“ก็หน้าที่เมียที่เธออยากเป็นนักหนานี่ไง” ไม่เคยมีคำพูดดีๆ หลุดออกมาจากปากของชายหนุ่มเลย หญิงสาวได้แต่อดทนเท่านั้น
“ค่ะ แต่ขอเวลาส่วนตัวก่อนได้มั้ยคะ” เมื่อไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ทรงอัปสรก็ขอเวลาทำใจสักพัก
“ไม่มีแต่ทั้งนั้น ถ้าฉันต้องการให้เธอทำอะไรเธอก็ต้องทำเข้าใจมั้ย” ก้องภพกล่าวเสียงกร้าว
“งั้นก็เอาที่คุณสบายใจเลยค่ะ” เมื่อไม่สามารถประวิงเวลาได้ หญิงสาวจึงปล่อยให้เขาทำตามที่เขาต้องการ เพราะไม่ช้าไม่เร็ว เธอคงต้องทำหน้าที่ภรรยาอยู่แล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าจุดจบจะเป็นเช่นไร แต่เธอก็ยังต้องทำ เพราะคำสัญญาที่ค้ำคอเธอไว้
“เข้ามาหาฉันสิ” เสียงของชายหนุ่มกล่าวอย่างถือไพ่เหนือกว่าชัดเจน
“เข้าไปทำไม” หญิงสาวไม่แน่ใจในคำสั่งของเขา
“เข้ามาแล้วถอดเสื้อผ้าให้ฉัน อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทนกับเธอ” ก้องภพกางแขนออก รอให้หญิงสาวมาจัดการกับชุดสูทของเขา
ทรงอัปสรถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปหาเขา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันทำให้หญิงสาวรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เธอทำใจไว้แล้วว่าสักวันเธอต้องเป็นของเขา เมื่อเธอตัดสินใจแต่งงานกับเขา แต่เธอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เพราะถึงแม้ว่าทั้งสองจะแต่งงานกัน แต่เขาแสดงออกชัดเจนว่าเขารังเกียจเธอ เธอจึงไม่คิดว่าเขาจะให้เธอทำเช่นนี้
เมื่อหญิงสาวมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม เธอก็มือสั่นขึ้นมาทันที เธอไม่เคยต้องทำเช่นนี้ให้ใคร แต่เมื่อมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการเธอก็เลี่ยงไม่ได้ มือบางของหญิงสาวจัดการถอดชุดสูทของเขาออก ในขณะที่ร่างสูงหรี่ตามองเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยกยิ้มด้วยความพอใจ จะว่าไปแล้วเด็กต้นห้องของคุณยายเขาคนนี้ก็มีหน้าตาสะสวย แต่เสียอย่างเดียว เขาไม่ชอบคนมักใหญ่ใฝ่สูงเช่นเธอ ดังนั้นเขาไม่มีวันยอมรับเธอในฐานะภรรยาอย่างแน่นอน
“ทำไมต้องสั่นด้วยล่ะ ก็อยากเป็นเมียฉันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เอ๊ะ...หรือว่าสั่นสู้” ก้องภพถากถางหญิงสาวทันที
“ถ้าคุณก้องคิดอย่างนั้นแล้วสบายใจก็เชิญคิดไปเลยค่ะ” ทรงอัปสรตอบกลับทันที แม้ว่าเธอจะไม่พอใจเขา แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกไปตามที่ใจต้องการได้
“ปากเก่งไม่เบานี่เรา นี่คงจะเป็นนิสัยที่แท้จริงสินะ” ก้องภพยังไม่ยอมหยุดมองหญิงสาวในแง่ร้าย
“ถ้าคุณก้องจะถากถางอัปสรก็เอาซะให้พอค่ะ แล้วอัปสรจะได้กลับไปนอนที่ห้องเดิม” ทรงอัปสรยั้งมือไว้ เธอไม่ยอมถอดชุดสูทของเขาออก