บทที่ 3 สามีเก่า 3

882 Words
อดีตสามีทำเหมือนจงใจอมพะนำราวกับจะแกล้ง และเธอเองก็ไม่มีวิธีง้างปากเขาได้เสียด้วย ทำได้แต่ต้องพึ่งตัวเอง รวบรวมสตินึกถึงเรื่องเมื่อคืนให้ได้มากที่สุด ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มแน่นเมื่อหวนคิดถึงแฟนหนุ่มและคู่หมั้นของเขาที่ทำให้เธอไปจบลงที่ผับ ดื่มเหล้าย้อมใจให้คลายเศร้า ระหว่างที่กำลังกรึ่มๆ ได้ที่ ดูเหมือนเธอจะเดินเข้าไปหาผู้ชายหล่อเหลาคนหนึ่ง ที่จารวีบอกว่าเป็นอาของรัชชัย ตั้งใจจะยั่วยวนเขาเพื่อแก้แค้นแฟนเก่า “แกไม่อยากเอาคืนไอ้หมารัชรึไง” “ฉันชอบคุณ เราลองมาคบกันดีมั้ยคะ” “ฉันต้องการแต่งงานกับคุณค่ะ” “...” นึกถึงคำพูดของจารวีและการกระทำที่น่าอายของตัวเอง โมฬีก็หลับตาลงอย่างหมดแรง เพราะแรงยุของเพื่อนล้วนๆ ที่พาเธอมาถึงจุดนี้... ขายขี้หน้าชะมัด! นอกจากคำพูดที่ทำเอาเธอไม่เหลือหน้าแล้ว เหมือนเธอจะพูดอะไรบางอย่างอีกนะ ความรู้สึกบอกว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก โมฬีเหลือบมองคนที่พอจะให้คำตอบเธอได้ แล้วกลั้นใจถามเสียงอุบอิบเหมือนยุงตีกัน “เอ่อ... เมื่อคืนฉันพูดอะไรเพ้อเจ้อออกไปบ้างรึเปล่าคะ” รดิศกระตุกยิ้ม ดวงตาดื้อรั้นแพรวพรายคล้ายมีเรื่องสนุก เธอมองแล้วลมหายใจเริ่มติดขัด ชัดเลยว่าตัวเองคงจะพูดพล่ามตามประสาคนเมาปลิ้นแน่ๆ ภาวนาว่าอยากให้คายความลับออกไปก็พอ “ฉันคงทำให้คุณรำคาญมาก ขอโทษนะคะ คุณอย่าถือสาคนเมาอย่างฉันเลยนะคะ” “คงไม่ได้” เขาตอบมาสั้นๆ เสียงเรียบ แต่ทำเอาใจคนฟังหล่นไปที่ตาตุ่ม ออกอาการลุกลนทันที “ก็คนมันเมาอะ” “จะบอกว่าคนเมาทำอะไรก็ไม่ผิด?” รดิศเลิกคิ้วถาม โมฬีโดนเขาดักคอจนพูดไม่ออก พยายามเก็บอาการโมโหไว้ในอก ได้แต่ตอบเสียงอ่อย “คุณจะเอาอะไรกับคนเมาล่ะคะ คนเมาก็เหมือนคนบ้า” เจ็บ...เจ็บจี๊ดดด! เธอต้องด่าตัวเองเพื่อให้เขาพอใจ จะได้ไม่ฟื้นฝอยเอาเรื่องเธอ รดิศมองคนหน้างอปากคว่ำแล้วอยากยั่ว ยิ่งเห็นโมฬีฮึดฮัด แต่ไม่กล้าแสดงออก พยายามสวมบทลูกหมาแสนเชื่องต่อหน้าเขา ทั้งที่เดี๋ยวก็เม้มปาก เดี๋ยวก็ปากยื่น บ่งฟ้องถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน กิริยาของเธอช่างน่ารัก ปากเล็กจิ้มลิ้มของสาวหน้าเด็กอวบอิ่มเป็นสีระเรื่อ มองเท่าไรก็ไม่เบื่อ มีแต่ใคร่กระหายอยากจะลิ้มรสมันต่อจากเมื่อกี้ให้ฉ่ำใจ ใครจะไปทนไหว? เมียเก่าเล่นนอนยั่วเขาทั้งที่หลับตาพริ้ม เบียดเนื้อเบียดตัวหนั่นนุ่มโตสะพรั่งเต็มวัยสีกระแซะเขาอย่างออดอ้อน เขาที่เป็นหนุ่มทั้งแท่งอยู่ในวัยคะนองศึกก็ต้องตื่นตัวผงาดสู้ทันควัน แล้วจะให้เขาอดใจไม่จับเธอกด ตะโบมจูบตะโบมลูบแม่คนเนื้อหวานได้อย่างไรล่ะ แต่งงานกันหนึ่งปี... จากกันอีกหกปี... นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้ครอบครองกลีบปากนุ่มประดุจกลีบกุหลาบแรกแย้มของเธอ มันไม่ต่างจากตอนที่เขาปล้นจูบโมฬีครั้งแรกเพราะความโมโหเลย ความรู้สึกหวานล้ำกำซ่านภายในอุ้งปากชื้นพุ่งเข้าปากเขาไหล่ลงสู่หัวใจ อบอวลไปด้วยความรุ่มเร้ารัญจวนแทรกซึมไปทุกอณู ใคร่จูบซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้จักอิ่มจักพอ ต้องการกลืนกินเธอทั้งหมด... ทั้งตัวและหัวใจ ลึกลงไปจนถึงแก่นวิญญาณของเธอ! ตอนที่ตัดสินใจปุบปับแต่งงานกับโมฬี นอกจากทะเบียนที่ผูกมัดทางกฎหมาย พวกเขาก็ไม่มีความผูกพันอย่างอื่นอีกเลย เขาไม่เคยใช้สิทธิ์ความเป็นสามีหลับนอนกับเธอ มีเพียงแค่จูบเดียวเท่านั้น แต่ก็แปลก... ถึงสัมผัสนั้นจะลางเลือนไปแล้วตามกาลเวลา แต่กลับไม่เคยหายไป ยังคงวนเวียนก่อกวนใจเขาให้รำลึกถึงเป็นบางคราวมาตลอดเจ็ดปีมานี้ ทั้งที่คนครองหัวใจเขายังทำไม่ได้ แต่... โมฬีกลับทำได้ รดิศแน่ใจว่าก้อนเนื้ออกซ้ายที่เต้นอย่างมั่นคงในรอบหนึ่งทศวรรษ โมฬีไม่ได้เป็นเจ้าของครอบครองอยู่ สาเหตุที่เขาแต่งงานก็เพื่อกันผู้หญิงทุกคนออกจากชีวิต เฝ้ารอการหวนคืนของใครคนหนึ่งที่สลักอยู่ในหัวใจ จึงกำหนดระยะเวลาเพียงหนึ่งปี จะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นโมฬี ทั้งที่การแต่งงานครั้งนั้นไม่มีความหมายกับเขาเลยสักนิด แต่มันยิ่งทำให้เขาสงสัยกับความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล ไม่มีสัญญาณเตือนให้รู้ล่วงหน้า เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน... เมื่อไร... ความรู้สึกที่เขามีต่อโมฬีคืออะไร? เขาไม่ชอบให้มันค้างคาเหมือนเสี้ยนที่ตำใจ บ่มอย่างไรก็บ่มไม่ออกเช่นนี้ จึงต้องการค้นหาคำตอบให้กระจ่างใจ! “เมื่อคืนเธอเมามาก พูดและทำอะไรตั้งหลายอย่าง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD