แต่คนฟังกับส่ายหน้าดิก
“ไม่เอาอะ จะให้ฉันไปยั่วผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้เนี่ยนะ ฉันใจไม่ถึงเหมือนแกหรอก”
“กลัวอะไรล่ะแก ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย มันก็เจ้าชู้ ชอบผู้หญิงแรดๆ กันทั้งนั้นแหละ แกไม่แรด มันจะได้ซั่มมะ”
“แกก็เลยจะให้ฉันไปยั่วอาของรัช ให้เขาซั่มฉันว่างั้น?”
“อยากแก้แค้น แกก็ต้องลงทุนลงแรงหน่อย”
จารวียักไหล่ พูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ หล่อนชะเง้อคอมองชายหนุ่มทรงเสน่ห์มาดเนี้ยบที่ชูแก้วเหล้าดวลกับเพื่อนในแก๊งอย่างเฮฮา เขานั่งหันหลังคลอเคลียกับนารีที่ขนาบซ้ายขวา ท่าทางดูเจ้าชู้เชี่ยวชาญบ่งฟ้องว่าเป็นเสือผู้หญิงตัวยง ดวงตาก็เป็นประกายด้วยความพึงใจ หล่อนยุเพื่อนรักต่อไปว่า
“ดูจากมุมนี้คุณเล็กก็ดูดี ยังหนุ่มยังแน่นเตะปี๊บดังอยู่เลยนะแก ได้ซั่มกับเขาคงลีลาเด็ด ฟินอยู่หรอก แถมยังได้ยืดอกท้าวสะเอวสั่งให้ไอ้หมารัชเรียกแกว่าอาสะใภ้อีก มีแต่ได้กับได้ คุ้มเกินคุ้ม”
“จ้ะ แม่สาวเฟลิร์ต ทำเป็นโนแคร์โนสนพร้อมโดนเปิดซิง เที่ยวมายุฉันแบบนี้ แกเคยโดนจิ้มแล้วรึไง”
พอโดนเพื่อนรักจี้ใจดำกลับมา คนที่ทั้งซิงทั้งสดอย่างจารวีเลยถึงกับจุกอก ไปต่อไม่เป็น ถึงหล่อนจะมีแฟนแล้ว แต่ก็ยังไปไม่ถึงขั้นสุดท้าย ได้แต่กอดจูบลูบคลำกันพอให้คลายกระสัน
“โห...แรง ว่าแต่ฉัน แกเองก็เหมือนกันแหละ ถ้าแกไม่สนใจ แกจะถามฉันทำไม ใจแกเองก็อยากจะแก้แค้นไอ้หมารัชที่มันดูถูกแกใช่มั้ยล่ะ”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่จารวีพูดตรงกับสิ่งที่ใจเธอคิด ถึงจะรู้และทำใจยอมรับ แต่ใช่ว่าเธอจะทนกับสายตาและคำพูดสบประมาทของรัชชัยและวราภัคได้ พวกเขาไม่เพียงมองเธอเป็นก้อนกรวด ซ้ำยังคิดจะเหยียบย่ำให้จมดิน โดยเฉพาะแฟนหนุ่มที่เหยียบหัวเธอขึ้นไปอย่างไม่ไยดี
โมฬีอยากจะตะโกนใส่หน้าพวกเขาแทบขาดใจว่า เธอไม่ด้อยไปกว่าใคร ไม่ว่าจะเป็นรัชชัยหรือวราภัค เธอเองก็มีค่าในแบบของเธอ!
ถึงพวกเขาจะมองเธอต่ำต้อย เป็นแค่ลูกสาวคนจนที่พ่อล้มละลาย ไม่มีอะไรเทียบชั้นกับคนระดับอย่างพวกเขาได้ แต่ใช่ว่าทุกคนที่คิดแบบเดียวกัน หากเธอสามารถถีบตัวขึ้นไปยืนอยู่ในจุดเดียวกันกับรัชชัยและวราภัคได้ เชื่อเถอะว่าพวกนั้นคงจะอึ้งจนพูดไม่ออก และไม่กล้าที่จะดูถูกเหยียดหยามเธอได้อีก
และหนทางที่เป็นเช่นนั้นก็อย่างที่จารวีพูด...
เธอต้องยั่วอาเล็กให้หลงใหล เพื่อก้าวขึ้นเป็นอาสะใภ้ของรัชชัย!
คนยุก็เมา คนถูกยุยิ่งเมา สติสัมปชัญญะจึงบกพร่อง จะมัวมาคิดไตร่ตรองว่าอะไรควรไม่ควรเสียที่ไหน โดยไม่ทันคิดโมฬีกระดกขวดเหล้าเข้าปากหลายฮึกปลุกความกล้า แล้วลุกพรวดเชิดหน้าเดินโซเซโย้หน้าโย้หลังเข้าไปยังกลุ่มไฮโซหนุ่มที่กำลังสังสรรค์กันอย่างเมามัน เบียดตัวแทรกกลางระหว่างเขากับสาวสวยเซ็กซี่นางหนึ่ง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงดื้อๆ
“แกเป็นใคร มานั่งแทรกคนอื่นแบบนี้ได้ไง ไม่มีมารยาท!”
สาวสวยแว้ดใส่เธอเสียงดัง ดึงมืออย่างแรง แต่ถูกโมฬีสะบัดออกจนหล่อนเซเสียเอง สายตากรึ่มๆ จ้องผู้ชายยโสที่ไม่ยอมมองหน้าเธออย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานบาดใจ
“เฮลโลววว... สุดหล่อ คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมั้ย?”
โมฬีถามเขาเสียงหวาน มองเขาที่เหมือนจะมีสี่หัวแปดกร แต่สายตาทำราวกับตกหลุมรักเสียอย่างนั้น
“ฉันว่าการที่เราได้พบกัน ต้องเป็นเพราะด้ายแดงที่เกี่ยวก้อยเราเข้าด้วยกันแน่ๆ เลย”
เธอยังคนเพ้อเพราะฤทธิ์เหล้า ไม่ได้ยินเสียงแหลมๆ ที่แผดลั่นอยู่ข้างหลังของสาวสวยเลยสักนิด
“นี่...! รีบถอยออกไปห่างๆ คุณเล็กเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ปกติโมฬีก็เป็นสาวแรงช้างอยู่แล้ว แรงสะกิดเบาๆ ของแม่สาวเอวคอดเหมือนจะหักแค่นี้ไม่ระคายผิวเธอหรอก เธอจึงนั่งขืนตัวได้อย่างสบายๆ ปากก็ยังคงพรรณนาไม่หยุดจนลิ้นพันกัน
“สุดหล่อ... ฉันอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้ มาแลกไลน์กันหน่อยดีมั้ยคะ”
รดิศที่ถูกแม่สาวขี้เมาจีบซึ่งๆ หน้าไม่ปรายตามองเลยสักนิด แต่คิ้วเรียวเข้มเริ่มขมวดด้วยความรำคาญ เมื่อเธอยังคงจ้อไม่หยุด
“ฉันชอบคุณจัง คุณตรงสเปกฉันเลย คุณชื่ออะไรคะ มีแฟนรึยัง แต่ท่าทางคุณจะโสด สนใจมีเมียไว้กอดแก้เหงามั้ยคะ ฉันน่ะเด็ดนะจะบอกให้ ฉันรักเดียวใจเดียว เรียนดี กีฬาเด่น หน้าที่การงานมั่นคง งานบ้านก็ไม่ขากตกบกพร่อง เรื่องปัดกวาดเช็ดถูฉันถนัด แถมยังทำกับข้าวอร่อยเหาะเลยนะ ถ้าคุณได้ชิม รับรองจะฟินเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ส่วนเรื่องบนเตียงฉันไม่อยากจะโม้ บอกได้คำเดียวว่า... คุณจะต้องรักฉันหลงฉันจนโง่หัวไม่ขึ้นเลยแหละ”
เธออวดสรรพคุณตัวเองยาวเหยียด พลางจิ้มนิ้วไปที่อกแข็งปั๋งอุดมไปด้วยมัดกล้าม ความเมาทำให้คนใจกล้า เกิดความรู้สึกซู่ซ่าจนไม่อยากจะหยุด เพราะกล้ามเขาแน่นถูกใจเธอสุดๆ เลยเผลอลืมตัวลูบไล้แผงอกกำยำอย่างเต็มไม้เต็มมือ
จะหาว่าเธอบ้ากล้ามลวนลามผู้ชายก่อนก็เอาเถอะ... เธอยอมรับ!
ใครใช้ให้เขาหุ่นดีน่าฟัดล่ะ?
ไม่ลูบไม่คลำก็เสียของแย่สิ...
คิ้วรดิศขมวดมุ่น รำคาญเจ้าของเสียงไร้ยางอายคนนี้เต็มที
นี่คือ... เสนอขายแนวใหม่?
แม่สาวคนนี้ใจกล้าไปรึเปล่า แหกปากขายป่าวๆ ยังไม่พอ ซ้ำเธอยังจะหน้าด้านมาลวนลามเขากลางวงเพื่อนฝูงอีก เห็นเขาเป็นผู้ชายสาธารณะที่คิดจะลูบๆ คลำๆ ทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้หรือไง
เขาทนจนไม่ทน!
มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กซุกซน ตวัดสายตาดุดันหันมองแม่สาวขี้เมา โพล่งถามอย่างเหลืออด
“คุณต้องการอะไร?”
“ฉันต้องการแต่งงานกับคุณค่ะ” โมฬีโพล่งสวนทันควัน
รดิศตะลึงงัน ตาเบิกโตนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก เขากะพริบตาถี่ๆ มองหญิงสาวอ่อนเยาว์ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจและคาดไม่ถึง
เธอนี่เอง...
รอยยิ้มมีเสน่ห์กระตุกขึ้นบนริมฝีปากบางสวย แววตาดุดันแปรเปลี่ยนเป็นแพรวพราวเจือแววคิดถึงอยู่บางเบา เขาเริ่มเบื่อหน่ายผู้คนและผับหรูหราแห่งนี้แล้ว เพราะมีสิ่งที่น่าตื่นเต้นเร้าใจดึงดูดใจเขาได้มากกว่า ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน ดึงเอาตัวหญิงสาวให้ลุกตามด้วย กำลังจะหันหลังเดินออกไปพร้อมกัน ร่างเพรียมลมก็ปลิวหายไปจากมือเขาเสียก่อน
“มานี่เลยนังตัวดี!”
โมฬีรู้สึกเวียนหัวพะอืดพะอมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอถูกเหวี่ยงแรงๆ เข้าก็คายของเก่าออกมาจนหมดไม่เหลือ
“อุ่ก... แหวะ...”
“กรี๊ดดด... กรี๊ดๆๆ อุ่ก... อุ่ก!”
ของที่อยู่ในท้องพุ่งออกมาจากปากโมฬีรดเลอะเต็มตัวเต็มชุดนางแบบสาว พร้อมส่งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ทำเอาเจ้าหล่อนร้องกรี๊ดๆ กระทืบเท้าไปพลาง เหม็นจนทำท่าจะขย้อนของเก่าออกมาตามโมฬีไปด้วย
“ยี้....อีบ้า! แกกล้าดียังไงมาอ้วกใส่ฉันจนเลอะเทอะแบบนี้หา!”
นางแบบสาวลืมวางมาดกระทืบเท้าเร่าๆ พุ่งถลาเข้าหาหมายจะตบโมฬีให้หน้าแหก โมโหที่นอกจากมันจะอ้วกใส่หล่อนแล้ว ยังจะแย่งผู้ชายของหล่อนไปซึ้งๆ หน้าอีก แต่หล่อนก็ต้องวืดจั่วลม จนตัวเองล้มคะมำไปเสียเอง เพราะเป้าหมายถูกรดิศดึงตัวหมุนกลับไปซบอกเขาอย่างสวยงาม ราวกับเป็นฉากโรแมนติกในละครเดอะมิวสิคเคิล
“คุณเล็กจะไปไหนคะ” นางแบบสาวรีบร้องถาม ทั้งที่ยังพยุงตัวเองลุกขึ้นมาไม่ได้ คนที่อยากจะออเซาะให้เข้ามาช่วยก็ดันอุ้มแม่สาวขี้เมาที่คอพับคออ่อน ไม่สนใจหล่อนเสียอย่างนั้น เขาหันหลังกลับแล้วเอ่ยกับหล่อนเพียงสั้นๆ ว่า
“ไปรำลึกความหลัง”
แล้วก็อุ้มนังเด็กหน้ามัธยมเดินอาดๆ ออกไป ปล่อยให้หล่อนนั่งดิ้นพล่าน กรีดร้องโวยวาย ทั้งเหม็นทั้งเสียดายที่อ้อยกำลังจะเข้าปากหล่อนแล้วแท้ๆ แต่ก็ดันมีคนมาฉกไปต่อหน้าต่อตาเสียได้