แขนเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นกอดตัวเองเอาไว้ ขึงตามองคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว นั่นทำให้รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปากได้รูปของอามิล ก่อนจะเลือนหายไปเพียงชั่วเสี้ยววินาที
“หากไม่อยากให้ผมมอง ก็มาปิดตาผมเอาไว้สิพระชายา”
อามิลกล่าว คิ้วหนาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นสูง มองมาที่หญิงสาวด้วยสายตาท้าทาย นั่นทำให้เรียวปากอวบอิ่มของนีเซียต้องเม้มเข้าหากันแน่นอย่างเจ็บใจ
และกอดกระชับช่วงอกของตัวเองให้แน่นขึ้นอย่างหวงแหน
“ฉันไม่มีทางแตะต้องตัวคนหยาบคายอย่างคุณเป็นอันขาด ไม่มีทาง”
นีเซียโต้ตอบกลับไป ดวงตาคู่สวยวาววับยามที่จ้องกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว ดูเหมือนนีเซียจะหลงลืมไปว่าเธอไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะทำเช่นนั้นได้
แต่เธอก็ทำมันลงไปแล้ว ส่วนอามิลทำเพียงเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น มองมาที่เธอคล้ายกำลังขบขัน
“ถ้าคุณไม่ต้องการเงินแล้วคุณต้องการอะไร”
นีเซียกลับมาที่คำถามเดิมที่ยังไม่ได้คำตอบ อามิลยังคงมองมา เขาทำเพียงกระตุกยิ้มมุมปาก ทิ้งสายตาที่นีเซียอ่านไม่ออกว่าเขาต้องการจะสื่อถึงอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวแล้วขยับเท้าจากไปโดยไร้คำพูดใดๆ ออกมาจากริมฝีปากได้รูป
“คุณจะไปไหน กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ”
ปัง!
เท้าเล็กรีบขยับตามไป แต่สุดท้ายก็ยังช้ากว่าเพราะประตูห้องถูกปิดลงเสียก่อน และตอนนี้หญิงสาวก็ถูกขังเอาไว้ในห้องนอน มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ทุบรัวๆ ลงบนประตูที่ปิดสนิท
“เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้เปิดไง เปิดเดี๋ยวนี้”
ไร้การตอบรับจากคนที่อยู่ด้านนอก นีเซียขึงตาใส่บานประตูราวกับว่าต้องการให้สายตาของเธอทะลุออกไปด้านนอกอย่างขุ่นเคือง เรียวปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น มือเล็กทุบที่บานประตูอีกครั้งอย่างต้องการระบายอารมณ์ พลางตะโกนด่าลั่น ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะได้ยินหรือไม่ก็ตาม
“ไอ้บ้า ฮึ่ย”
นีเซียยังยืนมองประตูด้วยสายตาด้วยสายตาขุ่นเคืองอีกพักใหญ่ จากนั้นจึงเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงอย่างกระแทกกระทั้น เรียวปากของหญิงสาวยังเม้มเหยียดจนเป็นเส้นตรงอย่างเจ็บใจ
“ไอ้บ้า ต้องการอะไรก็ไม่พูด โรคจิต”
นีเซียทราบว่าเธอกำลังสบถถ้อยคำหยาบคาย หากบิดาหรือมารดารวมถึงพี่สาวฝาแฝดของเธอมาได้ยินเข้า คงไม่พ้นจะถูกตำหนิ แต่คนอย่างเขาเหมาะสมกับคำพูดเหล่านั้นแล้ว นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ
“ไอ้บ้าเอ๊ย!” นีเซียสบถคำหยาบคายออกมาอีกระลอกพลางกล่าวคาดโทษด้วยความเจ็บใจ “อย่าให้ฉันหนีออกไปได้นะ ฉันจะเอาพวกแกเข้าคุกให้หมดเลย”
ลมหายใจของหญิงสาวกระชั้นถี่ ทรวงอกกระเพื่อมขึ้นลงรัวเร็วเพราะความโกรธจัด ก่อนจะโพล่งออกมาด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยโทสะ
“แค่เอาพวกแกเข้าคุกมันคงน้อยไป ฉันจะบอกให้พี่เขยของฉันสั่งตัดหัวแกให้หมดเลยไอ้พวกบ้า”
หลังจากทุบกำปั้นเล็กลงบนฟูกนุ่มอย่างต้องการระบายอารมณ์ ความหงุดหงิดที่มีอยู่อย่างท่วมท้นไม่อาจทำให้นีเซียทนนั่งนิ่งอยู่บนเตียงได้ ร่างเล็กก้าวลงจากเตียงแล้วขยับเท้าไปที่ม่านหน้าต่างที่มีแสงแดดส่องผ่านเข้ามา เผื่ออากาศภายนอกอาจจะช่วยอารมณ์ของเธอเย็นลงมากกว่านี้
มือบางเลื่อนประตูแบบกระจกใสเพื่อจะก้าวออกไปสูดอากาศที่ระเบียงห้อง ทว่าดวงตาคู่สวยต้องเบิกกว้าง ริมฝีปากของหญิงสาวเผยอออกจากกันอย่างตื่นตะลึงเมื่อเห็นทัศนียภาพภายนอกอย่างเต็มตา เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน หญิงสาวก็เห็นเพียงผืนน้ำสีฟ้าคราม สิ่งก่อสร้างที่เคยมีขนาดใหญ่โตมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ในระยะสายตาของเธอ และตอนนี้ที่ที่เธออยู่มันกำลังเคลื่อนที่
เธอถูกจับมาขังไว้บนเรือ
และเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่เสียด้วย