ตลอดช่วงเช้าของวันนั้นนรินตั้งใจสอนงานพราวฟ้าอย่างเต็มที่และพราวฟ้าเองก็ตั้งใจเรียนรู้งานอย่างเต็มที่เช่นกัน
“พี่นรินคะวันนี้บอสไม่เข้าบริษัทหรอคะ”พราวฟ้าถามนรินขณะนั่งทานข้าวเที่ยงกันอยู่
“วันนี้บอสเข้าบ่ายตอนเช้ามีประชุมข้างนอก”
“อ่อ ค่ะ”
“บอสคะรินขออนุญาตพาน้องฝึกงานมาแนะนำตัวค่ะ”นรินเคาะประตูเรียกบอสหลังกลับจากทานข้าวเที่ยงแล้วพบว่าบอสหนุ่มเข้าบริษัทแล้ว
“เชิญ”
เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากเจ้านายแล้วนรินก็เปิดประตูพาพราวฟ้าเข้าไปในห้องทำงานบอสทันที
“บอสคะนี่น้องพราวฟ้าที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขากับเราที่นี่เป็นเวลาสามเดือนนับจากนี้ค่ะ”
ภวินทร์ที่ตอนแรกก้มทำงานอยู่เมื่อได้ยินชื่อพราวฟ้ารีบละสายตาจากเอกสารขึ้นมามองหน้าผู้มาใหม่ทันที
“สะ…สวัสดีค่ะบอสหนูชื่อพราวฟ้าค่ะ เอ่อ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”พราวฟ้าพูดตะกุกตะกักเมื่อเห็นว่าบอสที่เธอต้องทำงานด้วยตลอดช่วงสามเดือนนี้คือภวินทร์
ภวินทร์เองก็แปลกใจไม่น้อยที่เป็นเธอ ความจริงเขาได้รับเอกสารเกี่ยวกับเด็กฝึกงานมาสักพักแล้วแต่ไม่สนใจเปิดอ่านจึงไม่ทราบรายละเอียดของคนที่จะเข้ามาฝึกงาน
“อืม ฝากคุณนรินดูแลด้วยละกัน”เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะก้มลงทำงานต่อ นรินจึงพาพราวฟ้าออกไปสอนงานต่อข้างนอก
ด้านภวินทร์เมื่อเห็นสองสาวเดินออกไปแล้วจึงรีบหาเอกสารใบประวัติเด็กฝึกงานของพราวฟ้าขึ้นมาอ่าน เขาก้มลงอ่านเอกสารในมือถึงกับอึ้งกับข้อมูลที่เห็น พราวฟ้าเรียนคณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม สามารถทำงานได้หลายอย่าง เช่นการเขียนบทความแปลหนังสือ
“เก่งจริงหรือเปล่าเดี๋ยวก็รู้”ภวินทร์หยิบเอกสารออกมาหนึ่งฉบับ เขามองดูเอกสารในมือและยิ้มมุมปากก่อนจะเดินถือเอกสารเดินออกจากห้องตรงไปยังโต๊ะเลขาทันที
“บอสต้องการอะไรมั้ยคะ”นรินรีบถามเจ้านายทันที
“ช่วยเอาเอกสารนี่ให้เด็กฝึกงานแปลให้หน่อยส่งผมเย็นนี้ก่อนกลับบ้าน”
“แต่ว่าบอสคะ ให้รินทำให้ดีกว่ามั้ยคะ”นรินมองว่างานนี้อาจจะยากไปหน่อยสำหรับคนที่พึ่งมาทำงานอย่างพราวฟ้าจึงอาสาทำแทน
“ไม่เป็นไรค่ะพี่รินฟ้าทำได้”พราวฟ้ารับเอกสารมาและอ่านข้อความบนกระดาษคร่าวๆก็เห็นว่าเป็นเอกสารรายละเอียดงานของลูกค้าฉบับภาษาอังกฤษ เธอคิดในใจว่าเขาคงต้องการจะทดสอบเธอจึงเอาเอกสารฉบับนี้มาให้เธอแปล
“น้องฟ้าไหวแน่นะให้พี่ช่วยดีกว่าเดี๋ยวจะเสร็จไม่ทันเลิกงานนะ”นรินถามพราวฟ้าหลังจากบอสกลับเข้าห้องทำงานไปแล้ว
“ไหวค่ะยังมีเวลาอีกตั้งสามชั่วโมงเดี๋ยวฟ้ารีบทำเลยค่ะ”พราวฟ้าบอกนรินด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่าเธอสามารถทำได้จริงๆ เมื่อเห็นดังนั้นนรินก็ไม่ขัดปล่อยให้เธอนั่งทำงานเงียบๆ
“ฟ้าจะห้าโมงแล้วทันมั้ย”นรินถามพราวฟ้าอีกครั้งเมื่อมองนาฬิกาเห็นว่าจวนจะถึงเวลาเลิกงานเต็มที
“ใกล้แล้วค่ะอีกไม่เกิน 20 นาทีน่าจะเรียบร้อยฟ้าอยากตรวจทานอีกสักรอบก่อนส่งงานค่ะ”
“วันนี้พี่มีนัดต้องรีบกลับอยู่เป็นเพื่อนไม่ได้ฟ้าไหวจริงๆใช่มั้ย”นรินถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหวค่ะ พี่นรินกลับก่อนเลยนะคะ ฟ้าส่งงานเสร็จก็จะรีบกลับเหมือนกันค่ะ แต่บอสกลับพร้อมพี่มั้ยคะ”
“ปกติบอสจะกลับหกโมงทุ่มนึง ฟ้ารีบทำรีบส่งแล้วกันนะ”
“ได้ค่ะ พี่นรินกลับก่อนได้เลยนะคะไม่ต้องเป็นห่วง”
เมื่อได้ยินน้องใหม่ยืนยันว่าสามารถทำคนเดียวได้นรินจึงขอตัวกลับก่อน
…ก๊อก ก๊อก ก๊อก…
“เชิญ”
“ฟ้าเอาเอกสารที่บอสให้แปลมาส่งค่ะ”พราวฟ้าเปิดประตูและเดินเอาเอกสารไปยื่นที่โต๊ะให้ผู้เป็นนาย
ภวินทร์มองนาฬิกาข้อมือก่อนเงยหน้าขึ้นมาพูดกับพราวฟ้า
“ช้ายี่สิบนาที”
“ฟ้าขอโทษค่ะ พอดีฟ้าตรวจทานอีกรอบกลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาด”
“แก้ตัว ทีหลังทำไม่ได้ก็ไม่ต้องรับปาก”
“ขอโทษค่ะ คราวหน้าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วค่ะ”เธอรีบก้มหน้าขอโทษเขายอมรับผิดที่ตัวเองส่งช้ากว่าเวลาเลิกงานจริงๆ
ภวินทร์เมื่อเห็นเธอก้มหน้ายอมรับผิดแทนที่จะต่อว่าเขาที่กลั่นแกล้งเธอก็ใจอ่อนไม่ดุเธอต่อ เพราะเอกสารที่ให้มาใช้เวลาทำทั้งวันก็ไม่รู้จะเสร็จรึเปล่าแต่เธอทำให้เสร็จได้ในเวลาแค่ประมาณสามชั่วโมงครึ่งก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
“ถ้าบอสไม่มีอะไรแล้วฟ้าขอตัวนะคะ”
“รีบไป night club หรอ”
“ค่ะฟ้าต้องรีบไปทำงาน ขอตัวนะคะ”
“รีบไปทำงานหรือรีบไปอ่อยเหยื่อ”เขาถามเธอพร้อมกับชักสีหน้าไม่พอใจนัก
“แล้วแต่คุณจะคิดเลยค่ะ เลิกงานแล้วฟ้าขอตัวนะคะ”พูดจบเธอก็รีบเดินออกจากห้องโดยไม่รอฟังคำตอบของภวินทร์
เมื่อพราวฟ้าออกจากห้องทำงานไปแล้ว ภวินทร์ได้แต่นั่งคิดทบทวนตัวเองว่าทำไมถึงได้ไม่พอใจเวลาที่คิดว่าเธอจะไปหาผู้ชายคนอื่นทั้งๆที่ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่คิดยังไงก็คิดไม่ตก เขาจึงนั่งอ่านเอกสารที่พราวฟ้าพึ่งแปลมาส่ง สำนวนที่เธอแปลถือว่าดีเลย จนเขาเองแปลกใจไม่คิดว่าเธอจะทำได้ดีขนาดนี้จากที่จะแกล้งกลับกลายเป็นเผลอยิ้มให้กับผลงานชิ้นแรกของผู้ช่วยเลขาคนใหม่แทน
พราวฟ้าเมื่อออกจากที่ทำงานมาแล้วได้แต่ข่มอารมณ์บอกตัวเองให้อดทน แม้จะโดนดูถูกแค่ไหนก็ต้องอดทนอีกแค่สามเดือนเท่านั้นเมื่อเรียนจบแล้วชีวิตก็จะดีขึ้นเอง
เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วที่พราวฟ้าเข้ามาฝึกงานที่บริษัท เธอเรียนรู้งานได้ค่อนข้างรวดเร็วจนนรินเลขารุ่นพี่ไว้วางใจมอบหมายงานสำคัญให้เธอช่วยอยู่ตลอด
“ทำงานแค่เดือนเดียวเก่งขึ้นมากเลยนะฟ้า ไม่เหมือนเด็กฝึกงานแล้ว”
“พี่รินก็ชมฟ้าเกินไปค่ะ ฟ้าก็แค่เด็กฝึกงานต้องขอบคุณพี่รินมากๆนะคะที่เต็มใจสอนงานให้ฟ้า”
“ไม่ต้องชมกันไปชมกันมาแล้ว เด็กอย่างฟ้าใครเห็นก็รักและเอ็นดูทั้งนั้น”
“ไม่หรอกค่ะอย่างน้อยก็ยังมี….เอ่อมีคนที่ทำได้ดีกว่าฟ้า”พราวฟ้าหยุดพูดมองไปยังประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะทำงานตนเพราะอย่างน่อยก็มีภวินทร์ที่ไม่ชอบเธอแล้วหนึ่งคน ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาไม่ใช่เธอไม่รู้ว่าเขาพยายามแกล้งเธอแถมยังพูดจาถากถางเธออยู่เสมอ แต่เพราะต้องอดทนฝึกงานให้จบจึงทำได้แค่นิ่งและไม่ตอบโต้เขา
“คุณรินบ่ายนี้ออกไปประชุมงานด่วนกับผมข้างนอกนะ”ภวินทร์เปิดประตูออกมาบอกเลขา
“บอสคะบ่ายนี้รินลานะคะ รินแจ้งบอสตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“จริงด้วยผมลืม ไม่เป็นไรคุณไปทำธุระเถอะผมไปคนเดียวได้”
“งั้นเอาอย่างนี้มั้ยคะบอสให้น้องฟ้าไปช่วย คนนี้ช่วยงานบอสได้ค่ะ”นรินเสนอเจ้านายเพราะเห็นว่าพราวฟ้าทำงานเก่ง คล่องแคล่วพอที่จะปล่อยให้ไปคนเดียวได้แล้ว
“พี่ริน”พราวฟ้ากระซิบและดึงแขนรุ่นพี่เพราะไม่อยากไปกับภวินทร์สองคน