รัชชัยละสายตาออกจากแผ่นหลังบางของโมฬีที่เดินลับไป หันกลับมามองคู่หมั้นสาวหมาดๆ เขาโอบกอดลูบหลังปลอบขวัญหล่อนอย่างเอาใจ
“ใจเย็นๆ นะครับเพ็กกี้ คุณมีค่าสูงส่งมากกว่าผู้หญิงพรรค์นั้นมาก อย่าลดตัวไม่ยุ่งวุ่นวายกับเธอ อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเลยนะครับ”
“แต่นังนั่นมันด่าเพ็กกี้นะคะ คุณจะให้เพ็กกี้ใจเย็นอยู่ได้ยังไง คุณทนได้เหรอคะที่ใครมาว่าคู่หมั้นคุณเสียๆ หายๆ แบบนี้”
รัชชัยลอบถอนใจกับท่าทีกระเง้ากระงอดน่าหงุดหงิดของฝ่ายหญิง แต่ก็ยังถามเสียงนุ่ม
“ผู้หญิงพวกนี้ผมก็แค่สนุกด้วยเล่นๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไร คุณอย่าไปใส่ใจเลยครับ ยังไงผมก็เลือกคุณอยู่ดี คุณเป็นที่หนึ่งในใจผมนะครับที่รัก”
“แต่เมื่อกี้เพ็กกี้ได้ยินมันพูดว่าขอเลิกกับคุณ คุณกับมันเป็นอะไรกันแน่ เป็นแฟนกันเหรอคะ”
วรภัคจ้องหน้าเขาเขม็ง เตรียมจับผิดว่าที่สามีเต็มที่ คนระดับคุณหนูพันล้านทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลกิจนุกูลไม่มีทางยอมเป็นตัวสำรองของผู้หญิงหน้าไหนเด็ดขาด
“ก็แค่กิ๊กกันตามประสาช่วงที่เป็นโสดน่ะครับ แต่พอเจอคุณแล้ว ผมก็ไม่คิดจะยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีก ที่นัดเขามาวันนี้ก็เพื่อบอกเลิกกันให้เด็ดขาด ผมไม่อยากให้เขามายุ่งวุ่นวายกับผมอีก และผมก็ไม่อยากจะทำให้คุณพลอยไม่สบายใจไปด้วย”
วราภัคอารมณ์เย็นลงมาหน่อย พอใจที่รัชชัยให้เกียรติหล่อน ยกหล่อนเหนือกว่าผู้หญิงคนไหนของเขา แต่ก็ยังไม่ยอมรามือง่ายๆ
“แต่ยังไงเพ็กกิ้ก็ไม่ยอม! เพ็กกี้ก็จะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด”
“โมฬีไม่มีอะไรสู้คุณได้เลยนะครับเพ็กกี้ คุณจะไปให้ค่าเขาทำไม”
วราภัคตวัดสายตาขุ่นจัดมองรัชชัยทันที กระชากถามเสียงเขียว
“ดูคุณจะเป็นห่วงนังนั่นเหลือเกินนะคะ ทำไมคะ คุณยังรักมันอยู่ ยังติดใจมัน ยังตัดมันไม่ขาดใช่มั้ย บอกเพ็กกี้มาเดี๋ยวนี้นะ!” ไม่พูดเปล่า ยังตรงเข้ายื้อยุดฉุดแขนชายหนุ่มอย่างรุนแรงด้วย
“ผมไม่ได้ห่วงเขา ผมห่วงคุณต่างหากละครับ” รัชชัยกุมมือวราภัค ยิ้มอย่างอ่อนโยน ทั้งที่ในใจรำคาญเต็มที
“ถ้าคุณห่วงเพ็กกี้จริงอย่างที่ปากพูด คุณก็ต้องทำเพื่อเพ็กกี้”
“แล้วคุณอยากให้ผมทำอะไรล่ะครับ”
“สั่งสอนมันให้รู้สำนึกว่ามันเป็นใคร แล้วเพ็กกี้เป็นใคร ทีหลังมันจะได้ไม่กล้าสะเออะมาเทียบชั้นกับเพ็กกี้อีก”
“ได้ครับ ผมรับปาก” รัชชัยตอบส่งๆ
เขาจำต้องเอาใจยัยคุณหนูเย่อหยิ่งเอาแต่ใจอย่างหล่อน เพื่อแลกกับหุ้นบริษัทกิจนุกูล ดิเวลอปเมนต์ จำกัด ที่วราภัคจะได้ครอบครองในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลกิจนุกูล เพราะหล่อนเป็นหมากตัวสำคัญที่จะทำให้เขาได้ในสิ่งที่กำลังคิดการใหญ่อยู่
นี่แหละ... เหตุผลที่เขายอมหมั้นกับหล่อน ทั้งที่ไม่ได้รักเลยสักนิด!
เห็นคู่หมั้นหนุ่มทั้งโอ้และงอนง้อ ไม่มีทีท่าจะสนใจนังแฟนเก่าให้ขุ่นใจ วราภัคอารมณ์จึงดีขึ้นมาทันตา สีหน้าบูดเบี้ยวแปรเปลี่ยนเป็นกรีดยิ้ม หล่อนซบหน้าออดอ้อนอยู่ในอ้อมอกของรัชชัย มือลูบไล้ความกำยำผ่านเสื้อเชิ้ตส่งความรุ่มร้อนไปถึงภายใน
“คุณดีกับเพ็กกี้จริงๆ เพ็กกี้รักคุณค่ะ”
“ผมก็รักคุณครับ อะไรที่ทำให้คุณมีความสุข ผมพร้อมจะทำทุกอย่าง”
วราภัคช้อนตามองชายหนุ่มที่พร่ำคำหวานหยาดเยิ้ม แสร้งหลบตาเขาอย่างเปี่ยมจริต ทว่ามือที่ลูบไล้แผงอกหนั่นแน่นอยู่นั้นลูบคลึงอย่างยั่วยวน ส่งสัญญาณเชิญชวนที่รู้กันดี
รัชชัยเชยคางเรียวแหลมสบตาหล่อนอย่างเจ้าชู้ รอยยิ้มแพรวพราวผุดขึ้น เขาเคลื่อนมือมากุมมือเรียวบางเอาไว้ บีบกระชับขณะก้มกระซิบบอกหล่อนแฝงนัยยะว่า
“เรากลับคอนโดกันนะครับ”
สาวเจ้าไม่ตอบ เอาแต่ยิ้มเขิน รัชชัยรู้แกวจึงตระกองกอดหล่อนเดินออกจากร้านอาหารฝรั่งเศสอย่างรวดเร็ว ลืมงานเลี้ยงฉลองไปเสียสนิท
เขาแอบแสยะยิ้ม ความงุ่นง่านร่านกระสันของฝ่ายหญิงล้นปรี่ขนาดนี้ ส่งสัยคืนนี้เขาคงต้องจัดหนักให้หล่อนหลายๆ ท่าหลายๆ ยกเสียแล้วสิ
ส่วนเรื่องโมฬี... เขาจะหาโอกาสไปงอนง้อปรับความเข้าใจกับเธอทีหลัง ตอนนี้เธอยังอารมณ์ร้อน รอให้เย็นลงหน่อยคงจะคืนดีกันได้ไม่ยาก
รัชชัยยิ้มอย่างสมใจ ที่ได้ทั้งความสนุกและไม่ต้องเสียคนรักไป เพราะเขาเอาอยู่!