ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
รถสปอร์ตคันหรูราคาแพงหลายสิบล้านค่อยๆ ชะลอลงจอดตรงหน้าห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่งก่อนจะมีร่างเพรียวบางขาวผ่องของหญิงสาวสวมชุดเดรสสีชมพูหวานประดับไปด้วยคริสตัลช่วยขับให้ชุดสวยดูมีสง่าราศีมากยิ่งขึ้น ทั้งสวมรองเท้าส้นสูงสีขาวพร้อมควงกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นใหม่ล่าสุดมีผลิตแค่สามใบในโลกเท่านั้นก้าวขาลงมาจากรถอย่างเฉิดฉาย
เผยให้เห็นใบหน้าสวยทั้งสมบูรณ์แบบของหญิงสาวราวกับเป็นนางฟ้าลงมาจุติยังโลกมนุษย์ จนกลายเป็นที่สะกดสายตาของผู้ชายทุกคนที่อยู่ละแวก นั้นต่างพากันมองมาที่เธอเป็นตาเดียวแทบจะไม่กะพริบแม้แต่ผู้หญิงด้วยกัน ทันทีที่ได้เห็นเธอก็ถึงกับเกิดความอิจฉาในความสวยนั้นทั้งหลงใหลไม่น้อย
ร้านxxx
“สวัสดีค่ะเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณเชอรีลลูกค้าวีไอพีแวะมาที่ร้านของเรา วันนี้คุณเชอรีลมีความสนใจกระเป๋าคอเล็คชั่นใหม่ใบไหนเป็นพิเศษมั้ยคะ ดิฉันอยากจะแนะนำสินค้ารอบใหม่นี้เป็นงานเกรดพรีเมียมรุ่นลิมิตเต็ดอิดิชั่นทั้งหมด มีวางขายที่นี่ที่แรก คุณเชอรีลสนใจดูก่อนมั้ยคะ”
พนักงานบริการต้อนรับสาวรีบวิ่งแจ้นเดินตามร่างของหญิงสาวซึ่งเป็นลูกค้าวีไอพีประจำของที่นี่กำลังกวาดสายตามองกระเป๋าใบหรูที่ถูกตาถูกใจบนชั้นโชว์สินค้าอยู่ทันทีพลางแนะนำสินค้าด้วยน้ำเสียงอ่อนละคนเอาอกเอาใจทั้งคล่องแคล่วอย่างไม่มีสะดุดหรือขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย สมกับเป็นพนักงานฝ่ายดูแลบริการลูกค้าวีไอพี
“ไม่จำเป็นต้องดู ฉันเอาหมดทุกใบ เธอช่วยจัดการให้เรียบร้อยด้วย”
“ได้เลยค่ะ คุณเชอรีลต้องการจะใช้บัตรเครดิตรูดหรือจ่ายเงินสดดีคะ” พนักงานสาวเอ่ยถามพลางแยกยิ้มหวาน
“สมัยนี้ใครเขาพกเงินสดกันแล้วยะ เอาไปนี่” หญิงสาวหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าใบหรูส่งให้กับพนักงานสาวตรงหน้าทันทีหลังพูดจบ
ระดับคุณหนูเชอรีลอย่างฉันไม่จำเป็นต้องพกเงินสด แค่รูดบัตรเครดิตก็จบจะพกให้รุงรังกระเป๋าแบรนด์เนมของฉันไปทำไมกัน ซื่อบื้อจริงๆ ยัยพนักงานคนนี้ฉันมากี่ครั้งๆ ก็ไม่เคยจำสักที
“ได้ค่ะ เชิญคุณเชอรีลไปนั่งรอโซฟารับแขกสักครู่นะคะ”
“อย่าช้าละ ฉันรีบ”
“ได้เลยค่ะ” พนักงานสาวใบหน้าระรื่นไม่รอช้าที่จะเดินจากไปจัดเตรียมสินค้าให้กับลูกค้าวีไอพีอย่างหญิงสาวในทันที จากนั้นเธอได้เชิดใบหน้าก้าวเดินไปนั่งรอตรงโซฟาใหญ่ตรงโซนรับแขกอย่างสง่าผ่าเผยสมกับเป็นลูกคุณหนูบ้านรวย ลูกสาวนักลงทุนชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศ
ไม่ว่าหญิงสาวจะไปที่ไหนเธอก็มักจะเป็นที่น่าจับจ้องของชายหนุ่มแทบจะทุกคนและเป็นที่น่าอิจฉาของเหล่าบรรดาหญิงสาวทั้งหลาย เพราะด้วยหน้าตาที่สวยราวกับฟ้าประทานมาให้และรูปร่างเล็กเพรียวบางแลดูเพอร์เฟคไปเสียทุกอย่าง ทำให้เธอถูกกล่าวถึงในโลกโซลเซียลจนเป็นกระแสดังเร่าร้อนอยู่ในตอนนี้อย่างไม่มีท่าทีว่าจะตกเทรน
ก็คนมันสวยและรวยมากอะน๊ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูดีไปเสียหมดนั่นแหละ
ผ่านไปเพียงไม่ถึงห้านาทีพนักงานสาวเดินหามาหญิงสาวที่โซนต้อนรับแขก แต่ทว่าสีหน้าของหล่อนกลับแปลกไปดูต่างจากในตอนแรก
“คะ คุณเชอรีลคะ”
“ว่าไง เสร็จแล้วเหรอ”
“ยังค่ะ”
“แล้วมีอะไร?” เธอถามน้ำเสียงเรียบ
“เอ่อ...พอดีว่าบัตรเครดิตของคุณเชอรีลมีปัญหาค่ะ” พนักงานเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ได้ยินแบบนั้นเเล้วทำให้คิ้วเรียวสวยของเธอเลิกขึ้นอย่างไม่เข้าใจในทันที
“มีปัญหายังไง?”
“คือว่าบัตรเครดิตของคุณเชอรีลถูกระงับการใช้งานค่ะ”
“อะไรนะ ระงับบ้าบออะไรกัน เป็นไปได้ยังไงเครื่องแสกนบัตรหล่อนเสียหรือเปล่ายะ” เสียงน้ำของหญิงสาวเจือแววดูไม่สู้พอใจนักเมื่อเห็นว่าพนักงานสาวไม่มีความเป็นมืออาชีพในงานที่หล่อนทำ จนทำให้เธอที่เป็นถึงลูกค้าวีไอพีต้องมาเสียเวลาทำเรื่องแบบนี้
“ดิฉันลองรูดบัตรของคุณเชอรีลมาสองเครื่องเลยค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้เหมือนเดิมค่ะ” ใบหน้าพนักงานสาวสลดเอ่ยตอบอย่างจนปัญญาทั้งกลัวว่าหญิงสาวจะโกรธเคือง
“วุ่นวายจริงๆ เลย งั้นหล่อนลองเอาบัตรอีกใบไปรูดดูซิ”
“ได้ค่ะ ทางร้านต้องอภัยในความไม่สะดวกและในความล่าช้าจริงๆ ค่ะ” พนักงานสาวก้มศีรษะลงเล็กน้อยพลางพูดขอโทษหญิงสาวด้วยท่าทางสุขภาพ
“รีบไปเถอะ ฉันไม่ว่างพอจะมารอหล่อนนานๆ หรอกนะ” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันยุ่ง หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจก่อนจะยื่นบัตรเครดิตอีกใบไปให้กับพนักงานตรงหน้า พูดจบหล่อนไม่รอช้าที่จะหันหลังเดินกลับไปยังเคาร์เตอร์การเงินทันที
“ค่ะ รออีกสักครู่นะคะ”
แต่ทว่าไม่ถึงห้านาทีร่างของพนักงานสาวก็ได้เดินตรงกลับมาหาหญิงสาวอีกครั้งด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดียิ่งกว่าเดิม
“เอ่อ...คือว่าบัตรใบนี้ก็ใช้ไม่ได้เหมือนกันค่ะ ถูกระงับหมดค่ะคุณเชอรีล” พนักงานสาวเอ่ยพูดอึกๆ อักๆ พลางส่งรอยยิ้มยิ้มเจื่อนส่งให้กับเธอ
“ว่ายังไงนะ เป็นเหมือนกันทั้งสองใบเลย เหรอ!” ดวงตาสวยเบิกกว้างก่อนจะเค้นเสียงเอ่ยถามออกมาอย่างตกตะลึงกับคำตอบที่ได้รับ เพราะไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเธอมาก่อน
มันเรื่องอะไรผิดพลาดแน่ๆ
“ใช่ค่ะ ดิฉันลองรูดบัตรหลายรอบแล้วยังไม่ได้เหมือนเดิมเลยค่ะ”
“วงเงินของฉันไม่อั้นแล้วจะถูกระงับได้ยังไง”
“ต้องขออภัยด้วยนะคะ อันนี้ดิฉันไม่ทราบจริงๆ ค่ะ”
พนักงานสาวกล่าวตอบอย่างจนปัญญาทำให้หญิงสาวเกิดความสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาในใจเล็กน้อย แต่ระดับคุณหนูลูกสาวนักลงทุนรวยระดับพันล้านอย่างเธอในเรื่องแค่นี้ถือว่าเล็กจิ๊บจ๊อยมากๆ แค่เอ่ยปากบอกพ่อของเธอทุกอย่างก็จะถูกแก้ไขในทันที
หญิงสาวจึงไม่รอช้าที่จะหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมากดโทรออกไปยังเบอร์ของผู้เป็นบิดาเพื่อจะให้ท่านจัดการแก้ไขให้ในทันที
“เดี๋ยวฉันโทรให้คนจัดการให้ รอก่อนก็แล้วกัน” ดวงตาสวยเหลือบขึ้นมองใบหน้าพนักงานสาวที่ยืนตรงหน้าด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง
“ได้ค่ะคุณเชอรีล”
‘กำลังโทรออก’
‘ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ
Sorry, the destination number cannot be reached at this time. Please contact again.’
ทันทีที่เห็นว่าปลายสายติดต่อไม่ได้ใบหน้าสวยของหญิงสาวก็ซีดลง กัดริมฝีปากล่างแน่นทันทีรู้สึกขายหน้าไม่น้อยเมื่อมีพนักงานสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินทุกอย่าง ทั้งคิดอคติว่าหล่อนอาจจะแอบนินทาอยู่ในใจก็ได้ที่ระดับลูกคุณหนูอย่างเธอสั่งของแล้วไม่จ่ายเงิน
“เอ่อ…ตกลงว่าคุณเชอรีลยังจะรับอยู่มั้ยคะ”
นั่นไงว่าแล้วเชียว ยัยนี้คงจะคิดในใจแบบที่ฉันคาดเดาเอาไว้จริงๆ ด้วย
“ฉันขอจองไว้ก่อนแล้วกัน แล้วจะมารับวันหลัง”
“อะ…เอ่อได้ค่ะ แต่เผื่อคุณเชอรีลจะยังไม่ทราบว่าทางเราจะรับจองสินค้าได้ไม่เกินสามวันนะคะ”
“ฉันรู้แล้วยะ ไม่ต้องมาสอนฉันหรอก” หญิงสาวมองหน้าพนักงานอย่างอารมณ์ขุ่นเคืองไม่พอใจนักที่ต้องพลาดกระเป๋าลิมิเต็ดอิดิชั่นรุ่นใหม่มาครอบครองเป็นเจ้าของตอนนี้ไม่ได้ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากที่นั่นมาขึ้นรถหรูด้วยท่าทีที่ยังคงสง่ามั่นใจเช่นเคย แต่ภายในเธอตอนนี้กลับยังคงรู้สึกเสียหน้าไม่น้อยกับเรื่องเมื่อครู่
มันเกิดอะไรขึ้นกับวงเงินเครดิตของเธอกันแน่ เงินตั้งหลายสิบล้านอยู่ๆ ก็มาถูกระงับโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ที่แย่ที่สุดก็คือคุณหนูอย่างเธอต้องมาขายหน้ากับพนักงานพวกนั้นอีก
น่าหงุดหงิดชะมัด!
หญิงสาวเดินตรงมาที่รถหรูของตัวเองอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะขึ้นรถเคลื่อนขับออกจากที่นั่นมุ่งหน้ากลับบ้านทันที ทั้งที่เห็นว่าวันนี้อารมณ์ดีอุตส่าห์ลงทุนขับมาด้วยตัวเองเพราะปกติจะให้คนรถไปมารับมาส่งตลอด
เพียงใช้เวลาไม่นานหญิงสาวได้ขับรถหรูกลับมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่
คฤหาสน์ปัญญารัศมิ์สกุล
แต่ทว่าในขณะที่หญิงสาวกำลังหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้ามาจอดตรงลานใหญ่หน้าบ้านเธอถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ทั้งแปลกใจเมื่อเห็นชายชุดดำบอดี้การ์ดที่ไม่เคยคุ้นหน้าหลายสิบคนกำลังยืนล้อมรอบบริเวณหน้าบ้านเต็มไปหมดราวกับว่าบ้านของเธอในตอนนี้กำลังเป็นที่ตั้งขององค์กรอะไรสักอย่างเทือกนั้น
ในความร้อนใจทั้งสงสัยหญิงสาวจึงรีบเปิดประตูลงจากรถทันที ก้าวขาเกินฉับๆ ตรงไปถามชายชุดดำคนหนึ่งที่ยืนประจำการอยู่ใกล้ๆ ด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหตุใดถึงมาวุ่นวายที่บ้านของเธอกันมากมายขนาดนี้
“นี่พวกนายเป็นใคร?”
“คุณเชอรีลใช่มั้ยครับ”
“ใช่ แล้วพวกนายเป็นบอดี้การ์ดใหม่ของพ่อฉันงั้นเหรอ” เธอขมวดคิ้วถามชายแปลกหน้าน้ำเสียงเรียบ
“เปล่าครับ พวกผมกำลังมารอรับคุณต่างหาก”
“รับฉัน?”
“จับเอาไว้”
ยังไม่ทันให้หญิงสาวได้ถามอะไรต่อให้คลายข้อสงสัยจู่ๆ ชายชุดดำแปลกหน้าคนนั้นก็ได้เอ่ยปากออกคำสั่งกับชายชุดดำคนอื่นๆ ให้เข้ามารวบตัวเธอเอาไว้ทันที
ก่อนที่ร่างสูงมีพละกำลังที่เหนือกว่าหญิงสาวเพียงแค่เขาออกแรงนิดเดียวก็สามารถจับตัวของเธออุ้มขึ้นพาดไว้บนบ่าได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่มีคำอธิบายแต่อย่างใด
หญิงสาวใจกระตุกวูบอย่างกะทันหันพร้อมกับความหวาดกลัวที่แล่นพรูขึ้นมา ดวงตาเบิกกว้าง อย่างตกตะลึงทำให้ประสาทสัมผัสทุกส่วนตื่นตัวระวังภัยเต็มที่จนเธอกรีดร้องดังลั่นออกมาเสียงหลง
“กรี๊ดด! พวกแกเป็นใคร ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า ไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณพ่อให้มาลากคอพวกแกเข้าคุกให้หมดเลยคอยดู!” น้ำเสียงของหญิงสาวยังคงเจือไปด้วยความหยิ่งผยองและเย้ยหยัน ข่มขู่ให้พวกเขาเกรงกลัวพลางใช้กำปั้นเล็กทุบตีลงบนแผ่นหลังของชายชุดดำที่กำลังแบกร่างเธอรัวๆ ทั้งพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด แต่ทว่ากลับดูเหมือนจะไม่เป็นผลเลยสักนิด
“ฟ้องไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ”
“ทำไมฉันจะฟ้องไม่ได้ พวกป่าเถื่อนอย่างพวกแกมีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉันยะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“ปล่อยไม่ได้ครับ”
“หน็อย ไม่ปล่อยฉันอย่างงั้นเหรอ เคยดูนะแล้วพวกแกจะเสียใจ กรี๊ดด!” หญิงสาวตะคอกเสียงออกมาด้วยความโกรธ
“พอเถอะครับ หยุดโวยวายได้แล้ว พ่อของคุณไม่มาช่วยคุณหรอก”
“ทำไม แกรู้มั้ยว่าพ่อฉันเป็นใคร!”
“ทำไมจะไม่รู้ล่ะครับ ถ้าไม่รู้จักพ่อของคุณแล้วพวกผมจะมาที่นี่ได้เหรอ แล้วอีกอย่างนะป่านนี้พ่อของคุณคงจะขึ้นเครื่องหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้วล่ะมั้ง ผมว่าคุณอย่าต่อต้านพวกผมจะดีกว่านะ พวกผมไม่พาคุณไปฆ่าไปแกงหรอก” ชายชุดดำอีกคนตรงหน้าพูดอย่างใจเย็นไม่ได้มีท่าทีว่ากลัวในสิ่งที่หญิงสาวพูดข่มขู่ในตอนแรกเลยแม้แต่น้อย
คำพูดเหนือความคาดหมายทั้งแปลกพิกลของชายชุดดำนั้นกลับทำให้หญิงสาวต้องชะงักค้างนิ่งตะลึงงันไปชั่วขณะ ลางสังหรณ์ผุดวาบขึ้นมาในใจของเธอในนาทีนั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูดเลยสักนิด
คุณพ่อของฉันหนีไปต่างประเทศอย่างงั้นเหรอ แล้วจะหนีทำไม หนีเรื่องอะไร แต่เมื่อเช้าคุณพ่อก็ทานข้าวกับฉันปกติไม่เห็นว่าท่านจะพูดอะไรเลยนะ หรือว่าพวกนี้จะเป็นมิจฉาชีพกุเรื่องขึ้นมาหรือเปล่า แต่ว่าถ้าคนพวกนี้เป็นมิจฉาชีพจริงๆ แล้วจะเข้ามาในบ้านฉันที่มีบอดี้การ์ดคอยดูแลอยู่ตลอดง่ายๆ ได้ยังไงแล้วตอนนี้บอดี้การ์ดของฉันก็ไม่เห็นมีสักคนหายไปไหนกันหมด ตกลงนี่มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่
ใบหน้าสวยพยายามเชิดหน้าขึ้นกวาดสายตามองไปยังรอบๆ สังเกตสถานการณ์ทั้งในสมองของหญิงสาวในตอนนี้เต็มไปด้วยคำถามมากมายที่เธอไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น