หลังจากที่คุณเนตรนภาได้ข่าวจากลูกสาว เธอจึงนำข่าวมาบอกสามี รอยยิ้มที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ปรากฏบนใบหน้าสุขุม คุณพิเชษฐ์ฉีกยิ้มกว้างให้ภรรยา
“คุณว่าเจ้าเจ มันจะยอมกลับเหมือนที่มันบอกลูกแพรไหมคุณเนตร”
“ต้องกลับอยู่แล้วแหละ คุณเจเขาหลงลูกแพรจะตาย ขอแค่หลานขอหรือบอกอะไร ก็แทบจะหามาให้อยู่แล้วคุณ”
“ขอให้มันจริงเถอะ” เสียงถอนหายใจหนัก ๆ
“ฉันเชื่อลูกแพร ยังไงคุณเจก็กลับ คุณรอฟังข่าวได้เลยค่ะ ว่าแต่ที่โรงพยาบาลมีรับแพทย์ใหม่หรือยังคุณ ช่วงนี้คนไข้เยอะ” ภรรยากลัวหมอไม่พอรักษาคนไข้ที่ช่วงนี้มีมากขึ้น
“ผมให้ลงประกาศรับสมัครอยู่ คงได้เร็ว ๆ นี้ ช่วงนี้ก็มีนักศึกษาฝึกงานเรียนรู้งานหลายคน” คุณพิเชษฐ์วางแผนในการหาหมอเพิ่ม เพื่อดูแลคนไข้ให้ทั่วถึง
“ถ้าเจ้าเจมันมาเร็ว ๆ คงดี” สายตาเหมือนว่างเปล่า แต่ในใจแอบหวังเป็นอย่างยิ่งที่น้องชายจะรีบกลับมา
“เนตรเชื่อว่ายังไงคุณเจก็มาค่ะ คอยดูกัน” อย่างน้อยคนทางไกล ต้องห่วงโรงพยาบาลที่พ่อแม่เป็นผู้สร้างมา
“ผมจะรอวันนั้น วันที่เจ้าเจมันกลับมา”
แพรไหม ได้เข้าฝึกงานวันแรกที่โรงพยาบาลของครอบครัว โดยมีเพื่อนสาวอย่างรุ่งนภามาฝึกงานด้วย
“ยัยแพร เราตื่นเต้นจัง” รุ่งนภาเดินเคียงข้างเข้ามาในห้องพัก
“จะตื่นเต้นทำไมกันรุ่ง ทำตัวตามสบายไม่ต้องเกร็ง” แพรไหมหัวเราะท่าทีประหม่าของรุ่ง
“โอ๊ย…จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ไงล่ะ เราพึ่งมาฝึกงานวันแรก ไม่เหมือนเธอที่มาแทบทุกวัน อีกอย่างที่นี่มันโรงพยาบาลของครอบครัวเธอนี่” รุ่งนภาพูดความจริง แพรได้แต่หัวเราะร่วน กับท่าทีดูจริงจังของเพื่อน
“เอาจริงเราเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้เธอหรอกนะรุ่ง”
“อ้าว ยังไม่ชินอีกเหรอ”
“ไม่เลยรุ่ง คราวนี้ฝึกแบบจริงจัง”
“ขอให้เจอคุณหมอที่ใจดี ไม่ดุ ไม่ทำหน้ายักษ์ใส่เป็นพอ” รุ่งนภาทำหน้าเซ็ง ๆ
“ไม่หรอกรุ่ง” แพรไหมหัวเราะร่วนในท่าทีเพื่อน
สองสาวพากันเดินไปยังห้องเก็บสัมภาระต่าง ๆ ก่อนจะนำเพียงสิ่งที่จำเป็นติดตัวออกมาเท่านั้น ทั้งสองในชุดนักศึกษา มุ่งหน้าไปยังที่นัดหมายรวมพล เพื่อรับฟังข้อมูลต่าง ๆ ก่อนแยกย้ายไปยังที่ฝึกงานของแต่ละกลุ่ม
โดยกลุ่มของแพรไหมกับรุ่งนภาเดินตามหมอหนุ่ม ไปยังแผนกผ่าตัดหรือศัลยแพทย์
ระหว่างทางอยู่ ๆ รุ่งนภาเกิดอยากเข้าห้องน้ำ
“เธอ เราปวดฉี่พาไปเข้าห้องน้ำหน่อยสิ”
รุ่งนภากะว่าไปถึงแผนกแล้วจึงจะขอตัวไปห้องน้ำ แต่เธอดันอั้นไม่ไหวจึงเอ่ยชวนแพรไหม
“ปวดมากไหมรุ่ง” แพรเห็นเพื่อนเดินบิดไปมา เหมือนจะทนไม่ไหว
“โอ๊ย ไม่ไหว” เสียงกระซิบกระซาบให้ได้ยินแค่สองคน แพรไหมเป็นฝ่ายขออนุญาตคุณหมอไปห้องน้ำ
ระหว่างทางได้มีคุณหมอหนุ่มเดินสวนกับสองสาว โดยที่เขาอยู่ในชุดเรียบร้อยดูดี มุ่งหน้าไปยังแผนกที่นักศึกษาที่มาใหม่ ชายหนุ่มมีเคสผ่าตัดให้คนไข้ในอีกครึ่งชั่วโมง ถือว่าเป็นจังหวะดีที่เขาจะเลือกนักศึกษาเข้าไปฝึกงาน ไหน ๆ แล้วก็ให้ลงสนามจริงไปเลย
“เร็วรุ่ง คนอื่นรอ” เมื่อออกจากห้องน้ำ แพรเร่งรุ่ง กลัวถูกตำหนิ
“อื้อ ๆ” ทั้งสองกึ่งเดินกึ่งวิ่ง
เมื่อมาถึงกลุ่มเพื่อน แพรเห็นเพื่อน ๆ กำลังยืนเหมือนรออะไรกันอยู่ เธอจึงถามเพื่อน ๆ
“มีอะไรกันเหรอ คุณหมอให้พวกเรารอตรงนี้หรือว่ามีอะไร”
“เห็นว่าจะมีการแนะนำคุณหมออีกท่านให้มาช่วยสอน แต่ไม่รู้เป็นใคร เขาให้รอตรงนี้”
หนึ่งในกลุ่มเพื่อนเป็นคนบอก
“ไม่ใช่คุณหมอท่านนี้หรอกเหรอ” รุ่งนภาแทรกขึ้น
“ไม่รู้สิ แต่ต้องแยกกันฝึก เท่าที่คุณหมอ
บอกนะ” หนึ่งในกลุ่มเพื่อนบอก
“จ้ะ”
สำหรับแพรไหมเธอไม่ได้รับสิทธิ์พิเศษอะไรไปกว่าเพื่อน ๆ แม้ว่าจะเป็นลูกสาวของเจ้าของโรงพยาบาล เธอยังคงทำตามเพื่อน ๆ ไม่มีข้อยกเว้น
แม้คุณหมอและเหล่าพยาบาลจะเห็นเธอบ่อยครั้ง เธอถูกปฏิบัติเฉกเช่นนักศึกษาฝึกงานทั่วไป เธอยืนรอฟังคำสั่งจากคุณหมอ พลางก้มจดรายละเอียดไปด้วย โดยไม่สังเกตดูว่ามีคนมาใหม่
คุณหมอหนุ่มเดินผ่านด้านข้างหญิงสาว ก่อนไปหยุดที่ด้านหน้าของนักศึกษาแพทย์
“สวัสดีครับนักศึกษาทุกท่าน” น้ำเสียงทุ้มกังวานน่าฟัง เอ่ยทักทายเหล่านักศึกษา
“สวัสดีค่ะคุณหมอ” นักศึกษาต่างพากันยกมือไหว้ รวมทั้งคนที่มัวแต่จด ๆ อะไรลงสมุด แต่ไม่ได้เงยหน้ามองต้นตอของเสียง
“ผมนายแพทย์เจษฎา สิริภากุล ผมยินดีที่จะได้ร่วมงานกับพวกคุณทุกท่านนะครับ”
ชายหนุ่มเพ่งสายตามองไปยังท้ายกลุ่ม เขาจ้องมองไปยังหญิงสาว
ไม่ต่างกับคนที่ได้ยินชายหนุ่มแนะนำตัว เธอคิดว่าหูฝาดที่ได้ยินชื่อ จึงรีบเงยหน้าขึ้นมอง
'คุณอาเจ’ ปากเรียวครางชื่อชายหนุ่มเบา ๆ สายตาทั้งคู่ประสานกันโดยบังเอิญ เธอทั้งตกใจและตะลึง บวกกับความดีใจที่เห็นชายหนุ่ม เป็นคุณอาจริง ๆ ใช่ไหม ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้
เขาดูเปลี่ยนไปมากจนเธอจำไม่ได้ หากเขาไม่แนะนำตัว ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลา นัยน์ตาคมเข้ม เขาอยู่ในชุดพร้อมทำงาน อย่าว่าแต่หญิงสาวตกใจเลย
ทุกสายตาหันมองมาทางเธอเป็นทางเดียวกัน ก่อนซุบซิบกันตามประสา ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก นามสกุลของคุณหมอหนุ่ม เหมือนกับหญิงสาวนั่นเอง
ต่างทำให้หลายคนแปลกใจเท่านั้นเอง
“แพร ญาติแกหรือเปล่า นามสกุลเดียวกันเลยเธอ” เสียงรุ่งนภากระซิบข้างหู แต่อีกคนได้แต่ยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูก จนรุ่งต้องสะกิดที่แขน
“ญาติเธอเหรอ”
“คุณอาเจ” เธอพูดเบา ๆ
“โคตรหล่อเลยเธอ” รุ่งนภายิ้มลอยหน้าลอยตา คำพูดของเพื่อนตั้งมากมาย แต่แพรไหมไม่ได้ยิน เธอมัวแต่มองชายหนุ่มอย่างเดียว จนเขาแนะนำตัวเสร็จและอธิบาย หญิงสาวไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาพูดสักนิด เธอคิดอย่างเดียวต้องโทรศัพท์หาพ่อกับแม่ แจ้งข่าวให้ท่านทราบ
“อีกยี่สิบนาที ผมมีเคสผ่าตัด ผมขอให้คุณที่อยู่ด้านหลังซ้ายมือ เข้าไปช่วยผมในครั้งนี้ ไม่ทราบว่าคุณจะมีปัญหาอะไรไหมครับ” เมื่ออยู่ ๆ เสียงทรงพลังและสายตาเข้ม มองไปยังหลานสาว เขาเห็นเธอยืนทำหน้าเหลอหลา หันซ้ายหันขวา
“คุณนั่นแหละครับ เตรียมตัวให้พร้อม ที่เหลือแยกย้ายไปฝึกงานได้ครับ” พูดจบปากหยักส่งยิ้มให้เหล่านักศึกษา ก่อนจะเดินไปหาหลานสาว
เขาเดินนำหน้าเธอ โดยไม่ได้พูดอะไรสักคำตลอดทาง จนมาถึงห้องทำงานเขา