เสียงเรียกของหญิงสาวทำให้เท้าที่กำลังก้าวอยู่ของเขาชะงักลง ร่างสูงหันกลับไปมอง เห็นสายตาเว้าวอนพร้อมน้ำตาคลอหน่วย เรื่องนี้เขาไม่อยากยุ่ง แต่ก็คงจะเป็นไปไม่ได้แล้วละ เมื่อเธอร้องขอ เขาคงต้องช่วย
สหทรรศเดินกลับมาแล้วกระชากแขนของชายที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากข้อมือของหญิงสาวที่ร้องขอความช่วยเหลือออก เมื่อเธอเป็นอิสระ เขาจึงรีบใช้ร่างสูงใหญ่ของตัวเองบดบังร่างแบบบางเอาไว้ไม่ให้ชายผู้นั้นจับต้องเธอได้อีก กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งที่ลอยออกมา ทำให้เขาเดาได้ไม่ยากว่าหมอนั่นคงจะเมาอย่างเต็มที่ถึงได้ขาดสติแบบนั้น ชายคนดังกล่าวเงยหน้ามองเขาแล้วสบถออกมาอย่างไม่พอใจ
“เฮ้ย! มึงมาเสือกอะไรวะ ผัวเมียเขาจะจู๋จี๋กัน” ชายขี้เมาพูดเสียงอ้อแอ้เต็มที่
“คุณแน่ใจเหรอว่าเธอเป็นเมียคุณ”
“เฮ้ย ทำไมจะไม่ใช่ ในเมื่อกูนอนกกอยู่ทุกคืน” ชายขี้เมาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด สหทรรศหันไปมองหญิงสาวที่ยืนหลบด้านหลัง เนื้อตัวของเธอสั่นเทาอย่างน่าสงสาร
“ไม่ใช่นะคะ” หญิงสาวรีบยกมือขึ้นปฏิเสธ
“เธอบอกว่าไม่ใช่ คุณมีหลักฐานหรือเปล่าที่บอกว่าเธอเป็นเมียคุณ” สหทรรศหันกลับไปถามชายขี้เมาอีกครั้ง
ชายขี้เมาเห็นท่าไม่ดีและเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อจึงรีบโวยวายออกมา
“หลักทงหลักฐานอะไร นี่มันเมียกูชัดๆ คืนเมียกูมาเดี๋ยวนี้” มือหยาบกร้านพยายามจะเข้ามาฉุดกระชากคนที่หลบอยู่ด้านหลัง จนแพทย์หนุ่มอดรนทนไม่ไหว จริงๆ แล้วเขาน่ะเป็นพวกที่ไม่ค่อยชอบใช้กำลัง จึงซัดกำปั้นใส่ชายขี้เมาไปหนึ่งหมัด เล่นเอาอีกฝ่ายเซถลาไปเลยทีเดียว บอกแล้วว่าเขาเป็นคนไม่ชอบใช้กำลัง แต่ถ้าเป็นคนที่คุยกันไม่รู้เรื่องละก็ คงต้องเจอกันสักตั้ง
“เฮ้ย! เสือกเรื่องผัวเมีย แล้วยังมาทำร้ายร่างกายผัวเขาอีก กูจะแจ้งความ”
“แน่ใจนะว่าคุณจะแจ้งความ”
สหทรรศตอบกลับ แล้วหันมามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง เธอส่ายหน้าไปมาราวกับปฏิเสธคำพูดที่ไร้ซึ่งน้ำหนักของชายขี้เมา ใบหน้าของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา แพทย์หนุ่มเกิดความสงสารขึ้นมาอย่างจับใจ เขาหันกลับมามองที่คนเมาอีกครั้ง “แต่ระวังเป็นการแจ้งความเท็จนะครับ เพราะผู้หญิงคนนี้ เธอคือภรรยาผม” ไม่ใช่แต่ชายขี้เมาเท่านั้นที่เกิดอาการผงะ แต่หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาก็เกิดอาการตกใจและผงะไม่ต่างกัน
“ไหนหลักฐานที่บอกว่าเป็นเมียมึง” ชายขี้เมาย้อนกลับ เอาล่ะสิ เขาจะเอาหลักฐานที่ไหนมายืนยันได้ เอาละ ในเมื่อช่วยแล้ว เขาก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด
“งั้นคุณดูนี่ให้ดีๆ นะ จะได้เลิกยุ่งกับภรรยาผมสักที” ว่าจบเขาก็ดึงหญิงสาวที่ยืนตัวแข็งทื่อเข้ามาในอ้อมแขน ร่างแบบบางอยู่ในอาการตกตะลึงยังจับต้นชนปลายไม่ถูกจึงไม่ได้ขัดขืนดิ้นรน ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้ตั้งตัวแพทย์หนุ่มก็โน้มใบหน้าลงแนบริมฝีปากหยักลึกแต่ร้อนผ่าวที่เรียวปากสวยเบาๆ ทีแรกเขาตั้งใจจะให้แค่ปากแนบปากเพื่อหลอกชายขี้เมาที่สติไม่ครบถ้วนเพียงเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อได้สัมผัสกลีบปากนุ่มแล้วกลับยากที่จะถอนจุมพิตออกมาได้
แพทย์หนุ่มหลงลืมตัว จากที่ตั้งใจจะใช้เพียงริมฝีปากแนบริมฝีปาก กลับกลายเป็นจุมพิตที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่เขาตั้งใจเอาไว้ หญิงสาวในอ้อมแขนแทบจะหลอมละลายไปกับจุมพิตร้อนแรงที่เธอเพิ่งจะพานพบเป็นครั้งแรก คนตัวสูงกว่าบดเบียดกลีบปากนุ่มอย่างเอาแต่ใจ จนหญิงสาวเกิดอาการเข่าอ่อนเพราะรู้สึกว่าอากาศหายใจของเธอน้อยลงเข้าไปทุกที ร่างแบบบางอ่อนระทวยทำท่าจะทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น แพทย์หนุ่มจึงได้สติ ถอนจุมพิตออกมาแล้วกระชับร่างบางไว้ในอ้อมอย่างแนบแน่น หญิงสาวก้มหน้างุด ใบหน้าของเธอแดงก่ำและไม่กล้าที่จะสบสายตากับใครทั้งนั้น
“หลักฐานชัดพอไหม”
“โธ่เว้ย! มีผัวแล้วก็ไม่บอก” คนเมาสบถออกมาอย่างหัวเสียแล้วเดินจากไป สหทรรศจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แพทย์หนุ่มค่อยๆ คลายอ้อมแขนออกจากร่างแบบบางที่เขากระชับเอาไว้แน่นก่อนหน้านี้ หญิงสาวยังคงก้มหน้าก้มตา แต่ก็ไม่ได้คะคานการกระทำของเขา ไม่อย่างนั้นแผนที่คิดขึ้นมาอย่างกะทันหันคงพังไม่เป็นท่า
“เอ่อ…เมื่อสักครู่ผม…ขอโทษนะครับ” สหทรรศเอ่ยขึ้นมาก่อนเพราะทั้งคู่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ชวนให้อึดอัด คำขอโทษจากอีกฝ่ายทำให้หญิงสาวค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมองเขา ร่างสูงนิ่งงันไปชั่วขณะ เมื่อได้เห็นใบหน้าของเธออย่างเต็มตา ดวงตากลมโตคล้ายลูกกวาง ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ ผมยาวดำขลับที่ยาวไปจนถึงกลางหลังรับกับใบหน้าเรียวรูปไข่ ปลายจมูกของเธอเชิดขึ้นนิดๆ ตอนนี้มีคำเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขาก็คือคำว่าน่ารัก และนั่นก็ทำให้เขาละสายตาจากใบหน้าของเธอได้ยากเหลือเกิน
“เอ่อ…ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวตอบอ้อมแอ้ม “แล้วก็...ขอบคุณที่ช่วยนะคะ” ร่างแบบบางยกมือไหว้ขอบคุณ แพทย์หนุ่มตกใจรีบรับไหว้แทบไม่ทัน
“ไม่เป็นไรครับ” สหทรรศรีบตอบกลับ ดวงตาของทั้งคู่ยังคงประสานกัน และนั่นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวรู้สึกแปลกๆ จนต้องรีบหาทางออกจากสถานการณ์ที่ทำให้เธอเกิดอาการประหม่าเมื่อสบสายตาคมเข้มคู่นั้น
“เอ่อ...ถ้างั้นฉันขอตัวก่อน ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยนะคะ” หญิงสาวไม่รอให้แพทย์หนุ่มตอบรับหรือปฏิเสธ เธอหมุนตัวหันหลังให้เขาแล้วเดินจากไปทันที แต่เท้าเล็กก้าวไปได้เพียงไม่กี่ก้าว สหทรรศก็สาวเท้าตามมา พาร่างสูงของตัวเองมาหยุดตรงหน้าเธอ
“ถ้าไม่รังเกียจให้ผมไปส่งได้ไหมครับ คือ...ผมแค่เกรงว่าชายคนนั้นอาจจะตามไปหาเรื่องคุณอีก” แพทย์หนุ่มคิดในใจว่าเขาคงแค่อยากช่วยเธอละมั้งถึงได้อาสาไปส่งเธอด้วย ไหนๆ ก็ช่วยแล้ว เขาก็คงต้องช่วยให้ถึงที่สุด
“เอ่อ...คือ...” หญิงสาวอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบรับหรือปฏิเสธดี เธอชั่งใจอยู่พักใหญ่ ตอนมาที่นี่เธอก็ติดรถเพื่อนมา ถ้าบอกให้เพื่อนไปส่งแล้วบอกว่าเจอเรื่องแย่ๆ เกรงว่าเพื่อนจะหมดสนุกกันเปล่าๆ เขาเป็นคนช่วยเธอ ดูท่าทางแล้วก็น่าจะไว้ใจได้ ให้ไปส่งคงไม่เป็นไรกระมัง
“ถ้าคุณรังเกียจก็...” สหทรรศยังพูดไม่ทันจบหญิงสาวก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“รบกวนด้วยนะคะ” หญิงสาวระบายยิ้มบางๆ เพียงเท่านั้นก็ทำให้หัวใจของแพทย์หนุ่มเต้นกระหน่ำรัวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ตาคู่คมเป็นประกายยามที่ได้เห็นรอยยิ้มสดใส แต่เขาพยายามทำท่าทีนิ่งๆ ข่มความรู้สึกนั้นเอาไว้
“เชิญครับ”
สหทรรศพาหญิงสาวมายังลานจอดรถ วันนี้แพทย์หนุ่มอยู่ในชุดไปรเวทดูสบายๆ เขาสวมเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกางเกงยีนส์สีเข้ม บวกรองเท้าผ้าใบสีดำขอบขาวและยังมีแจ็คเก็ตหนังสีดำสุดเท่สวมทับเสื้อยืดอีกที ลุคนี้ทำให้เขาดูดีราวกับนายแบบที่หลุดออกมาจากนิตยสาร ส่วนหญิงสาวนั้นอยู่ในชุดเสื้อแขนตุ๊กตาสีชมพู โชว์หน้าท้องแบนราบกับกางเกงยีนส์สีซีดเข้ารูปและรองเท้าส้นสูงสีขาวที่ทำให้ร่างบางดูเพรียวระหงอย่างน่ามอง
แพทย์หนุ่มเดินอ้อมมาเปิดประตูด้านข้างคนขับเพื่อให้หญิงสาวเข้าไปนั่งด้านใน เธอเอ่ยขอบคุณก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ มือหนาปิดประตูให้แล้วเดินกลับไปประจำตำแหน่งคนขับ รถยนต์คันหรูค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากคริสตัล ไนต์คลับไปยังจุดหมายปลายทางตามที่เธอบอก