บทที่2

1938 Words
ก๋วยจั๊บญวนจานร้อนกลายเป็นเมนูช่วงเย็นต่อมา เข็มนาฬิกายามบ่ายเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงพิงใจก็กลับจากโรงเรียน เด็กน้อยหน้าใสปั่นจักรยานเล่นกับบิดารอบหมู่บ้าน เสร็จจากนั้นทั้งคู่จึงกลับมาร่วมโต๊ะอาหารตอนหกโมงตรง ตรีศูลช่างเลือก ดังนั้นส่วนมากถ้าจังหวะตรงกันชายหนุ่มมักรีเควสต์ฝีมือเมียแทนที่จะไปหากินข้างนอก เขาชื่นชอบเมนูบ้านๆ แต่รสชาติจัดจ้านกลมกล่อม เสน่ห์ปลายจวักของอิงดาวเลยมัดใจผู้ชายคนนี้ได้แบบไม่ต้องสงสัย “สุดยอดเลยค่ะฝีมือแม่ดาวอร่อยที่สุด” เจ้าตัวแสบยกนิ้วโป้งชื่นชมมารดา แก้มทั้งสองพองลมเนื่องจากแรงเคี้ยวตุ้ยๆ “อร่อยก็กินเยอะๆ นะคนเก่ง ดูสิออกกำลังกายทีไรหน้าแดงไปหมด พี่ตรีเนี่ยนะชอบพาลูกไปซน กลับมาเหงื่อโชกเป็นลูกหมาตกน้ำตลอด” อิงดาวบ่นอุบ “โธ่ ก็น้องพิงค์ชอบนี่ พี่ไม่อยากขัดใจนานๆ จะว่างเล่นกับแกที” เจ้าของเสียงทุ้มจึงย่นหน้าเมื่อถูกเมียคาดโทษ มือแกร่งลูบหัวเจ้าลิงน้อย ขณะจดจ้องแกด้วยแววตาแสนรัก วันว่างของสองพ่อลูกส่วนมากจะปล่อยช่วงเวลาเหล่านั้นไปกับกิจกรรมกีฬา นอกจากปั่นจักรยานแล้วตรีศูลยังหอบลูกสาวไปเล่นเทนนิส ส่วนคนเป็นแม่เองก็รับบทกองเชียร์ข้างสนาม “คุณแม่อย่าดุคุณพ่อเลยนะคะ คุณพ่อน่ารักออกคุณแม่ไม่ชอบเหรอ” เจ้าตาแป๋วอ้อนแม่ ทำเอาคนเป็นพ่อที่ฟังอยู่ถึงกับขำก๊ากจนต้องรีบหยิบกระดาษทิชชูมาป้องปาก “ชอบสิคะ คุณแม่ชอบทั้งคุณพ่อ ทั้งน้องพิงค์เลย” ริมฝีปากอมชมพูคลี่ยิ้มไม่ทันไร คำพูดต่อมาทำเอาเธอหุบยิ้มแทบไม่ทัน “แม่ต้องชอบพ่ออยู่แล้วสิเจ้าแสบ ไม่งั้นจะมีหนูได้เหรอ” วาจาเจ้าเล่ห์ยั่วเย้าอย่างร้ายสมฉายาเจ้าพ่อนักวางแผน มื้อนี้ตรีศูลเจริญอาหารกว่าปกติเนื่องจากหมดพลังงานไปกับการเป็นผู้ช่วยหาเสียงตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา อีกไม่กี่วันข้างหน้าถือเป็นโค้งสุดท้ายของสังเวียนก่อนเลือกตั้ง หลังจากนั้นภารกิจเขาจะถือว่าเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ “พรุ่งนี้พ่อกับแม่ดาวขึ้นมากรุงเทพฯ ช่วงเย็นๆ พี่ตรีว่างไหม ดาวอยากชวนพี่กับลูกไปกินข้าวกับท่านด้วยกัน” “พรุ่งนี้เหรอ” ตรีศูลชะงักเล็กน้อย ทบทวนตารางเท่าที่จำได้เขาไม่น่ามีเรื่องด่วนอะไร อีกอย่างหลังสี่โมงส่วนมากชายหนุ่มไม่รับนัดผู้อื่น เพราะอยากปล่อยใจให้ว่างแล้วใช้เวลากับครอบครัว “พี่ไม่ได้ติดอะไรนะ เราพาเจ้าตัวแสบไปหาพ่อกับแม่ดาวด้วยกันก็ได้ ว่าไงครับคนเก่ง คิดถึงคุณตา คุณยายไหม” “คิดถึงค่ะ คิดถึงเท่าจักรวาล” พิงใจวางช้อนส้อมจากนั้นก็กางแขนกว้างทำท่าล้อเลียนจักรวาลให้พ่อแม่เห็นภาพจนพลอยยิ้มตาม และมื้อเย็นแสนสุขสันต์ก็จบลงด้วยเงาะคว้านเมล็ดที่บิดาและมารดาของอิงดาวส่งมาให้จากสวนที่ต่างจังหวัด วันต่อมา… รถปิ๊กอัปคันใหญ่เคลื่อนเข้าจอดในลานกว้างตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่อาบรัตติกาล กระทั่งบัดนี้ล่วงเลยไปกว่าสามชั่วโมงคนที่ตั้งใจนัดหมายก็ยังไม่มาสักที “มันเบี้ยวแล้วแหละแม่ สงสัยลูกเขยไฮโซไม่อยากเจอคนบ้านนอก พ่อว่าพ่อกลับดีกว่านะดาว” เสียงเข้มตัดพ้อขณะผุดยิ้มหยันขึ้นมาน้อยๆ วันนี้นายจำรูญและนางอุษาขับรถเข้าเมืองเพราะนัดกับลูกสาวไว้อย่างที่ทำประจำในทุกเดือน แม้ห่างไกลหลาย กิโล แต่เมื่อความคิดถึงมาเยือนก็พร้อมเหาะมาหาอิงดาวโดยไม่แยแสความห่างไกล “โธ่พ่อ ยังไม่ถึงเวลาเลยรออีกหน่อยก็ได้ อย่าเป็นวัยรุ่นใจร้อนสิ” นางอุษาลูบหลังมือสามี ส่วนอิงดาวหน้าม้านเพราะรับมือกับสถานการณ์นี้ไม่ถูก ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อตากับลูกเขย เหมือนลิ้นกับฟันมาแต่ไร จำรูญตั้งแง่ใส่ครอบครัวตรีศูล แถมไม่เห็นด้วยกับงานแต่งที่เกิดขึ้นเลยสักนิดเดียว ท่านเกลียดพวกผู้ดีตีนแดง มาขอลูกสาวทั้งทีกลับไม่เคยโผล่หัว มีแต่ฝ่ายชายนั่นแหละที่เสนอหน้าอ้างว่าผูกข้อไม้ข้อมือก็เพียงพอ จำรูญไม่ได้หวังงานแต่งใหญ่โต เพียงแต่ทางเลือกที่สามีอิงดาวเสนอให้มันช่างน้อยนิดนัก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาความสัมพันธ์ระหว่างพ่อตาและลูกเขยก็เหมือนเส้นด้ายบางๆ พร้อมขาดสะบั้นได้ทุกเมื่อ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน…ไม่เห็นไอ้ห่านั่นแม้แต่เงา “ดาวคืนนี้พ่อกับแม่นอนโรงแรมก็ได้นะ ไม่อยากไปรบกวนเรากับสามี” “แต่แม่คะ...” นัยน์ตาคู่สวยสะท้อนความเศร้าออกมาจางๆ เธอก้มดูนาฬิกาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความเร่งเร้าตรีศูล ทว่าไม่ได้รับการตอบรับสักที “อย่าคิดมาก ยังไงพรุ่งนี้พ่อกับแม่ก็กลับบ้านอยู่ดี วันนี้แค่เปลี่ยนที่นอน” อุษาปลอบลูกสาว “แต่ดาวอยากให้พ่อกับแม่ไปนอนที่บ้านด้วยกันนี่ พ่อกับแม่อุตส่าห์มาหาดาวทั้งที” “โอ๊ย เราก็เจอกันทุกเดือน อีกอย่างพ่อกับแม่คิดถึงหลานด้วย ใช่ไหมพ่อ” “ใช่ดาวเอ๊ย เอ็งอย่าใส่ใจเลยมันไม่ใช่ความผิดของเอ็งหรอก เอ็งไม่ได้ปล่อยให้พ่อกับแม่รอซะหน่อย” จำรูญปลอบลูกสาวขณะเบนสายตาไปทางหลานที่ตอนนี้กำลังสนุกกับบ้านบอลท่าทางเพลิดเพลิน “ดูสิมาหาเอ็ง พ่อก็มีความสุข ได้เอาของอร่อยมาฝากด้วย เพราะกลัวเอ็งจะคิดถึงบ้าน” พ่อแม่อิงดาวทำสวนอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี พวกท่านส่งออกผลไม้ต่างๆ ให้ชาวบ้านและร้านค้าในชุมชนเดียวกัน จำรูญเป็นผู้ใหญ่บ้าน ทั้งยังคอยดูแลอาสาสมัครในชุมชน ส่วนนางอุษาก็ช่วยเหลือผู้คนในสมาคมแม่บ้าน คอยให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ดัดแปลงของดีในตำบลเพื่อหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง “นี่พวกแม่ๆ น้าๆ เอาผ้าซิ่นมาฝากดาว เผื่อใส่ออกงานกับลูกเขยนะ แม่เห็นช่วงนี้ลูกเขยดังใหญ่แล้วออกทีวีทุกวัน” นางอุษายิ้มขณะบอก พลางหยิบผ้าทอมือในถุงสีกากีให้ลูกสาวดูความงดงาม ลวดลายดอกเรียงตัวกันประณีตบนผืนผ้าสีชมพูโอลด์โรส “ดาวชอบมากค่ะแม่ ไว้มีโอกาสดาวจะหยิบมาใส่นะคะ” "ฮึ มันจะพาเราไปออกงานเหรอ เห็นทำตัวเหมือนกลัวคนอื่นจะรู้ว่ามีเมียมีลูกแล้ว” คนเหม็นหน้าลูกเขยพึมพำเสียงขุ่น “พ่อ! พูดอะไรอย่างนั้นคิดถึงจิตใจลูกมันบ้าง” ทำเอาเจ้าของมือนิ่มอยากหยิกสามีให้เนื้อเขียวจริงๆ ยิ่งเห็นอิงดาวหน้าซีดนางอุษาแทบจะหยิบอาหารยื่นให้จำรูญยัดใส่ปาก แล้วนั่งกินไปเงียบๆ เท่านั้น “เดี๋ยวพ่อกับแม่จะไปแล้วนะดาว เรียกเจ้าตัวแสบออกมาจากบ้านบอลเถอะ ขอตากับยายชื่นใจอีกรอบหน่อย” “ก็ได้ค่ะ ยังไงดาวขอโทษนะคะที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องมารอเก้อ” คนเป็นลูกเอ่ยเสียงอ่อน จากนั้นร่างบอบบางจึงลุกขึ้นไปกวักมือเรียกสาวน้อยที่กำลังสนุกให้มาหาตนเอง ใบหน้าเจ้าตัวแสบแดงก่ำ หยาดเหงื่อเปื้อนแก้มจนอิงดาวต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าซับเบาๆ “คิส ๆ คุณตา คุณยายก่อนนะคะ” พิงใจส่งจูบให้ผู้ใหญ่ทั้งสองโดยทำปากจู๋ เล่นเอาพวกท่านยิ้มไม่หุบทีเดียว ก่อนลาจากเด็กน้อยมารยาทงามไม่ลืมยกมือไหว้ตากับยาย อิงดาวจูงมือลูกสาวไปยังลานจอดรถ จากนั้นจึงสตาร์ตมินิคูเปอร์คันจิ๋วแล่นขับสู่ท้องถนนในเวลาเกือบทุ่มกว่า เพราะการจราจรติดขัดในช่วงหัวค่ำบวกกับความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันทำให้พิงใจหลับปุ๋ย ทิ้งคนเป็นแม่ให้จมอยู่กับท้องถนนและภวังค์ความคิดตนเอง เสียงวิทยุเล่นเพลงฮิตก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นข่าวสารบ้านเมือง น้ำเสียงทุ้มต่ำแสนไพเราะของดีเจคู่หูคนสวยแล่นเข้ามาในหูทำให้อิงดาวยิ้มหยัน เมื่อรู้ว่าสามีที่หายไปกำลังยุ่งกับอะไรบางอย่าง ‘สถานการณ์ของพรรคภูมิธรรมตอนนี้เรียกได้ว่ากำลังกอบโกยคะแนนความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะวันนี้ผู้ช่วยหาเสียงหน้าหล่ออย่างหนุ่มตรี ลูกชายคุณเกื้อกุลเจ้าของพรรคลงพบปะชาวบ้านด้วยตัวเองเลยนะคะ ทั้งหล่อทั้งเก่ง แต่น่าเสียดายน่าจะมีหวานใจแล้วหรือเปล่า...’ ‘เดี๋ยวนะคะ หมายความว่ายังไงคะดีเจพี่นุ่น’ ‘ก็คุณเหมือนฝันสาวสวยข้างกายคุณตรีสิคะน้องนัด’ มือบางกำพวงมาลัยแน่นขณะได้ยินชื่อผู้หญิงคนนั้น เหมือนฝัน นราการณ์... อิงดาวจำได้ตั้งแต่รู้จักตรีศูลมา ชื่อเหมือนฝันก็หลอกหลอนเธอเสมอ ครั้งแรกที่ชายหนุ่มมาจีบ เพื่อนร่วมคณะยังเตือนอยู่เลยว่าเขามีคู่หมั้นแล้ว ทว่าเมื่อตัดสินใจถามเพราะต้องการความชัดเจน กลับได้รู้ว่าความสัมพันธ์ของตรีศูลและผู้หญิงคนนั้นเล่าลือกันเนื่องจากครอบครัวเขากับครอบครัวหล่อนสนิทกันเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรมากกว่าพี่น้องทั่วไป ทีแรกยังไม่สนิทใจจึงตีตัวออกห่างไฮโซหนุ่มรูปงาม แต่สุดท้ายความจริงใจและท่าทางทุ่มเทของเขาเช้าถึงเย็นถึง ทำเอาสาวน้อยผู้ใสซื่อหลงบ่วงรัก แล้วเผลอตัวมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนยากจะตัดใจ ซ่า! ซ่า! สายฝนโหมกระหน่ำร่วงหล่นจากฟากฟ้าขณะมือนุ่มหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าในหมู่บ้านพอดีดิบพอดี เธอเปิดประตูรั้วอัตโนมัติแล้วจึงถอยรถเข้าจอดพลางแตะที่ปัดน้ำฝนเพื่อกำจัดละอองน้ำบนกระจก “ตื่นได้แล้วค่ะคนเก่ง” คุณแม่ยังสาวกระซิบปลุกลูกเสียงหวาน เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ เปิดพร้อมกับเสียงงัวเงียในลำคอ “ไปอาบน้ำแล้วนอนต่อข้างบนนะคะ” "อื้อ...ก็ได้ค่ะ น้องพิงค์ง่วงแล้วก็คิดถึงน้องต่ายแล้ว" พิงใจร้องหาตุ๊กตาตัวโปรดก่อนเปิดประตูรถ เดินเข้าไปข้างในพร้อมกับนิดหน่อยที่รอรับอยู่ อิงดาวมองแผ่นหลังลูกสาวก่อนจะถอนหายใจด้วยความหนักอก เธอไม่อยากงี่เง่าหรือจินตนาการในแง่ร้าย แต่ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับตรีศูล นับวันยิ่งห่างเหิน ในขณะที่เธอพยายามประคับประคองครอบครัวเราไว้อย่างสุดความสามารถ แต่ชายหนุ่มกลับละเลยจึงทำให้อดน้อยใจไม่ได้ว่ายังสำคัญกับเขาบ้างหรือเปล่า สุดท้ายร่างบางจึงเอี้ยวไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าข้างหลังแล้วสะบัดศีรษะ พร่ำปลอบว่าตนคิดมากเกินไปแล้ว เธอเลื่อนนิ้วกดโทร. ออกเบอร์สามีที่บันทึกไว้ ตู้ด... ตู้ด... รอคอยสักพักใหญ่ยังไม่มีใครรับเสียที กระทั่งพอวางโทรศัพท์ไว้บนตักแล้วกดเปิดสปีกเกอร์โฟนเพื่อรอให้สายขาด เสียงหวานของใครคนหนึ่งกลับแทรกเข้ามา “ว่างแล้วจะให้พี่ตรีโทร. กลับนะคะ” คำพูดหล่อนเหมือนหมัดน็อกชกคนเฝ้ารอจนไปต่อไม่ถูก สรุปการอยู่กับผู้หญิงคนอื่นคือธุระสำคัญของเขาจริงๆ สินะ เธอไม่น่าโง่เลย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD