บทที่ 3 ‘ความวุ่นวาย’

2127 Words
"โฮ่งๆ!! โฮ่งๆ!!" จ๊วบ!! “อื้อ~” ตุบๆ!! "โฮ่งๆ!! โฮ่งๆ!!" พลั่ก!! ฉันใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักหน้าอกพี่ดินออกอย่างสุดแรงหลังจากที่ตัวเองเริ่มขาดอากาศหายใจเหมือนจะตายอยู่รอมร่อ ก่อนจะใช้หลังมือถูปากตัวเองไปมาแรงๆแล้วเหลือบมองลงไปที่การ์ชิข้างล่างแวบหนึ่งก่อนจะหันไปมองค้อนใส่คนที่จูบปากฉันจนแสบไปหมดอย่างพี่ดินในเวลาต่อมา ฉันเกลียดมากเวลาที่พี่ดินเขาโมโหหรือหงุดหงิดแบบนี้ เพราะเขาจะกลายเป็นปีศาจที่พร้อมจะครอบครองวิญญาณของฉันให้อยู่ใต้อำนาจของเขาเพียงผู้เดียว ซึ่งฉันเกลียดเวลาที่เขาเป็นแบบนี้ “หึ! ปากยังหวานเหมือนเดิมนี่” เขาว่าพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากร้าย ๆ ส่งมาให้ฉันก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่โป้งเช็ดริมฝีปากล่างของตัวเองที่มันเลอะน้ำลายของฉัน ขณะที่สายตาก็จ้องหน้าฉันไม่วางตา ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะละสายตาจากฉันแล้วเหลือบมองลงไปข้างล่างที่มีการ์ชิกำลังป้วนเปี้ยนแถวขาเขาอย่างเรียกร้องความสนใจ... “ไง ลูกรักของป๊า ไม่เจอกันนาน คิดถึงใช่ไหม” เขานั่งลงทักทายพร้อมกับยกมือขึ้นไปลูบหัวการ์ชิอย่างเอ็นดู ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเขาถึงเรียกหมาของฉันแบบนั้น ก็เพราะการ์ชิคือลูกหมาที่เขาเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญให้ฉันตอนเรียนจบมอหกเมื่อห้าปีก่อน เขาเป็นคนซื้อให้เขาจึงแทนตัวเองว่าป๊ากับการ์ชิมาโดยตลอด อีกอย่างเมื่อก่อนเวลาที่เขามาหาฉันที่คอนโดการ์ชิมักจะเดินไปหาแล้วคลอเคลียแถวขาเขาตลอด ชอบอ้อนและชอบชวนเล่นตลอด จึงไม่แปลกที่การ์ชิจะเห่าเสียงดังเมื่อกี้ เพราะมันเห็นพ่อมันไง "โฮ่งๆ!! โฮ่งๆ!!" หึ เอาใหญ่เลยน่ะ คลอเคลียซุกไซร้ใหญ่โตเกินเบอร์มาก รักกันปานจะกลืนกินอะไรขนาดนั้นละเจ้าหมาบ้าเอ้ย! “โอเค ๆ ฉันรู้แล้ว” พี่ดินบอกกับลูกรักของเขาที่ตอนนี้เอาแต่คลอเคลียเลียปากเลียแก้มเขาพร้อมกับซุกไซร้เขาไม่ยอมหยุด จนคนตัวโตต้องถอยหน้าหนี ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนทำหน้าแหยงๆ มองอย่างหมั่นไส้ในขณะที่เขากำลังโดนลูกชายที่พลัดพรากกันมานานคลอเคลียด้วยความคิดถึง ออดอ้อนเว่อร์มาก...แค่ไม่เจอกันสองปีเองนะ ขนาดฉันยังไม่โหยหาเท่าแกเลยการ์ชิ ชิ๊! ฉันที่ทนเห็นเจ้าหมาน้อยของตัวเองออดอ้อนพี่ดินไม่ได้เลยเกิดอาการเบะปากหมั่นไส้ไปหนึ่งที ก่อนจะเตรียมหมุนตัวเดินออกไป แต่... หมับ! “จะไปไหน” พี่ดินก็จับมือฉันไว้พร้อมกับถามฉันซะก่อน “เขาห้อง!” ฉันเลยตอบกลับเสียงแข็งพร้อมกับทำหน้าเหวี่ยงไม่พอใจกลับไปด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะเหวี่ยงใส่พี่ดินมันทำไม แต่ความรู้สึกตอนนี้คือฉันหงุดหงิด! “พูดดี ๆ เจนจะเสียงดังทำไม” เขาลุกขึ้นมาดุฉัน “ไม่รู้ แล้วก็ปล่อยมือฉันได้แล้ว ฉันจะไปเตรียมตัวไปมอต่อ” ฉันตอบกลับพร้อมกับพยายามสะบัดมือของพี่ดินออก คือหงุดหงิดอะ อยู่ดีๆก็รู้สึกหงุดหงิดไปหมดทั้งเรื่องที่เขาจูบฉันเมื่อกี้ แล้วก็เรื่อง...เออจะเรื่องอะไรก็ช่างมันเถอะ!! เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันหงุดหงิดตาบ้าพี่ดินแล้วกัน “เดี๋ยว!” “ตอนนี้ฉันโคตรมึนหัวเลยว่ะ เธอช่วยทำอะไรร้อน ๆ ให้กินฉันกินหน่อยดิ ข้าวต้มก็ได้” เดี๋ยว...นี่หน้าตาคนมึนหัวเขาเป็นแบบนี้เหรอ หน้าตานิ่งเฉยแบบนี้เหรอคืออาการของคนมึนหัว ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าระดับพี่ดินจะมึนหัว เขาก็แค่ต้องการกลั่นแกล้งฉันเท่านั้นแหละ ต้องการวางอำนาจกับฉันให้ฉันกลัวแล้วให้ฉันทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้นแหละ อีกอย่างเขามีแฟนแล้ว เขาควรกลับไปสั่งแฟนเขาไม่ใช่ฉัน! “พี่ควรออกไปจากห้องฉันแล้วกลับไปหากินเองที่ห้องของพี่ ไม่ใช่มาสั่งให้ฉันทำ แล้วก็ถอยห่างออกจากการ์ชิด้วย” “ทำไม...ก็ฉันจะสั่งเธอ อีกอย่างเธอดูหน้าการ์ชิก่อนว่าคิดถึงพ่อมันขนาดไหน ถ้าฉันถอยมันก็ตามอยู่ดี ไปทำข้าวต้มให้ฉันกิน กินเสร็จฉันจะได้กลับ อยากให้ฉันรีบกลับไม่ใช่ไง” เหอะ! มุกนี้มันเก่ามากแล้วน่ะ ไอ้มุขไม่ยอมกลับแล้วเอาการ์ชิมาอ้างเนี่ย ซึ่งมันควรเอ้าท์ได้แล้วเพราะใช้ตั้งแต่คบกับฉันสมัยนู้นอะ “พี่อย่ามาใช้มุกนี้ได้ปะ” ฉันบอกเขา “แล้วอยากให้ฉันเปลี่ยนเป็นมุกลากเธอขึ้นเตียงทั้งวันไหมเจน ถ้าอยากให้ฉันรีบกลับก็รีบทำ” เขาตอบกลับมาอย่างหงุดหงิดพร้อมกับเท้าเอวใส่ฉัน ฉันเลยถอนหายใจฮึดฮัดทำหน้าไม่พอใจใส่เขาแล้วเชิดหน้าเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้งเพราะฉันไม่อยากเสี่ยงและไม่อยากลองดีกับคำพูดพวกนั้นของเขา ถามว่าฉันกลัวไหม? ไม่ได้กลัวน่ะ แต่ถ้าถอยได้ถอยดีกว่า เพราะคนแบบเขาไม่ควรจะลองของเด็ดขาด :( 30นาทีต่อมา... ห้องรับแขก “จึ๊! ไอ้เหี้ยเอ๊ย มึนหัวฉิบหายเลย” เสียงที่พูดเมื่อกี้ไม่ใช่เสียงของฉันแล้วก็ไม่ใช่เสียงของพี่ดินด้วยแต่เป็นเสียงพี่เจคที่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะคล้ายละเมอออกมาอยู่ที่โซฟาตัวเดิมอย่างงัวเงียต่างหาก ใช่ เขาน่าจะเพิ่งตื่นและกำลังบ่นกระปอดกระแปดกับตัวเองโดยที่ไม่รู้ว่าแถวนี้มีฉันกับพี่ดินนั่งอยู่ด้วย อ้อ งงใช่ไหมว่าตอนนี้ฉันอยู่ส่วนไหนของห้อง ฉันก็นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารหลังโซฟาพี่เจคมันไง นั่งทำอะไรเหรอ ไม่นั่งทำอะไรหรอกแค่โดนลากมานั่งเฝ้าพี่ดินมันนั่งกินข้าวต้มกับการ์ชิลูกรักของพี่มันไง เอาตามตรงเลยนะ ฉันก็ไม่ได้อยากนั่งด้วยหรอกแต่พอฉันทำท่าจะลุกออกไป พี่ดินเขาก็หันมาส่งสายตาดุให้ฉันทันทีพร้อมกับขู่เบาๆ ว่าถ้าลุกขึ้นฉันจะโดนอะไร แล้วใครมันจะกล้าลุกขึ้นล่ะ สายตาเอาจริงเอาจังขนาดนั้น พรึบ! “ไอ้ดิน! ไอ้เพื่อนเวร อย่าให้เจอตัวน่ะมึง แม่งมอมเหล้ากูซะมึนเลยไอ้สัส!” พี่เจคเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาแล้วพูดเสียงขึงขังเหมือนเจ็บแค้นพี่ดินตั้งแต่ชาติปางก่อนที่มอมเหล้าตัวเองโดยที่ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิมว่าเจ้าตัวที่ตัวเองก่นด่าอยู่นั้นนั่งมองอยู่ เหอะ! ยัง ยังไม่รู้ตัวอีกว่าด่าเพื่อนตัวเองทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวยังอยู่ที่นี่อะ “มึงจะด่าใคร มึงควรดูก่อนว่าเขาไปรึยัง” พี่ดินวางช้อนลงแล้วพูดออกมานิ่งๆ พร้อมกับจ้องมองแผ่นหลังเพื่อนตัวเองที่ยังนั่งหันหลังให้อยู่ ขวับ! หันมาขนาดนั้นคอเคล็ดไหมอะพี่เจค “ไอ้ดิน! นี่มึงมาอีกแล้วเหรอว่ะ” พี่เจคลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเอ่ยถามเพื่อนตัวเองด้วยใบหน้าตกใจที่เห็นเพื่อนตัวเองมาที่ห้องของฉันอีกแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าเขายังไม่ได้กลับเลยเถอะ! “ใครบอกมึงว่ากูเพิ่งมา กูยังไม่ได้กลับเลยต่างหาก” “ห้ะ!! ยังไม่ได้กลับ นี่มึงอยู่ที่นี่ทั้งคืนเลยเหรอว่ะ” “อืม มึงตื่นแล้วก็ดี จะได้รีบกลับพร้อมกูเพราะเดี๋ยวกูมีงานต่อ” พี่ดินตอบรับพี่เจคด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะพูดกับพี่เจคต่อ แต่คนฟังอย่างพี่เจคกลับทำสีหน้างุนงงแทนที่เพื่อนตัวเองจะลากกลับไปด้วย แต่อ๋อ ฉันว่าฉันพอจะรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงทำตัวอิดออดไม่ยอมกลับสักที แถมข้าวต้มในถ้วยนี้ก็กินช้าเหลือเกิน เดี๋ยวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น เดี๋ยวก็เล่นกับการ์ชิ เพราะรอพี่ชายฉันตื่นก่อนนี่เอง “มึงมีงานแล้วเกี่ยวไรกับกู” “เกี่ยวดิ กูกลับมึงก็ต้องกลับ เพราะกูไม่ชอบให้เจนอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่กู” ฉันหันไปมองพี่ดินทันทีที่พูดแบบนั้นกับพี่เจค คืองงนะ นั้นพี่เจคพี่ชายฉันหรือเปล่าถ้าพี่ชายฉันจะอยู่ที่นี่หรือไม่กลับมันก็ย่อมได้อยู่แล้วเพราะเราเป็นพี่น้องกันและเป็นพี่น้องกันจริง ๆ ด้วย คนที่ควรจะกลับและไม่ควรนั่งอยู่ในห้องนี้เลย ...มันคือเขาต่างหากละ เขาต่างหากที่ควรจะกลับไป “คนอื่นบ้านพ่อมึงสิ กูเป็นพี่น้องกันไอ้สัส มึงอ่ะคนนอก ออกไป” ใช่เขานั่นแหละคนนอกและควรออกไปจากห้องฉันสักที “กูอ่ะคนใน มึงอ่ะคนนอก” “คนในเหี้ยไรของมึงดิน มึงไม่ใช่ผัวน้องกูไอ้สัส” O_O “หรือว่า...นี่มึงอย่าบอกน่ะว่าเมื่อคืนมึงกับเจน....” “ไอ้เหี้ยเอ้ย นี่มึงทำระยำกับน้องกูเหรอว่ะไอ้ดิน!!” “โอ๊ย! พวกพี่สองคนหยุดสักทีได้ไหม พี่เจคพี่ฟังนะเมื่อคืนมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิด” ฉันรีบหยุดความคิดของพี่เจคก่อนเลยเพราะเดี๋ยวจะตีโพยตีพายไปกันใหญ่ “แต่เมื่อกี้กูจูบน้องมึง แบบ...ดุเดือด” ขวับ! !!!!! กรี๊ด~ อีตาพี่ดินบ้า! เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่พูดแบบนั้นต่อหน้าพี่ชายฉัน มันใช่เรื่องที่จะมาป่าวประกาศกับเพื่อนที่เป็นพี่ชายฉันไหม อีกอย่างเรื่องแบบนั้นมันควรพูดควรบอกให้คนอื่นรับรู้เหรอ ถึงจะแค่จูบเฉยๆก็เถอะแต่มันก็ไม่ควรพูด “ไอ้เหี้ยดิน!! มึง!” “พี่เจคหยุด!! พี่รีบไปใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปพร้อมกับพี่ดินเลยไป” ฉันลุกขึ้นสั่งพี่ชายตัวเองเสียงเข้ม คือไม่ไหวแล้วอะ ฉันเกลียดไอ้สีหน้ายิ้มเยาะเย้ยของพี่ดินที่มองฉันตอนนี้มาก สนุกมากหรือไงที่ได้กวนประสาทพี่ชายฉันอะ เขาอาจจะมีความสุขที่ได้กวนประสาทพี่เจคแต่ฉันปวดหัวมากนะ และฉันก็เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้งแล้วด้วย “เจน...เจนจะมาห้ามพี่ทำไม ให้พี่ต่อยมัน มันจูบน้องทั้ง ๆ ที่ไม่ได้คบกันแล้วน่ะเจน พี่ยอมไม่ได้” ดูเอาเถอะ สะกิดต่อมไม่ได้เลยจริงๆ “รู้ค่ะ มันก็แค่จูบโง่ ๆ อ่ะพี่เจค” ฉันว่าอย่างไม่แยแสถึงแม้ว่าจะแอบชาวาบตรงหน้าอกข้างซ้ายเวลานึกถึงก็ตาม “หึ” ฉันหันไปมองคนที่นั่งตรงหัวโต๊ะอีกครั้งที่เขายังมีหน้ามาแค้นเสียงหัวเราะหน้าตาเฉยในขณะที่ฉันกำลังจะประสาทเสียกับพี่ชายตัวเอง เพราะเขาคนเดียว เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวจะคว่ำถ้วยข้าวต้มร้อน ๆ นั้นให้ “มึงหยุดกระตุกยิ้มมุมปากโง่ๆ ของมึงไปเลยไอ้ดิน” “ทำไม กูทำแล้วเท่ใช่ไหม” “ไอ้สัส เท่มากมั้งไอ้ฉิบหาย!!” “พี่เจค...” ฉันมองค้อนพี่เจคที่ยังไม่ยอมหยุดพูดสักที ก่อนจะกอดอกพร้อมกับจ้องมองตาเขียวในเวลาต่อมาจนพี่เจคต้องยอมก้มหยิบเสื้อผ้าของตัวเองมาถือไว้แล้วพูดเสียงขึงขังกับพี่ดิน “จะนั่งมองหาพ่อมึงบนหน้ากูเหรอไอ้ดิน จะกลับก็ลุกสิวะ!” สิ้นสุดคำพูดของพี่เจค พี่ดินก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันแล้วจูบปากฉันอีกครั้งต่อหน้าพี่ชายของฉัน ซึ่งพี่เจคที่เห็นว่าฉันโดนจูบก็เตรียมตัวจะเข้ามาคว้าคอเสื้อของพี่ดินไว้ แต่ไม่ทันจะได้มาถึงตัวฉัน พี่ดินก็เดินลอยหน้าผ่านไปก่อน พี่เจคเลยได้แต่ยืนข่มอารมณ์ตัวเองไว้ที่โดนเพื่อนของตัวเองยั่วอารมณ์ไว้ ก่อนจะรีบเดินตามออกไปทีหลัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD