ความเงียบคือคำตอบ

1500 Words
พาลินรู้สึกตัวในเวลาหกโมงเช้าเพราะเมื่อคืนดื่มไปเยอะจึงอยากเข้าห้องน้ำ พอลืมตามองก็เห็นว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ที่หอพักของตนเอง และยังนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนหนึ่ง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนพาลินจำได้ไม่ทั้งหมดแต่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าความสัมพันธ์ไม่ได้ลึกซึ้งแต่เขาก็ไม่คิดว่าระหว่างตัวเองกับดลธรรมจะทำอะไรแบบนั้น ที่ผ่านพาลินเข้าใจมาตลอดว่าดลธรรมนั้นเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงแต่ความรู้สึกที่รับรู้ได้ เขามั่นใจว่าดลธรรมต้องเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าที่เกิดขึ้นเพราะเมาด้วยกันทั้งคู่หรือเพราะจริงๆ แล้วต่างฝ่ายต่างมีใจให้กัน แต่พาลินก็อายเกินกว่าจะอยู่สู้หน้าเขา ชายหนุ่มคิดว่าจะถอยไปตั้งหลักที่หอของตนเองก่อน อย่างน้อยก็ได้ทบทวนความรู้สึกของตนเองที่มีต่อดลธรรมอีกครั้ง พาลินกลับมาถึงห้องพักก็รีบอาบน้ำแปรงฟัน พอเห็นรอยแดงที่ซอกคอก็อดคิดถึงใบหน้าของคนทำให้เกิดรอยไม่ได้ ร่างกายรู้สึกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ความเป็นชายตื่นตัวอย่างคุมไม่อยู่ พาลินหลับตานิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามข่มความต้องการ แต่มันไม่ได้ผลเลยสักนิด เขาต้องช่วยตัวเองอย่างที่เคยทำ แต่ครั้งนี้นึกถึงใบหน้าแดงก่ำของดลธรรมยามที่อยู่เหนือตัวเขา พาลินครางลั่นห้องน้ำเมื่อได้ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง เขาเหนื่อยจนแทบหมดแรง ไม่คิดมาก่อนว่าการช่วยตัวเองจะสูบพลังไปมากอย่างนี้ แม้ร่างกายจะเหนื่อยแต่หัวใจกลับรู้สึกเต้นแรงจนมันแทบจะทะลุออกมาจากหน้าอก พาลินนอนกลิ้งไปมาอยู่บนที่นอน เขาอยากรู้ว่าดลธรรมคิดเหมือนกับตัวเองหรือเปล่า อยากจะโทรหาแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับอีกคนยังไง จึงได้แต่รอให้อีกฝ่ายติดต่อมา ปกติแล้วดลธรรมมักจะไลน์มาหาหรือบางครั้งก็โทรมาคุยด้วยแต่วันนี้พาลินรอจนค่ำก็ไม่มีการติดต่อจากดลธรรมเลย เขาคิดว่าเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืน ชายหนุ่มเลยไม่อยากติดต่อกับตนเองอีก คิดแล้วก็น้อยใจ เพราะที่ดลธรรมเข้ามาในเวลาที่ตัวเองไม่เหลือใคร เขามาทำให้รู้สึกดี ทำให้หายเหงา แต่ไม่คิดว่าเพราะความเมาและอารมณ์ปรารถนาจะทำให้ต้องเสียเขาไป “อยู่คนเดียวก็ไม่เห็นเป็นไร” พาลินพูดกับตัวเอง แต่ก็ยังแอบหวังอยู่ในใจว่าที่ดลธรรมหายไปทั้งวันนั้นเป็นเพราะเขาทำงาน แต่รอจนดึก ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผ่านมาสามวันที่พาลินจมอยู่กับความรู้สึกของตัวเอง อยากโทรหาเขาแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันแต่เขาก็ยังรู้สึกอายอยู่ดี เมื่อคิดตัวเองกับดลธรรมจะต้องจบตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต้นก็รู้สึกใจหาย เขายอมรับว่าตัวเองว่าคิดกับชายหนุ่มกว่าคนรู้จักทั่วไป จากที่คิดว่าเข็ดแล้วกับความรัก และอยากปิดตายหัวใจแต่กลับเผลอใจให้กับดลธรรมทั้งที่เลิกกับคนก่อนยังไม่ถึงสามเดือน ความรู้สึกที่มีให้อีกฝ่ายไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่พอไม่ได้คุยกับเขา ไม่ได้เจอหน้าก็กระวนกระวาย อยากรู้ว่าอีกคนกำลังทำอะไรอยู่ อยากรู้ความเป็นไปของเขา ดลธธรรมไม่เหมือนกับกันต์ธีร์เขาไม่ได้เข้ามาจีบ ไม่ได้พูดจาหวาน แต่เขาเอาใจใส่และแสดงออกทางการกระทำมากกว่าอีกคนที่พูดแต่บางครั้งก็ทำไม่ได้ ขณะกำลังเซ็งสุดขีดก็ได้รับอีเมลจากอาจารย์ที่ปรึกษานัดให้เข้าไปคุยเรื่องฝึกงานที่มหาวิทยาลัย วันนี้อาจารย์ให้ทุกคนมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อแจ้งเรื่องการฝึกงาน ทุกคนดูจะตื่นเต้นเพราะจะได้ออกไปเผชิญกับโลกภายนอกแต่ไม่ใช่กับพาลินเนื่องจากบริษัทที่เขาจะไปฝึกงานนั้นเป็นบริษัทที่อดีตคนรักทำงานอยู่ “อาจารย์ครับ ผมขอเปลี่ยนที่ฝึกงานได้ไหมครับ” พาลินเดินเข้าไปถามอาจารย์ด้วยความหวังว่าท่านจะเห็นใจ “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าพาลิน” อาจารย์วัยห้าสิบกว่าถามลูกศิษย์เพราะบริษัทที่เธอให้พาลินไปฝึกงานนั้นค่อนข้างใหญ่และคิดว่าลูกศิษย์น่าจะได้ประสบการณ์มากพอสมควร “พาลินเขาไม่อยากเจอแฟนเก่าค่ะอาจารย์” มีนาเป็นคนตอบคำถามแทนเพื่อน “คำว่าแฟนเก่าคือก็เรื่องของอดีตนะพาลิน แต่ที่อาจารย์จะให้ไปฝึกงานก็เพื่ออนาคตของเราเอง เราเลี่ยงคนที่เราไม่อยากเจอได้ไม่ตลอดหรอกนะ ทิ้งอดีตแล้วมองไปข้างนะดีกว่า” “ครับอาจารย์” พาลินยอมรับและเห็นด้วยกับสิ่งที่อาจารย์พูด “ถ้ามันกระทบกับการฝึกงานค่อยมาขอเปลี่ยน จำไว้นะพาลินว่าเราทำเพื่ออนาคต ไม่ต้องไปสนใจเรื่องที่ผ่านมาแล้ว คนเก่งอย่างเธออาจารย์เชื่อว่าจะผ่านมันไปได้ มีนาก็ช่วยดูเพื่อนด้วย” “ค่ะอาจารย์” มีนารับคำเพราะเธอกับพาลินได้ไปฝึกงานที่เดียวกัน พออาจารย์เดินออกไปแล้วทุกคนก็จับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องที่จะต้องไปฝึกงานในวันจันทร์หน้าซึ่งยังเหลือเวลาอีกหลายวัน “พาลิน รุ้งว่าไม่ต้องไปสนใจพี่กันต์หรอก พวกเราไปฝึกฝ่ายบัญชี เขาเป็นวิศวกรโอกาสได้เจอกันคงไม่ค่อยมี” “อือ ก็หวังอย่างนั้นแหละ” “ถามหน่อยสิ ยังทำใจไม่ได้เหรอ” “ทำใจได้นานแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากเจอ” “งั้นก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไร ว่าแต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ไปดูบอลที่ห้องใครเหรอ” พราวรุ้งถามเพราะพาลินโพสต์รูปกระป๋องเบียร์แล้วฉากหลังเป็นจอภาพขณะกำลังถ่ายทอดสดฟุตบอล “พี่โดม” “สนิทถึงขั้นไปที่ห้องกันแล้วเหรอ” มีนาถามขึ้น “ก็ประมาณหนึ่ง” พาลินยอมรับว่าเขากับดลธรรมสนิทกันมากขึ้นแต่หลังจากคืนนั้นก็ยังไม่ได้เจอกันอีกเลย ดลธรรมเงียบหายไปไม่มีแม้กระทั่งข้อความหรือไลน์ “พี่เขาหล่อดีนะ หล่อกว่าไอ้พี่กันต์ตั้งเยอะ” มีนาเคยเห็นรูปที่เพื่อนส่งให้ตอนที่ไปดูรถในงานมอเตอร์โชว์ “ใช่ๆ รุ้งก็ว่าหล่อกว่า แล้วยังไงเขาจีบหรือเปล่า” “ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เขาไม่รู้ว่าดลธรรมคิดยังไงกับตนเองและเรื่องที่เกินขึ้นคืนนั้นก็เพราะเมาด้วยกันทั้งคู่ “คบกันแล้วเหรอ” “ยัง” “อ้าว ทำไม รออะไร” “อยากให้แน่ใจก่อน เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสามเดือน กลัวเป็นเหมือนเดิม” “ไม่ลองคบจะรู้เหรอว่ามันโอเคไหม อย่างพี่กันต์นั่นไง ตอนมาจีบกับตอนเป็นแฟนนี่คนล่ะอย่างเลย” มีนาไม่ค่อยชอบแฟนเก่าของพาลินเท่าไหร่ แต่ก่อนไม่เคยพูดเพราะเกรงใจเพื่อน แต่พอเลิกกันแล้วจึงใส่เต็มที่ “ก็เขาไม่จีบ” พาลินพูดเสียงอ่อย “แล้วไง เขาไม่จีบเราก็จีบเอง ลุยเลยกลัวอะไร” “ได้ไงล่ะมีนา เกิดไปจีบเขาแล้วเขาไม่ใช่ พาลินก็หน้าแตกกันพอดี รุ้งว่ารอดูไปก่อนดีไหม ให้แน่ใจว่าเขาใช่” “เราคิดว่าเขาใช่นะ” พาลินรู้สึกอย่างนั้น “นั่นไง ลุยเลยเดี๋ยวเราช่วย” มีนารีบบอก “จะไหวไหมเนี่ยไม่มีใครห้ามใครเลย แล้วยังไปฝึกงานที่เดียวกันอีก” “อิจฉาล่ะสิที่เราได้ไปฝึกงานด้วยกัน” มีนารีบขิงเพื่อน “แน่ล่ะสิ แต่ไม่เป็นไรบริษัทใกล้กัน กลางวันมากินข้าวด้วยกันได้” “เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยนัดกันอีกที ว่าเย็นนี้เราไปไหนกันดี ไปเดินเที่ยวดีไหม พาลินมีนัดกับใครหรือเปล่า” พราวรุ้งกับมีนานั้นพักอยู่หอเดียวกัน ทั้งสองจึงไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด “ไปสิ เราก็ไม่อยากกลับไปเหงาที่หอ” “ชวนพี่โดมมาด้วยสิ พวกเราอยากรู้จัก” “เอาไว้วันหลังเถอะ พี่เขาทำงาน” พาลินคิดในแง่ดีไว้ก่อนว่าที่เขาเงียบหายไปก็เพราะทำงาน ทั้งที่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าการเงียบหายของเขาคือตำตอบที่ชัดเจนที่สุด “เอางั้นก็ได้ ไปกันเถอะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD