บทที่4

1800 Words
บางทีโชคชะตาก็เล่นตลกกับชีวิตมนุษย์เกินไป เป็นคนดีไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รับการตอบแทนที่ดี… แสงไฟในสตูหรี่ลงหลังบันทึกเทปรายการสถานีดังเสร็จสิ้นในช่วงบ่าย ตรีศูลสวมสูทสีเทาตัดกับเชิ้ตขาว ปลดกระดุมเผยแผ่นอกล่ำสันตามประสาคนออกกำลังกาย เรือนผมดำขลับถูกเซตรองทรงสูงโชว์วงหน้าหล่อเหลา ดวงตาเรียวรีทรงเสน่ห์ ทั้งยังเพิ่มความเย้ายวนผ่านน้ำหอมกลิ่นโปรด ขาเรียวยาวในกางเกงสแล็กก้าวไปขอบคุณพิธีกรฝีปากกล้าที่เพิ่งพบหน้ากันครั้งแรก เสร็จจากนั้นผู้คนในสตูฯ ต่างพากันขอถ่ายรูปเขาทำเอาหญิงสาวซึ่งยืนชื่นชมอยู่ไกลๆ ผลิยิ้มออกมา “ลุงขอบคุณหนูฝันมากนะลูก ถ้าไม่มีหนู ตาตรีคงจะไม่ได้คิวออกรายการเร็วขนาดนี้” “คุณลุงอย่าคิดมากเลยค่ะ เราคนกันเองทั้งนั้น คุณลุงกับคุณพ่อก็เป็นพันธมิตรกัน ส่วนฝันก็สนิทกับพี่ตรี” เสียงหวานน้อมรับความดีความชอบมาปฏิเสธ ครอบครัวหล่อนและตรีศูลรู้จักกันตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ เกื้อกุลบิดาตรีศูลคือมือปราบยาเสพติดผู้โด่งดังในยุคนั้น ท่านรับราชการสร้างผลงานความดีความชอบจึงถูกนับหน้าถือตา ส่วนบิดาหล่อนเริ่มแรกเป็นนักธุรกิจค้าที่ดิน กว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์และขายทอดตลาด สะสมเงินทองจนร่ำรวยระดับพันล้าน ทั้งคู่สานสัมพันธ์กันในงานสังคมกระทั่งสนิทสนม ดังนั้นเมื่อเกื้อกุลตั้งมั่นจะสร้างพรรคการเมือง ศิระจึงไม่รอช้าพร้อมสนับสนุนเต็มที่ “เสร็จงานนี้หนูฝันไปไหนต่อหรือเปล่า” “ฝันน่าจะเข้าร้านไปดูลูกค้าค่ะ” ร้านเพชรของเหมือนฝันตั้งอยู่ตามห้างสรรพสินค้าและย่านทำเลทอง หลังจบไฮสกูลหล่อนไปเรียนออกแบบต่อที่ต่างประเทศ พอกลับมาอีกทีพบว่าชายหนุ่มที่ตนแอบหลงรักตกล่องปล่องชิ้นกับหญิงอื่นไปเสียแล้ว แต่เหมือนฝันไม่แคร์… ตราบใดที่ตรีศูลไม่ยกย่องผู้หญิงคนนั้นออกหน้าออกตาฝ่ายนั้นก็ย่อมไม่ต่างกับของเล่นไร้ค่าคั่นเวลาชิ้นหนึ่ง ไฮโซสาวมั่นใจว่าอิงดาวไม่สามารถเทียบเคียงคู่ครองที่มาจากตระกูลโด่งดังอย่างหล่อนได้แม้แต่ปลายก้อย ไม่ใช่แค่ความเหมาะสม แต่ความรู้สึกก็เช่นกัน “ถ้าหนูฝันว่างไปรับน้องพิงค์กับตาตรีด้วยกันสิ” ดูอย่างพ่อเขาสิ ยังทอดสะพานเพราะอยากได้หล่อนเป็นลูกสะใภ้ไม่เว้นแต่ละวัน ตั้งแต่มาช่วยดูด้านภาพลักษณ์ สายสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลก็กลับสนิทแนบแน่น เหมือนครั้งอดีต “ฝันไปได้เหรอคะ กลัวภรรยาพี่ตรีจะไม่สบายใจ” คนตัวเล็กถอนหายใจ ก่อนปั้นหน้ากลัดกลุ้ม “โธ่หนูฝัน ผู้หญิงคนนั้นแค่แม่ของลูก หนูไม่ต้องคิดมากหรอก คนเดียวที่ลุงอยากได้เป็นลูกสะใภ้คือหนู ส่วนคนอื่นก็แค่ไม้ประดับเท่านั้น” เสียงนุ่มทุ้มปลอบใจไม่รักษามาดผู้ใหญ่ แววตาคมเข้มสะท้อนความเอ็นดูสวนทางกับสิ่งที่ทำกับเมียลูกชายลิบลับ “แต่พี่ตรีรักผู้หญิงคนนั้นค่ะคุณลุง ฝันคงไม่ใจร้ายพอที่จะทำลายครอบครัวของใคร” “วันนี้รัก พรุ่งนี้ก็หมดรักได้ หัวใจผู้ชายมันไม่แน่ไม่นอนหนูก็รู้ไม่ใช่เหรอ เชื่อลุงเถอะ ไปรับน้องพิงค์ด้วยกัน เดี๋ยวลุงจัดการเอง หนูแค่ยืนสวยๆ ไม่ต้องออกตัวอะไรมากมาย” “ถ้าคุณลุงเห็นว่าเหมาะสม ฝันก็ไม่ขัดข้องค่ะ เดี๋ยวฝันขอถ่ายบรรยากาศรอบสตูฯ โพรโมตพี่ตรีก่อนนะคะ เพื่อนฝันเป็นเอฟซีพี่ตรีเยอะเลย” หล่อนยิ้มพลางล้วงหยิบสมาร์ตโฟนบันทึกภาพทั่วทุกสารทิศ หญิงสาวถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดผ่านโซเซียลมีเดียเน้นย้ำให้ข่าวลือพัดกระพือมากกว่าที่เป็น บรรยากาศหลังเลิกเรียนของโรงเรียนเอกชนชั้นนำเต็มไปด้วยเสียงเจื้อยแจ้ววุ่นวาย ร่างสูงโปร่งดุจนายแบบบนแคตวอล์ก แต่งกายเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วลงจากรถตู้ก็เดินผ่านสนามไปหยุดหน้าชั้นเรียนอนุบาล พิงใจที่เดินออกมาเบิกตากว้าง อ้าแขนน้อมรับอ้อมกอดบิดาพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม ไออุ่นแนบแน่นรัดร่างไม่ต่างกับงูเหลือม เด็กน้อยยิ้มกว้าง ดีใจเป็นพิเศษเพราะไม่ได้ใกล้ชิดพ่อกว่าหลายวัน ‘คุณพ่อยุ่งค่ะ’ พอถามแม่กลับได้คำตอบเช่นนี้ทุกทีไป ตรีศูลฟัดแก้มลูกสาว ก่อนจูงมือเจ้าตัวน้อยไปยังรถที่จอดรออีกด้านหนึ่ง ล้อทั้งสี่แล่นเข้าสู่ท้องถนนใหญ่ ขณะสองพ่อลูกยังคงพะเน้าพะนอเอาใจกันไม่เลิก เนื่องด้วยเกื้อกุลเอ่ยว่าอยากเจอหน้าหลาน ดังนั้นชายหนุ่มเลยส่งข้อความหาอิงดาวว่า วันนี้เขาจะไปรับลูกด้วยตัวเอง ช่องแชตดังกล่าวปรากฏว่า ‘Read’ นั่นหมายความว่าเธอรับรู้แต่ไม่ตอบรับ อิงดาวสะสมความน้อยใจตั้งแต่วันที่ปะทะคารมกัน ปลายนิ้วเรียวจึงแชร์โลเคชันตั้งใจชวนเมียไปรับประทานอาหารเพื่อสมานรอยร้าวในใจ อย่างน้อยจะได้ไม่ดูเป็นการละเลยมากเกินเหมือนดั่งเธอกล่าวอ้าง เพียงแต่ตรีศูลง้อตามแบบฉบับของเขาเท่านั้นเอง… การจราจรติดขัดกินเวลาไปเกือบสามชั่วโมง กว่าจะเลี้ยวจอดในห้างสรรพสินค้า ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำ ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นรัตติกาลมืดมิดมาทดแทน ร้านอาหารของเพื่อนเกื้อกุลกลายเป็นสถานที่นัดหมายของดินเนอร์คืนนี้ ทันทีที่ไฮโซหนุ่มถึงหน้าร้านก็มีพนักงานนำทางไปยังโต๊ะซึ่งลงชื่อจองไว้ล่วงหน้า อาหารไทยสไตล์ฟิวชันส่งกลิ่นหอมหวนน่ารับประทานจนลอบกลืนน้ำลายลงคอ รสชาติมันคงจัดจ้านไม่แพ้หน้าตาที่งดงามสมฝีมือเชฟระดับมิชลิน ทว่าคิ้วเข้มขมวดแน่นเพราะคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามไม่ใช่คนเดียวกับที่นัดแนะกัน กลับกลายเป็นสาวสวยรอยยิ้มหวานซึ่งกล่าวอ้างว่าติดธุระดูแลลูกค้า “ฝัน....” “พอดีฝันมาดูร้านสาขานี้ คุณลุงเลยชวนมาร่วมแจม แต่เมื่อกี้น่าจะมีเรื่องด่วนเข้ามา คุณลุงออกไปกับคุณพ่อแล้วทิ้งฝันไว้แทน พวกท่านคงกังวลว่าพี่ตรีจะมาเสียเที่ยวค่ะ” นัยน์ตาเปล่งประกายเจือแววเอ็นดูยามจดจ้องสาวน้อยข้างกายตรีศูล "สวัสดีค่ะคนสวย อาชื่อฝันเป็นเพื่อนคุณพ่อนะคะ" เหมือนฝันยิ้มทักทาย ตั้งใจเบนความสนใจไปหาลูกเขาอย่างแนบเนียน “อาฝัน... สวยจังเลยค่ะ เหมือนตุ๊กตาเลย” เขาว่าเด็กไม่โกหกเห็นทีจะเป็นเรื่องจริง รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนฝันสวยพริ้งราวเจ้าหญิงหลุดมาจากเทพนิยาย ผิวพรรณขาวสะอาดไม่ต่างกับหิมะขาวโพลน นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเฉดเดียวกับผมลอนเงางาม อีกทั้งวันนี้หล่อนยังสวมเดรสฟูฟ่อง เด็กน้อยจึงยิ่งถูกอกถูกใจ “ขอบคุณนะคะหนูก็น่ารักเหมือนกัน อาเอาอันนี้มาฝากน้องพิงค์ด้วยนะ” มือนุ่มหยิบกล่องจุ่มตุ๊กตายอดฮิตวางบนโต๊ะอาหาร ท่าทางตื่นเต้นของลูกสาวทำเอาตรีศูลคลายกังวล พิงใจยกมือขอบคุณแล้วนั่งลงอย่างว่าง่าย ส่วนชายหนุ่มถึงอยากต่อว่าแผนการดัดหลังของบิดา แต่เหมือนฝันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย ดังนั้นบรรยากาศแห่งความสุขจะกร่อยลงเพราะตนคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี ผัดไทยหอมฉุยจัดเสิร์ฟเป็นกระทงเล็กๆ ข้างกันคือยำถั่วพลูวางเด่นในใบบัวพับเรียงตัวสวย หญิงสาวสั่งต้มยำกุ้งที่รสชาติไม่จัดจ้านเกินไป ไม่ใช่แค่ต้องการเอาใจพ่อแต่ลูกสาวหล่อนก็ละเลยไม่ได้เช่นกัน หญิงสาวรอเวลานี้มานาน หล่อนรีบกวักมือเรียกพนักงานให้เสิร์ฟข้าวสวยหอมๆ เพียงเพราะเด็กน้อยบ่นหิว เหมือนฝันดูแลตรีศูลโดยไม่ลืมเผื่อแผ่ไปใส่ใจลูกสาวเขา ชายหนุ่มมองทั้งสองแววตาประกายริมฝีปากเปื้อนยิ้มจางๆ ไฮโซคนสวยจึงชวนเด็กน้อยพูดคุยเรื่อยเปื่อย ส่วนมากจะเป็นเรื่องการ์ตูนที่หล่อนทำการบ้านมาอย่างดี รอยยิ้มบนใบหน้าพิงใจฉายชัดว่าปลื้มเหมือนฝันไม่น้อย พี่สาวคนนี้ทั้งเอาใจเก่ง และยังมีของเล่นติดไม้ติดมือมาฝาก ทำให้ภาพทั้งสามคนเวลานี้ไม่ต่างกับครอบครัวสุขสันต์ พ่อ แม่ ลูก... แววตาเศร้าโศกเจือสับสนขณะอิงร่างแอบหลังป้ายโฆษณาอาหาร เรี่ยวแรงทั้งหมดบัดนี้แทบหมดลงดื้อๆ หญิงสาวมองภาพตรงหน้าด้วยลมหายใจติดขัด ขอบตาร้อนผ่าวราวกับใครเอาเหล็กร้อนมาทาบทับ มือกำถุงขนมแน่นยามความเสียใจสาดซัดทุกซอกทุกมุม ก้อนเนื้ออ่อนนุ่มเต้นช้าลงจนแทบไม่ได้ยินเสียง เหมือนมันถูกกระชากหลุดจากร่างช่วงเวลาที่พวกเขามีความสุขด้วยกัน ในสมการนี้เธอน่าสมเพชเหลือเกิน แค่ตรีศูลเอ่ยปากชวน อิงดาวพร้อมละทิ้งความขุ่นเคือง ลดทิฐิ ลืมห้วงอารมณ์กรุ่นโกรธเพราะอยากเอาใจพ่อสามี เธอขับรถตามโลเคชันที่ชายหนุ่มส่งมาทางไลน์ ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่าครอบครัวที่เขาหมายถึงคือผู้หญิงคนนี้ สนิทสนมถึงขั้นเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วสินะ… “แกนั่นมันคุณตรีหรือเปล่า แต่มากับผู้หญิงด้วย ผู้หญิงคนนั้นฉันคุ้นหน้ามาก” “น่าจะเป็นแฟนเขาหรือเปล่า เหมาะสมกันเนอะ ฉันเคยเห็นคู่นี้ผ่านสื่อ สวยหล่อทั้งคู่ แค่คิดก็อิจฉาแล้วแก” ถ้อยคำดังกล่าวยิ่งตอกย้ำให้อิงดาวเห็นความจริงกระจ่าง ชัดยิ่งกว่าสวมแว่นขยาย ในโลกของเขา เธอไม่มีตัวตนอะไรเลย เป็นได้แค่คนเบื้องหลังที่ชายหนุ่มซุกซ่อนเอาไว้ไม่ต่างกับโลกใบที่สอง ถึงมีสถานะเป็นภรรยาแถมให้กำเนิดลูกสาวด้วยกันก็ไร้ค่า ไร้ความหมาย หลายเดือนที่ผ่านมาตรีศูลให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนนั้นจนเป็นข่าวเล่าลือ เพราะจนตรอกกระมัง อิงดาวเลยหาญกล้า อยากมีตัวตนขึ้นมา ทั้งที่ปกติมักหลีกเลี่ยงการปะทะจนกลายเป็นนิสัย ร่างบางก้าวเข้าไปในร้านอาหารอย่างมาดมั่น ในใจท่องแต่เพียงว่าตนไม่ได้ทำผิดศีลธรรม หรือคิดคดทรยศใครดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลต้องหลบหนี “น้องพิงค์ขา รอคุณแม่นานไหม” “คุณแม่!” พิงใจตาลุกวาวก่อนกระโดดลงจากเก้าอี้วิ่งไปหามารดา มือนุ่มลูบศีรษะสาวน้อย พลางระบายยิ้มทักทายผู้หญิงที่ได้ยินชื่อมานับครั้งไม่ถ้วน “ดาวมาแล้วค่ะพี่ตรี ขอโทษนะคะที่เลต”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD