หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จป้าดากับพราวฟ้าจึงเข้าครัวเพื่อเรียนทำอาหาร
“อยากทำอะไรเป็นพิเศษมั้ยจ๊ะลูก”ป้าดาถามพราวฟ้า
“ฟ้าเห็นมีดอกบัวอยู่ในคลองหลังบ้านเต็มเลยค่ะเราเอามาทำเมี่ยงคำกลีบบัวได้มั้ยคะ”
“ได้สิลูกแต่ใช้เวลาทำนานหน่อยนะหนูไหวมั้ย”
“ไหวค่ะ ฟ้าอยากลองทำมานานแล้วค่ะวันนี้มีโอกาสแล้วจะตั้งเรียนให้เต็มที่เลยค่ะ”
“อืม ดีๆๆ ป้าชอบคนใฝ่รู้ มาเริ่มกันเลย แต่ก่อนอื่นต้องไปเก็บดอกบัวมาก่อน เดี๋ยวป้าให้ลุงไปเก็บให้”
“ผมไปเก็บให้เองครับ”ภวินทร์ที่พึ่งเดินเข้าครัวมาบอกทั้งสองคน
“ขอฟ้าไปด้วยนะคะ”
“งั้นก็ไปทั้งสองคนนั่นล่ะ ให้ลุงไปเป็นเพื่อนด้วย ส่วนป้าจะเตรียมของรออยู่ที่นี่”
เมื่อทั้งสามมาถึงคลองหลังบ้านภวินทร์ก็อาสาเป็นคนพายเรือเองเพราะอยากลอง ภวินทร์ลงไปนั่งบนเรือเป็นคนแรกตามด้วยพราวฟ้า ระหว่างยื่นขาลงไปบนเรือเธอเกิดเสียหลักล้มลงไปนั่งทับบนตักของภวินทร์พอดี สองมือโอบรอบคอเขาโดยอัตโนมัติเพราะกลัวตก ส่วนภวินทร์ก็โอบเอวสาวน้อยไว้แน่นทั้งคู่มองหน้ากันใจเต้นแรง หน้าแดงหูแดงไปหมดก่อนที่พราวฟ้าจะตั้งสติได้รีบพยุงตัวลุกจากตักเขา
“ฟ้าขอโทษค่ะ”พราวฟ้าขอโทษเขาพร้อมกับพยายามลุกออกจากตักเขาอย่างทุลักทุเล
“ระวังกันหน่อยนะลูกเดี๋ยวจะตกน้ำตกท่าเอา”
“ค่ะคุณลุง”
“คุณลุงรอที่ท่าน้ำก็ได้ครับ เผื่อตกน้ำจะลำบากคุณลุงเปล่าๆ คุณว่ายน้ำเป็นมั้ย”ภวินทร์บอกลุงศักดิ์ก่อนหันหน้าไปถามหญิงสาว
“พอได้ค่ะ”
“เอางั้นเหรอ ว่าแต่พ่อหนุ่มพายเรือเป็นมั้ย”
“ไม่เคยพายครับแต่อยากลองดู”
“คุณวิน นี่คุณพาฟ้าลงมาเสี่ยงตายหรอคะ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง”ภวินทร์ตอบพราวฟ้าแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก ทำเอาทั้งสามคนหลุดขำพร้อมกัน เพราะเขาแค่อยากลองพายแต่ไม่แน่ใจว่าจะพายได้มั้ย
“เหอะๆๆ พ่อหนุ่มนี่สงสัยอยากพายเรือให้แฟนนั่ง เอาๆตามสบายเลยลุงจะคอยดูอยู่ตรงนี้แหละไม่ต้องห่วง”
“เราไม่ได้…”พราวฟ้ากำลังจะปฏิเสธลุงศักดิ์ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นแฟนกันแต่โดนภวินทร์ชิงพูดตัดหน้าไปซะก่อนพราวฟ้าจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เธอคิดในใจว่าค่อยหาโอกาสบอกคุณลุงอีกทีก็ได้
“ลุงคอยดูฝีมือผมได้เลยครับ คุณพร้อมแล้วใช่มั้ย”
“พร้อมก็ได้ค่ะ”เธอตอบเขาแบบไม่มั่นใจนัก
ภวินทร์จ้วงฝีพายลงไปในน้ำซ้ายทีขวาทีไม่เป็นจังหวะจนทำให้เรือหมุนเป็นวงกลม
“ฮ่าๆๆๆ ทำไมมันหมุนอย่างนั้นล่ะพ่อหนุ่ม เอาใหม่ๆมาลุงจะสอนให้ ค่อยๆจ้วงไม้พายลงไปแล้วงัดออกทางด้านข้างแบบนี้ ไหนลองทำตามลุงสิ”ลุงศักดิ์หยิบไม้พายมาลองทำท่าพายให้ภวินทร์ดูเป็นท่าทางประกอบ
ภวินทร์ทำตามที่ลุงศักดิ์บอกจากเรือที่หมุนอยู่ก็ค่อยๆเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงขึ้น ส่วนพราวฟ้าได้แต่นั่งอมยิ้มมองชายหนุ่มตรงหน้าหัดพายเรือ
“ยิ้มอะไร กำลังหัวเราะเยาะผมอยู่ใช่มั้ย นี่แหนะ”ภวินทร์ถามพราวฟ้าที่นั่งยิ่มอยู่พลางวิดน้ำใส่เธอที่เธอแอบหัวเราะเขาในใจ
“คุณวินพอแล้วค่ะ ฟ้าเปียกหมดแล้วเลิกเล่นได้แล้วค่ะ”
“เลิกยิ้มเยาะยัง”เขายักคิ้วถามเธอ
“เลิกแล้ว”เมื่อได้ยินคำตอบจากเธอเขาจึงหยุดแกล้งเธอ
“ไปตรงนู้นค่ะ”พราวฟ้าชี้ไปบริเวณที่มีดอกบัวสีชมพูขึ้นอยู่เหนือผิวน้ำ
“ได้ทีสั่งใหญ่เลยนะ”
บ่ายนั้นทั้งคู่ช่วยกันเก็บดอกบัวอย่างสนุกสนาน เป็นช่วงเวลาที่เขาและเธอปล่อยตัวปล่อยใจไปตามธรรมชาติไม่มีตำแหน่งเจ้านายและลูกน้องคั่นอยู่ ทำให้พวกเขาดูสดใสร่าเริง และยิ้มหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข
“กว่าจะขึ้นกันมาได้นะเด็กๆ สนุกใช่มั้ย”ป้าดาถามเมื่อเห็นทั้งคู่กลับเข้าบ้าน
“สนุกมากเลยค่ะ แต่คนแถวนี้น่าจะสนุกกว่าได้หัดพายเรือด้วยค่ะ”พราวฟ้าเหลือบมองภวินทร์ก่อนหันมาพูดกับป้าดา
“เห็นเด็กๆชอบป้าก็ดีใจ จะไปพักก่อนมั้ยค่อยมาเรียนต่อ”
“ไม่ค่ะ ฟ้าไม่เหนื่อย”
“ขยันจริงๆแม่หนูคนนี้ใครได้เป็นเมียโชคดีไปทั้งชาติเลย ดูสิหน้าตาก็สวย มารยาทก็งามแถมยังขยันอีก”ภวินทร์มองพราวฟ้าและอยู่ดีๆก็อมยิ้ม ส่วนพราวฟ้าได้แต่ยืนก้มหน้าด้วยความเขิน
“เราเริ่มกันเลยมั้ยคะคุณป้า คุณวินไปรอข้างนอกเลยค่ะผู้หญิงเค้าจะทำกับข้าวกัน”
“ไล่หรอ”
“ค่ะ”
ภวินทร์มองพราวฟ้าอย่างเอาเรื่องที่เธอกล้าไล่เขาก่อนนะขอตัวออกไปนั่งเล่นข้างนอกกับลุงศักดิ์
“ก่อนอื่นก็แกะกลีบดอกบัวออกทีละกลีบล้างน้ำให้สะอาดแล้วแช่ทิ้งไว้ก่อน อย่างนั้นล่ะเก่งมาก เสร็จแล้วก็มาเตรียมเครื่องเคียงก่อน มีมะนาว หอมแดง ขมิ้นขาวสามอย่างนี้หั่นเป็นลูกเต๋า แล้วก็มีพริกขี้หนูซอย กุ้งแห้งแล้วก็นี่มะพร้าวนำไปคั่วให้หอมก่อน”
พราวฟ้าตั้งใจทำตามที่ป้าดาบอกทุกขั้นตอน
“แล้วก็นี่กะปิเอาไปย่างไปให้หอมก่อนนะลูก”
“เท่านี้พอได้มั้ยคะคุณป้า”
“ได้แล้ว ต่อไปก็มาทำน้ำเมี่ยงคำกัน แม่หนูเอา ข่า ตะไคร้ ขิง หอมแดง มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำมาคั่วให้หอมนะลูก อย่างนั้นแหละฝีมือใช้ได้เลยนะเราเนี่ย”
“คุณป้าก็ชมฟ้าเกินไปค่ะแค่หั่นผักเองค่ะ”
“ทำดีป้าก็ต้องชมสิ คั่วให้หอมนะเสร็จแล้วหนูก็เอาน้ำตาลปี๊บมาเคี่ยวเติมน้ำเปล่ากับเกลือลงไปนิดนึงนะ”
พราวฟ้าเคี่ยวน้ำตาลจนได้ที่จากนั้นก็ใส่สมุนไพรคั่ว กะปิย่าง มะพร้าวคั่วป่น กุ้งแห้งป่นและ ถั่วลิสงคั่วป่นลงไปคนจนเข้ากัน เมื่อลองชิมรสชาติดูก็พบว่าอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว น้ำเมี่ยงคำฝีมือเธอมีรสหวานปนเค็มนิดๆ
“อื้ม อร่อยคุณป้าลองชิมดูค่ะ”
“อร่อยใช้ได้เลยทำครั้งแรกฝีมือดีขนาดนี้เชียว”ป้าดาชมสาวน้อยยกใหญ่ทำเอาพราวฟ้ายิ้มไม่หุบ
“เสร็จแล้วก็ตักไปเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่เราเตรียมไว้ตั้งแต่แรก มาเร็วจัดใส่จานไปให้หนุ่มๆลองทานกัน”
เมื่อจัดจานเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็ยกออกมาให้หนุ่มๆชิม ส่วนป้าดาก็เดินตามหลังมาพร้อมกับของว่างอีกสองสามอย่าง
“น่าตาดูดีใช้ได้เลย”ลุงศักดิ์กล่าวชม
“คุณลุงลองชิมดูค่ะว่ารสชาติผ่านมั้ย”
พราวฟ้ามองดูลุงศักดิ์ห่อเมี่ยงคำเข้าปากด้วยความตื่นเต้นลุ้นว่าจะถูกปากคุณลุงหรือไม่
“อื้ม อร่อย”ลุงศักดิ์ชมพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เธอทำให้พราวฟ้ายิ้มดีใจที่ลุงชอบ
“คุณวินลองทานสิคะ”
“ห่อให้หน่อยสิ”อยู่ๆภวินทร์ก็อ้อนเธอให้ทำให้ทาน ทำให้พราวฟ้าเขินจนไปไม่เป็น
“ทำเองค่ะ โตแล้วไม่ใช่เด็กสักหน่อย”เธอดุเขาเบาๆ
“แม่หนูก็ทำให้เขาหน่อย ผู้ชายมันทำไม่ถนัดเก้ๆกังๆไม่รู้จะหยิบจับอะไรก่อน จริงมั้ยพ่อหนุ่ม”
“ครับคุณลุง คุณลุงนี่รู้ใจผมที่สุดเลยครับ”
“ตาแก่นี่ไปยุ่งเรื่องเด็กๆเค้านั่งกินเงียบๆเลย”ป้าดาดุผู้เป็นสามี
“ฟ้าทำให้ก็ได้ค่ะ”คำตอบของเธอทำให้ภวินทร์ยิ้มกว้างอย่างพอใจ ความจริงที่เขามาในวันนี้ไม่ได้แค่มาดูสถานที่ถ่ายทำโฆษณาแต่มาคุยเรื่องอาหารและที่พักสำหรับต้อนรับลูกค้าคนสำคัญของเขาด้วย เขาจึงได้มีโอกาสชิมอาหารฝีมือป้าดาหลายอย่าง
ขณะที่ทุกคนนั่งทานอาหารว่างและคุยเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน อยู่ก้อนเมฆก็เปลี่ยนจากที่ขาวเป็นสีดำท้องฟ้าที่เคยสดใสตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยเมฆดำ เสียงฟ้าร้องและลมแรงมาก ตามด้วยพายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนทุกคนต้องรีบขนของเข้าไปอยู่ในบ้าน