นนางเป็นผู้ใดกัน ไม่รู้หรือว่าแถวนี้มีคดีร้ายแรงเกิดขึ้นบ่อย ๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD