@คลับ
รู้ตัวอีกทีตอนนี้ฉันก็อยู่ที่คลับกับคาแลนแล้ว ทั้งที่ไม่ควรตอบตกลงเลยด้วยซ้ำ
ภายในห้องวีไอพีของคลับมีฉันและคาแลนนั่งอยู่ มันเป็นห้องกระจกที่มองออกไปจะเห็นตรงเวทีชัดเจน ทว่าคนด้านนอกไม่สามารถมองเห็นด้านในได้ ค่อนข้างเป็นส่วนตัว
บรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ คาแลนเอาแต่ดื่มและจดจ้องใบหน้าของฉันอย่างไม่ละสายตา แน่นอนว่าคนที่ถูกจ้องอย่างฉันทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะวางสายตาที่ตรงไหนจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตา
ผ่านไปครู่ใหญ่ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา ทั้งหน้าตา การแต่งตัว ดูมีราศีคงไม่ใช่แค่พนักงานเสริฟแน่ๆ
“ยินดีต้อนรับสู่เดอะมูนคลับ ไม่คิดว่าคุณคาแลนจะมาที่คลับของผม ไม่อย่างนั้นคงจัดเด็กไว้รอ” ดูท่าแล้วหนุ่มหล่อคนนี้คงจะเป็นเจ้าของคลับในยามราตรีแห่งนี้ คำพูดที่ฟังเป็นทางการแต่เหมือนการหยอกล้อตามประสาคนรู้จักกันซะมากกว่า
“แค่อยากมาดูว่าเจ๊งหรือยัง”
“ยังปากหมาเหมือนเดิมเลยนะคาแลน”
ฟังจากคำทักทายแล้วทั้งคู่คงสนิทกันมาก แต่ไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อน เขาคงรู้จักหลังเลิกกับฉันไปแล้ว
“มึงก็ปากหมาไม่ต่างจากกูนะเคย์เดน”
คนที่ถูกต่อว่าไหวไหล่ก่อนจะตวัดสายตามามองฉันที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟา ก่อนจะพูด “อ่า วันนี้คงไม่ต้องการเด็กสินะ เลือกได้ดี”
“เอามาสองคน”
“หืม?” ชายที่ชื่อเคย์เดนเลิกคิ้วขึ้นในเชิงคำถาม แต่คาแลนกลับไม่สนใจ และพูดต่อ “เฟลิกซ์มันหายหัวไปไหน”
“บินไปไต้หวัน ช่วงนี้มันใช้ชีวิตอยู่บนเครื่องบินซะส่วนใหญ่”
ฉันได้แต่เงียบฟังทั้งสองคุยกันไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่ประโยคเดียว ได้แต่หยิกแขนตัวเองให้มีสติคราวหน้าห้ามปากเร็วตอบตกลงมากับเขาอีก
“คนสวยไม่ดื่มหรอครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามทำให้ฉันที่กำลังเหม่อสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าแทนคำตอบ
ไม่ใช่ว่าดื่มไม่เป็นแต่เพราะกลัวว่าดื่มไปแล้วจะไม่มีสติเผลอพูดอะไรที่ไม้ควรออกไป
“ไปหามาจากไหน สวยขนาดนี้” เขาถามคนที่นั่งเงียบ คาแลนยกแก้วขึ้นมาดื่มก่อนจะยิ้มมุมปากแล้วตอบ “ดอกไม้ที่สวยงามพอถูกเด็ดจากต้นไม่นานก็เหี่ยวเฉา ไม่มีอะไรน่าเชยชม”
“อะไรของมึง”
อย่าว่าแต่คุณเคย์เดนไม่เข้าใจเลยฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจคำเปรียบเปรยนั้นเหมือนกัน และมันก็ไม่ใช่ประโยคที่ฟังแล้วรู้สึกดี
“เอาเด็กมาให้กูสองคน รีบไสหัวไปซะ”
“นี่คลับกู มึงกล้าไล่?”
“เคย์เดน” คาแลนกดเสียงต่ำ คุณเคย์เดนก้มลงเล็กน้อยพร้อมเอ่ยอย่างประชด “อ่า ได้ครับคุณคาแลน ตามบัญชาเลยครับผม”
ให้หลังคุณเคย์เดนออกไปแล้วฉันก็เริ่มเปิดประเด็นถามเรื่องงาน เพราะหากจะให้มานั่งดูเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นคงเจ็บปวดและก็ไม่ได้อยากเห็น แค่รู้มันก็รู้สึกเหมือนมีมีดนับร้อยเล่มมากรีดลงตรงกลางอกแล้ว
“เรามาเริ่มคุยเรื่องงานกันดีไหมคะคุณคาแลน”
“ฉันยังไม่มีอารมณ์คุยตอนนี้”
“แต่ฉันต้องรีบกลับ” มินลี่อยู่ที่ห้องคนเดียว ฉันไม่ได้บอกน้องด้วยว่าจะมาที่นี่เพราะไม่อยากให้เป็นห่วง แต่เหมือนคาแลนจะไม่ยอมปล่อยให้กลับง่ายๆ
“ทำให้ฉันมีอารมณ์สิมิลา” เขาเว้นคำพูดพร้อมใช้สายตามองสำรวจ “เธอเก่งอยู่แล้วเรื่องแบบนี้”
“………” ฉันเม้มริมฝีปากหลังจากได้ยินคำพูดกำกวมนั้น เขากำลังทำให้ปั่นป่วนและว้าวุ่นภายในใจ
“ลืมไปหมดแล้วสินะ”
“ค่ะฉันลืมไปหมดแล้ว….ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเรา” ฉันกำมือแน่นพยายามข่มน้ำเสียงไม่ให้สั่นเครือ ก่อนจะพูดต่อ “เพราะฉะนั้นคุณอย่าพูดถึงมันอีกเลยดีกว่า”
มันเป็นเพียงคำโกหก
ความทรงจำเหล่านั้นไม่เคยจางหาย
มิลายังจำได้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเฮีย
คาแลนวางแก้วเหล้าในมือกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงจ้องมองฉันด้วยสายตาดุดัน จากนั้นก็หยัดตัวยืนเต็มความสูง เขาเดินมาหยุดตรงหน้าฉันก่อนจะคว้ามือมากระชากแขนให้ยืนขึ้น เพราะแรงกระชากทำให้เซมากระแทกเข้ากับแผงอกแกร่งอย่างจัง
“น่าเสียดายที่ฉันยังจำได้ทุกเรื่อง….โดยเฉพาะวันที่เธอหันหลังเดินจากไป”
ฝ่ามือหนาจับใบหน้าของฉันให้เงยขึ้น ก่อนจะค่อยๆ โน้มลงมาใกล้ ไอร้อนจากลมหายใจที่กระทบบนใบหน้าบ่งบอกว่าเราใกล้กันมากเกินไป
ดั่งคู่โซเมทที่มีแรงดึงดูดให้เข้าหากัน ดั่งคู่พันธะที่ไม่อาจตัดสายสัมพันธ์ได้ แม้ภายในใจจะต่อต้านแต่ร่างกายกลับไร้เรี่ยวแรงผลักเขาออกไป
“ถ้าคิดจะหนีแล้วกลับมาทำไม รู้ไหมว่าคนที่กล้าทรยศความรักของฉันจะต้องเจอกับอะไร”
“……….” คำพูดนั้นเปี่ยมไปด้วยความแค้น และฉันก็น้อมรับในสิ่งที่ตัวเองทำไปหากจะถูกเขาเอาคืนก็ไม่ผิดอะไร
“ฝากไปบอกเจ้านายของเธอด้วยว่าฉันตกลงจะร่วมลงทุนกับมัน”
“ตะ แต่ฉันยัง……”
พูดจบคาแลนก็ผลักฉันอย่างแรงทำให้เซมากระแทกกับโซฟา มันไม่ได้เจ็บที่ตัวแต่กลับเจ็บที่ใจ ไม่ผิดถ้าเขาจะคิดอะไรแบบนั้นแหละฉันก็ไม่อยากอธิบายอะไร มาลิคน่ากลัวมากกว่าที่คิด เขาสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจใครหน้าไหน
“ลองคิดดูอีกครั้งดีกว่าค่ะ ว่าคุณอยากจะร่วมลงทุนกับเขาจริงๆ หรือแค่ต้องการเอาชนะ ถ้าเป็นอย่างหลังฉันขอแนะนำว่าอย่าเลย เพราะคุณไม่มีทางชนะเขาได้”
“พูดเหมือนไม่เคยรู้จักฉันมาก่อน อ่า! จริงสิ ตอนนี้เธอเป็นสัตว์เลี้ยงของมันไปแล้ว”
“………..” อยากตีปากตัวเอง จะพูดให้เขาเปลี่ยนความคิดแต่กลับสุมไฟ เหมือนตอนนี้ไม่ว่าจะทำยังไงคาแลนก็ยังยืนยันจะร่วมลงทุนกับบริษัทของมาลิค
“มันใช้เธอมาเพราะรู้ว่าฉันไม่มีทางปฏิเสธ เธอน่าจะรู้ข้อนี้ดีแต่ก็ยังทำตามคำสั่ง”
“……….”
“เอาสิมิลาหลอกใช้ฉันให้พอ…แต่ถูกเอาคืนขึ้นมาเมื่อไรวันนั้นก็อย่ามาขอร้องแล้วกัน”