โอกาสวิ่งเข้าหา

1619 Words
แม้ตอนนี้เนสิตาจะหายจากอาการไข้แล้วแต่มารดาของเธอก็ยังไม่ให้ไปช่วยงานที่ร้านด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้เธอได้พักผ่อน แต่ดูเหมือนเนสิตาจะไม่ได้คิดแบบนั้นเลย สองวันมานี้เธออยู่บ้านและรู้สึกเหงามากแม้ตอนกลางวันจะโทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อนและดูซีรี่ส์เรื่องโปรดแต่มันก็ไม่สนุกเลยเมื่อเทียบกับการออกไปที่ไร่องุ่นของฐากูร เมื่อวานหญิงสาวโทรศัพท์ไปชวนเขาคุยในเวลาหัวค่ำแต่ก็คุยได้ไม่นานเพราะฐากูรขอตัวไปทำงานก่อนหญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมเขายังจะต้องทำงานอะไรกลางคืนอีกแต่ถ้าเจอกันครั้งหน้าเธอจะต้องถามเขาให้ได้ว่าที่เขาชอบพูดว่าขอตัวไปทำงานนั้นเพราะเขาไม่อยากจะคุยกับเธอหรือเพราะเขามีงานที่จะต้องทำจริงๆ เหตุผลที่ไม่ถามทางโทรศัพท์ก็เพราะอยากจะเห็นสีหน้าและท่าทางของเขาขณะตอบคำถามของเธอด้วยว่ามันมีความจริงใจหรือกำลังโกหกถึงกันแน่ เนสิตานอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงจนกระทั่งได้ยินเสียงรถของมารดาที่ขับเข้ามาในบริเวณบ้านในเวลาเกือบจะสี่ทุ่มหญิงสาวรีบเปิดประตูต้อนรับทันที “เหนื่อยไหมคะแม่วันนี้ลูกค้าเยอะไหม” “เยอะจ้ะลูกค้าเต็มทุกโต๊ะเลย” “กินน้ำเย็นๆ ก่อนนะคะแม่ กินข้าวมาหรือยังคะ” เนสิตารีบเอาน้ำในตู้เย็นมาให้มารดาแล้วนวดไปบนไหล่อย่างเอาใจ “แม่กินแล้วเนสล่ะลูกเย็นนี้กินอะไร” “หนูข้าวผัดกินค่ะแม่ ตอนนี้หนูหายดีแล้วพรุ่งนี้หนูจะไปช่วยช่วยงานที่ร้านนะคะ” “ไม่เป็นไรจ้ะพรุ่งนี้แม่จะมีพนักงานใหม่เข้ามาทำงานอีกคน” “แม่ไม่ให้หนูไปช่วยแล้วทำไมต้องรับพนักงานใหม่มาเหรอคะคนไม่พอใช่ไหมหรือหนูทำงานไม่ได้เรื่อง” หญิงสาวรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยงานมารดาได้จนต้องจ้างคนใหม่มาช่วย “เรื่องนี้แม่คิดไว้นานแล้วแม่อยากได้คนเข้ามาช่วยงานน้าเหมียวในครัว คนที่รับเขามาใหม่เขาเคยทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟในโรงแรมมาก่อนแม่เห็นประวัติการทำงานแล้วก็เลยอยากจะรับไว้ฝึกอีกนิดหน่อยก็น่าจะทำงานได้คล่องขึ้น มันไม่เกี่ยวกับหนูเลย” “ก็ดีเหมือนกันนะคะถ้ามีคนมาช่วยน้าเหมียวทำงาน แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยอยู่ในครัว” “แม่ก็คิดว่าอย่างนั้น แม่ว่าจะนั่งคิดเงินที่หน้าเคาน์เตอร์อย่างเดียว ตอนนี้ลูกค้าเราก็เยอะขึ้นถ้าแม่เอาแต่อยู่ในครัวก็กลัวว่ามาลีกับลูกปลาจะดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง” “ถ้างั้นพรุ่งนี้หนูไปช่วยงานแม่นะคะ” หญิงสาวขอมารดาอีกครั้ง “ไม่ใช่ว่าแม่ไม่อยากให้หนูช่วยงานในร้านนะ แต่แม่รู้ว่าถ้าเปิดเทอมหนูก็ต้องไปเรียน แม่เลยอยากให้ทุกคนในร้านได้ทำงานกันอย่างเป็นระบบถ้าหนูอยากจะเข้าไปจริงๆ ก็ไปช่วยแม่คิดเงินที่เคาน์เตอร์หรือไม่ก็ไปช่วยทำบัญชีตอนใกล้จะปิดร้านก็แล้วกันนะ” นีรนุชอธิบายให้ลูกสาวฟังอย่างใจเย็น “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ แม่คะวันนี้คุณฐาได้มาทานข้าวที่ร้านเราหรือเปล่าคะ” “วันนี้เขาไม่มานะแต่โทรมาสั่งแล้วให้ลูกน้องแวะมารับนะสงสัยช่วงนี้งานที่ไร่จะยุ่งหนูอย่าเพิ่งไปกวนเขาเลยนะ เอาไว้ถ้าวันไหนเขาเข้ามาที่ร้านแล้วแม่จะลองถามเขาก่อนว่ายุ่งไหม ถ้าไม่ค่อยยุ่งแล้วหนูก็ไปเที่ยวได้ เอาล่ะคืนนี้แม่ขอไปพักก่อนนะหนูก็รีบเข้านอนล่ะ เพิ่งหายไข้ใหม่ๆ เดี๋ยวมันจะกลับมาเป็นซ้ำอีก” “ค่ะแม่ฝันดีนะคะ หนูรักแม่ที่สุดเลย” “แม่ก็รักลูกจ้ะ” “แม่เข้าไปนอนก่อนเลยนะคะเดี๋ยวหนูจัดการปิดไฟข้างนอกเอง” “ขอบใจนะลูก” เนสิตาปิดไฟห้องรับแขกจากนั้นก็กลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเองเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วลังเลว่าจะโทรไปหาฐากูรดีหรือเปล่า ใจหนึ่งก็คิดว่ามันจะเป็นการรบกวนเขาจนเกินไปแต่อีกใจหนึ่งก็อยากได้ยินเสียงเขาอยากถามว่าเขาเป็นยังไงบ้างยิ่งมารดาบอกว่าที่ไร่เขายุ่งเธอก็ยิ่งอยากรู้ว่ามีอะไรที่เธอพอจะช่วยเขาได้หรือเปล่า หญิงสาวกดโทรศัพท์โทรออกและคิดว่าถ้าเสียงสัญญาณรอนานเกินสิบวินาทีเธอจะกดวางสายแต่ยังนับหนึ่งไม่ถึงสิบฐากูรก็กดรับเสียก่อน “สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะคุณฐาเนสเองนะคะ” “ครับ” “เนสโทรมารบกวนหรือเปล่า” “ไม่หรอกผมทำงานเสร็จพอดีคุณล่ะหายดีแล้วใช่ไหม” “หายดีแล้วค่ะ แม่บอกว่าช่วงนี้ที่ไร่กำลังยุ่งใช่ไหมคะมีอะไรให้เนสช่วยไหม” “ช่วงบ่ายวันนี้ยุ่งครับแต่ตอนนี้ทุกอย่างเคลียร์แล้ว” “ถ้ายังงั้นคุณฐาก็คงมีเวลาเข้ามาในเมืองใช่ไหม เนสจะได้ขอตามไปที่ไร่ด้วย” “คุณคงต้องรอก่อนเพราะพรุ่งนี้ผมต้องเข้ากรุงเทพ” “เข้าไปทำไมคะแล้วจะค้างหรือไปเช้าเย็นกลับ” “ผมมีธุระต้องไปติดต่อที่โรงแรมของเพื่อนนิดหน่อยคิดว่าเย็นๆ ก็คงจะกลับ” “จะว่าอะไรไหมถ้าเนสจะติดรถไปด้วย พอดีเนสเพิ่งนึกขึ้นได้ค่ะว่ามีธุระต้องไปจัดการที่หอค่ะ คุณฐามีธุระจะไปทำแถวไหนคะแล้วไปกับใคร” “ไปคนเดียวครับ ผมไปทำธุระแถวรังสิตครับ” “พอดีเลยค่ะหอพักคงเนสก็อยู่แถวนั้น เนสขอไปด้วยได้ไหม” “ผมไม่มีปัญหาหรอก แต่คุณต้องขอแม่ก่อน” “ค่ะ เนสจะขอแม่ แล้วคุณฐาจะไปกี่โมงคะ” “ผมคิดว่าจะออกจากไร่ประมาณแปดโมงครับเพราะนัดกับทางโรงแรมไว้ประมาณสิบเอ็ด” “ถ้างั้นเนสจะไปรอคุณฐาที่ร้านนะคะ” “เช้าแบบนั้นร้านยังไม่เปิดเลยนะ จะให้ผมไปรับที่บ้านก็ได้” “คุณฐารู้จักบ้านเนสเหรอคะ” “เคยไปกับพี่พลอยู่หลายครั้ง ว่าแต่ที่บอกมีธุระจะไปทำเรื่องจริงใช่ไหม” “เรื่องจริงสิคะ ตอนแรกเนสก็คิดว่าจะนั่งรถเข้าไปคนเดียวอาทิตย์หน้าค่ะ แต่บอกคุณฐาจะเข้าไปเนสก็เลยว่าขอติดรถไปจะดีกว่า เนสจะได้นั่งเป็นเพื่อนคุณฐาไปด้วย รับรองว่าคุณไม่มีทางง่วงแน่ค่ะ” “ผมก็คิดว่าอย่างนั้น” ฐากูรหัวเราะเมื่อนึกถึงเสียงเจื้อยแจ้วของเธอ “พรุ่งนี้คุณฐาไม่ต้องทานข้าวมานะคะ เนสว่าจะทำแซนด์วิชไปกินระหว่างทางค่ะ” “ขอบใจนะถ้างั้นผมว่างก่อนจะเตรียมเอกสารให้ทางโรงแรมอีกนิดหน่อย” “ได้พรุ่งนี้เจอกันนะคะ” หญิงสาวดีใจมากที่จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขาอีกครั้งระยะทางจากโคราชไปยังกรุงเทพมันก็เกือบจะสามชั่วโมงเธอกับเขาคงมีเวลาคุยกับเขาอีกเยอะ หญิงสาวรีบเปิดประตูห้องนอนออกมาและเมื่อเห็นแสงไฟใต้ประตูห้องของมารดายังสว่างอยู่ก็เคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงมารดาอนุญาต “มีอะไรหรือเปล่าแม่นึกว่าหนูนอนไปแล้ว” “แม่คะ แม่จำได้ไหมที่หนูต้องไปทำธุระที่หอพักอาทิตย์หน้า” “จำได้สินี่แม่ก็ว่าจะสั่งงานที่ร้านไว้แล้วจะขับรถไปส่ง” “แม่ไม่ต้องไปส่งหนูแล้วนะคะ” “แล้วหนูจะไปยังไงนั่งรถตู้ไปเหรอ” “เปล่าค่ะแม่หนูจะไปกับคุณฐา” “จะไปรบกวนคุณฐาเขาได้ยังไง แล้วคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่” “ก็แม่บอกว่าที่ไร่คุณฐางานยุ่งหนูก็เลยโทรไปถามว่ามีอะไรให้หนูช่วยได้หรือเปล่า แต่คุณฐาบอกว่าที่ไร่หายยุ่งแล้วและพรุ่งนี้เขาจะไปทำธุระที่กรุงเทพ หนูก็เลยขอติดรถเข้าไปด้วย” “แล้วเขาว่ายังไงบ้าง” “เขาก็ไม่ว่าอะไรค่ะ เขาจะไปทำธุระที่โรงแรมแถวรังสิตมันก็พอดีกับหอพักหนูเลยนะคะแม่” “แน่ใจนะว่าไม่ได้บังคับให้เขาไปส่ง” “แน่ใจสิคะไม่เชื่อแม่ถามคุณฐาได้เลยพรุ่งนี้คุณเขาจะมารับที่นี่ค่ะ หนูว่าจะทำแซนด์วิชกับกาแฟให้เขาไปกินในรถ” “แล้วตอนกลับล่ะจะกลับยังไง” “ก็รอกลับพร้อมคุณฐาค่ะ หนูทำธุระที่หอพักเสร็จจากนั้นก็เดินเที่ยวที่ห้างรอเขาบอกว่าเขาจะไปคุยธุระที่โรงแรมแต่คงไม่นานหรอกค่ะ คงหลับถึงบ้านตอนเย็น” “ถ้างั้นหนูก็รีบนอนเถอะส่วนเรื่องแซนด์วิชกับกาแฟเดี๋ยวแม่จะจัดการให้แม่จะคุยกับเขาตอนที่เขามารับหนูด้วย” “ก็ได้ค่ะแม่งั้นหนูไปนอนก่อนนะคะฝันดีอีกครั้งค่ะ” หญิงสาวกอดมารดาหอมแก้มของท่าก่อนจะปิดประตูและเดินออกมาด้วยรอยยิ้มมันเป็นโอกาสดีที่พรุ่งนี้เธอจะได้เจอกับคนที่คิดถึงมาตลอดสองวัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD