"คุณหนู!"
เธียรถึงกับกุมขมับเมื่อได้รู้ว่า คุณหนูของเขาไปเรียนรู้วิธีเอาใจเขามาจากการแอบดูเพื่อนชายและครูสาว แถมเธอยังมาสารภาพและขอทำให้เขาแบบนั้นบ้าง
ใช่ว่าเธียรจะไม่ชอบใจ การที่ได้รู้ว่าคุณหนูของเขาอยากแลกเปลี่ยนความสุขให้เขาได้อิ่มเอมบ้าง ลึก ๆ ในใจของเธียรก็แอบปลาบปลื้มใจอย่างมาก หากแต่เขาไม่ปรารถนาที่จะให้เธอไปแอบดูคนอื่นแบบนี้
"พี่เธียรจะเสียงดังใส่นุดีทำไมคะ"
" พี่รู้ว่าคุณหนูอยากช่วยพี่ แต่การแอบดูคนอื่นแบบนี้ ไม่น่ารักเลยครับ คุณหนูไม่ต้องเรียนแบบใครทั้งนั้น พี่ไม่ได้ต้องการให้คุณหนูเหมือนคนอื่น เป็นแบบนี้เช่นตอนนี้ดีอยู่แล้วครับ ทุกอย่างต้องปล่อยให้มันเกิดขึ้นตามความรู้สึก พี่ไม่ได้ลำบากเลย แค่ได้เห็นใบหน้าที่แสดงถึงความสุขของคุณหนู พี่ก็อิ่มเอมทั้งใจแล้วครับ"
"แล้วไม่คิดว่านุดีก็อยากเห็นใบหน้าที่มีความสุขของพี่เธียรบ้างเหรอคะ นุดีอยากทำให้พี่เธียรมีความสุขบ้างนี่นา"
"หึ...เด็กดื้อ! แค่ได้ยินเสียงคุณหนูครางชื่อพี่ พี่ก็แตะขอบสวรรค์แล้วครับ"
"จริงเหรอคะ?"
"อื้ม...จริงสิครับ ไม่ต้องกังวลนะคนดี พี่รอคุณหนูได้เสมอ แค่นี้พี่ก็เอาเปรียบคุณหนูมากแล้ว ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปดีกว่านะ"
"อื้ม!"
ใบหน้าสวยยิ้มอย่างคลายความกังวล ก่อนจะโผเข้าไปซบอกเธียรและกอดเขาอย่างเต็มรัก
เธียรกอดร่างบางแนบอกแน่น พลางกดจูบลงบนกลางกระหม่อมของคุณหนูอย่างเอ็นดูและหวงแหนเป็นที่สุด
เขาไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรจากเธอเลย ขอเพียงแค่ดอกฟ้าโน้มกิ่งลงมาให้เขาได้ดอมดม เพียงเท่านี้เธียรก็เป็นสุขแล้ว
"อ้าว...ยัยหนูกลับมาพอดี"
ทันทีที่ก้าวลงมาจากรถ นุดีก็ต้องรู้สึกแปลกใจ ที่วันนี้แขกมาเต็มบ้านไปหมด มองดูแล้วล้วนแปลกหน้า และเธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
"ยัยหนูมานี่สิลูก นี่เพื่อนของพ่อเอง ชื่อลุงทวี ส่วนนั่นภรรยาของคุณลุงชื่อป้าแพรวา และที่นั่งอยู่นั่นคือลูกชายของทั้งคู่ ชื่อพี่ทิวา"
นุดีมองทุกคนด้วยใบหน้างงงวยก่อนจะยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม
"โตเป็นสาวแล้วนี่ แบบนี้เราก็ดองกันได้แล้วสิ"
คำพูดของคนมาเยือนทำเอาสาวน้อยคิ้วขมวดทั้งตกใจ เธอหันไปมองคนที่เดินตามหลังมาเมื่อครู่ แต่ทว่าเขากลับไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว นุดีมองหาเธียรจนคนเป็นพ่อเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"มองหาใครเหรอยัยหนู"
"เอ่อ...เปล่าค่ะคุณพ่อ"
"เข้ามานั่งคุยกับพี่ทิวาก่อนสิลูก วัยไล่กันน่าจะคุยกันถูกคอ"
นุดีเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก แม้จะตะขิดตะขวงใจว่านี่คงเป็นงานเลี้ยงดูตัวที่ผู้ใหญ่นัดกัน แต่สาวน้อยก็ไม่กล้าเอ่ยปากขัดใจคนเป็นพ่อให้เสียหน้าแต่อย่างใด ยอมทำตามอย่างว่าง่ายเพื่อรักษาหน้าพ่อเอาไว้
"ปีหน้าก็เข้ามหาลัยแล้วนี่ใช่ไหมอนันต์ ลูกสาวน่ารักขนาดนี้ ถึงว่าทำไมพ่ออย่างนายถึงไม่ยอมมีภรรยาใหม่ คงไม่อยากมีใครมาแทนที่แม่ของลูกสาวที่น่ารักคนนี้ใช่ไหม แล้วถ้าเกิดฉันมาสู่ขอลูกสาวนายไปเป็นสะใภ้ นายจะโอเคไหมอนันต์ ฮ่า ๆ"
"เรื่องนี้มันก็ต้องมีขัดกันบ้างนะทวี ถ้าอยากดองกับฉัน ต้องแต่งเข้าเท่านั้น ไม่งั้นฉันก็ไม่มีทางยอมหรอก"
"หนูนุดี มีอะไรปรึกษาพี่ทิวาได้นะลูก ตอนนี้พี่เขาเรียนมหาลัยปี 3แล้ว ถ้าหนูอยากรู้เรื่องมหาลัยก็ถามพี่เขาได้นะ"
"ค่ะ...คุณป้า"
"พ่อว่าพาพี่ทิวาเข้าไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้านดีกว่านะ หนุ่ม ๆ สาว ๆ ท่าจะมีเรื่องคุยกันเยอะ"
"ก็ดีนะครับ ไปกันครับ น้องนุดี"
"ค่ะ..."
แม้จะไม่สบอารมณ์ใจ แต่สาวน้อยก็ต้องตกกระไดพลอยโจน พาแขกคนสำคัญของคนเป็นพ่อออกมาเดินเล่นที่สวนหลังบ้าน
นุดีเดินเคียงข้างทิวามาเรื่อย ๆ ทั้งคู่ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรกันเลยสักนิด บรรยากาศมีแต่ความอึดอัด จนอกจะระเบิดกันทั้งคู่
"เอ่อ...คือ...พะ...พี่ทิวาคะ"
"รู้ใช่ไหมว่าเรากำลังถูกจับคู่กัน"
"ค่ะ..."
"เฮ้อ! อึดอัดเป็นบ้าเลย"
อยู่ ๆ ชายหนุ่มผู้มาเยือนก็แสดงออกด้วยความเบื่อหน่าย
"วางใจเถอะ พี่ไม่ทำตามใจผู้ใหญ่หรอก เราเองก็อึดอัดใช่ไหมล่ะ"
"พี่ทิวาดูออกเหรอคะ"
"ชัดเจนขนาดนั้น แล้วนุดีล่ะดูออกไหม"
"คะ?" นุดีทำหน้างง เมื่อทิวาเดินเข้ามาใกล้ แล้วก้มลงมากระซิบข้างหูเธอ
"อย่าบอกใครนะ ที่จริงแล้ว...พี่ชอบผู้ชาย"
"พะ...พี่ทิวา"
"หึ...ดูทำหน้าเข้า ชะนีน้อย...เธอเองก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่ชอบชะนี แต่เราเป็นพี่น้องกันได้นะ ส่วนเรื่องผู้ใหญ่ วันหนึ่งพวกเขาก็จะเข้าใจเอง แต่ช่วงนี้ ตามใจกันไปก่อนเนอะ"
"ขอบคุณนะคะ พี่ทิวาที่พูดความจริงกับนุดี ทำให้นุดีโล่งอกไปเยอะเลย"
"พี่ดูออกอยู่แล้วแหละ ว่าเราน่ะกำลังอึดอัดใจมาก ๆ ทีนี้ก็สบายใจเถอะ"
"ค่ะ...พี่ทิวา"
นุดีคลายความกังวลไปได้หนึ่งเรื่อง เธอโล่งใจมากที่รู้ว่าทิวาไม่ชอบผู้หญิง ต่อให้ผู้ใหญ่คิดจะคลุมถุงชน ก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจทิวาได้ ด้วยเหตุนี้ทิวาจึงกลายเป็นพี่ที่แสนดีและคุยสนุก จนนุดีรู้สึกชอบเขาขึ้นมา และชวนคุยอย่างออกรสชาติ
ทิวาเองก็ถูกชะตากับสาวน้อยมาก ชวนเธอคุยตลอดจนฟ้าเริ่มมืด ทั้งคู่สนิทกันเร็วมาก จนน่าตกใจ
แต่ในมุมมองของผู้ใหญ่ การที่ทั้งคู่สนิทสนมกันเร็วแบบนี้ สองครอบครัวก็เตรียมพร้อมสำหรับข่าวดีไว้แล้ว
ขณะที่ในมุมมองของอีกคนกลับร้อนรนใจจนนั่งไม่ติด ตั้งแต่กลับมาเธียรก็กระวนกระวายใจ จนไม่เป็นอันกินอันนอน เขาเดินวนไปมาภายในห้อง ทั้งแอบส่องดูคนที่เดินเคียงคู่กันในสวนเป็นระยะ
หลายครั้งที่คุณหนูหัวเราะร่าด้วยน้ำเสียงแห่งความสุข แต่ในใจของเธียรกับเป็นทุกข์ จนอกแทบระเบิดอยู่แล้ว
"ดอกฟ้าก็ต้องอยู่บนฟ้าสิวะไอ้เธียร มึงจะดึงเขาลงมาแปดเปื้อนทำไม"
เธียรย้ำกับตัวเองซ้ำ ๆ เพื่อดึงสติที่กำลังแตกสลายของตน หากทำได้เขาคงอยากฉุดเธอให้หนีตามเขาไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด เธอจะได้เป็นของเขาแค่คนเดียว แต่เธียรก็ได้เพียงแค่คิด เขาไม่มีวันทำให้เธอต้องเดือดร้อนเพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเป็นแน่