“อยากดูสิ่งที่อยู่หลังประตูมั้ยล่ะ” เสียงของอชิระทำเอาหญิงสาวตกใจเป็นอย่างมาก นี่เธอใจลอยขนาดไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่อย่างนั้นหรือ
“ไม่ค่ะ ไม่อยากรู้อยากเห็นอะไรทั้งสิ้นค่ะ” ท่าทางลนลานชัดเจนมันทำให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ พิรุธที่สุด พิรุธชัดเจน อยากรู้ที่สุด แต่ไม่ยอมรับแค่นั้นเอง นี่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้รู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองไม่เนียนเอาเสียเลยเวลาโกหก
“ผมรู้ว่าคุณอยากรู้” อชิระกลั้วหัวเราะขณะที่เอ่ยออกไป
“ไม่อยากรู้ค่ะ ไม่อยากรู้จริงๆ” เสียงของหญิงสาวสูงขึ้นกว่าเดิมอีกพิรุธชัดเจนเหลือเกิน เหลืออย่างเดียวก็คือแค่ยอมรับเท่านั้นเอง
“ผมเชื่อว่าคุณอยากรู้ แล้วก็จะใจดีพาคุณไปดูด้วย ตามผมมาสิ” อชิระทำท่าทางว่าตนเองใจดีเหลือล้น กำลังจะพาหญิงสาวเข้าไปยังห้องแห่งความลับที่เธอสงสัยอยู่
“เข้าไปได้จริงๆ เหรอคะ” เมนิลาเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ เพราะเธอคิดว่าห้องนี้มันเป็นส่วนตัวมาก มากจนเขาคงไม่อนุญาตให้คนอย่างเธอเข้าไปแน่นอน
“ได้สิ เพราะนี่น่าจะเป็นห้องทำงานหลักของคุณด้วยเหมือนกัน” อชิระเอ่ยด้วยท่าทางมีเลศนัย
“ห้องทำงาน นี่ท่านประธานจัดห้องทำงานให้เลขาดีขนาดนี้เลยเหรอคะ” เมนิลาเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
“อย่าเพิ่งคิดจะชมผมนะ เข้าไปดูก่อนแล้วค่อยชมก็ยังไม่สาย” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์
“งั้นก็เปิดสิคะ” หญิงสาวอยากจะตอบเหลือเกินว่าก็มัวแต่พูดอยู่นั่นแหล่ะ เลยไม่รู้สึกทีว่าจะชมหรือจะด่าคนอย่างเขากันแน่
“ได้สิ” ว่าแล้วร่างสูงก็เปิดประตู ก่อนจะผายมือเชิญให้เธอเข้าไปในห้อง
เมื่อเมนิลาเดินเข้าไปในห้อง เธอก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากเมื่อภายในห้องที่เธอเห็น เป็นห้องนอนที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง ซึ่งเขาอาจจะเอาไว้นอนเวลาที่ทำงานที่นี่ดึกแล้วไม่กลับไปนอนที่บ้านก็ได้ ส่วนในห้องนอนนั้นมีห้องน้ำอยู่ในห้องเรียบร้อย แต่สิ่งที่เธอมองหาคือโต๊ะทำงานของเธอ ซึ่งมันไม่มีอยู่ในห้องเลย เพราะอีกมุมก็มีโซฟาตัวใหญ่เท่านั้นเอง
“ไหนล่ะคะโต๊ะทำงาน” เมนิลาเอ่ยถามออกไปอย่างพาซื่อ
“ผมไม่ได้ให้คุณมาทำงานบนโต๊ะ นั่นที่ทำงานของคุณ” อชิระเอ่ยออกมาพร้อมทั้งมองหญิงสาวอย่างค้นหา เธอใสซื่อจริงๆ หรือว่านี่แค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น ส่วนมือของเขาก็ชี้ไปที่เตียง