Ep 4 เสี่ยวตี้
CY : นายจะทำแบบนี้จริงอ่ะ?
TM : ก็ไม่เสียอะไร
CY : LT จะไม่ไหวเอานะ
TM : ผ่านไปได้ก็จะได้เป็นผู้ใหญ่
CY : ไหนจะเตอร์อีก
TM : ว่างมากทำงานเสร็จยัง
CY : ...
บทสนทนาที่ฉันแอบได้ยินตอนที่พี่คริสเข้ามาที่ตึก NOS เขาจะไม่เดินไปไหนมีเพียงห้องเดียวที่พี่คริสจะเข้าไปคือห้องทำงานพี่ไทม์ ส่วนตัวฉันไม่ค่อยคุยกับพี่คริสเรียกว่าเขาไม่พูดกับใครเลยน่าจะถูก เขาคุยกับพี่ไทม์เยอะสุดรองมาก็ทูบ ฉันไม่รู้ว่าวันนี้เขาคุยเรื่องอะไรกันแต่ก็ไปสะดุดชื่อของเตอร์ เอาจริง ๆ ตอนที่รู้ว่าเป็นเขาที่จะมาดูแลฉันฉันก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย เขาเป็นการ์ดคนสนิทที่ดูไม่เหมือนคนอื่นจนบางครั้งฉันอดคิดไม่ได้ว่าเขาเป็นลูกหลานใครสักคนที่สำคัญมาก ๆ จนพี่ไทม์เอามาไว้ข้างตัวคล้าย ๆ พี่คริสหรือเปล่า
KT : คุณ
LT : อุ๊ย...ตกใจหมด
KT : อย่ายืนตรงนี้นายไม่ชอบครับ
LT : ก็จะมาหาพี่ไทม์แต่พี่คริสอยู่
KT : ครับ
LT : งั้นออกไปกินข้าวเลยก็ได้
KT : ครับ
เตอร์ไม่เคยนั่งกินข้าวกับฉันแม้ว่าฉันเคยชวนแล้วเขาจะยืนอยู่ห่าง ๆ ถ้าบางกรณีต้องนั่งรวมโต๊ะเขาจะดื่มแค่น้ำเปล่าเท่านั้น ไม่รู้วัน ๆ เขากินอาหารอะไร เหมือนคนไม่ได้กินข้าวกินปลาหันไปกี่ทีก็เจอ เรียกกี่ครั้งก็มาเลยไม่เคยให้ฉันต้องรอนาน วันนี้ฉันเลือกร้านในโซนพลาซ่าของตึกด้านหลังเพราะไม่อยากไปไหนไกล
PW : ถ้าไม่รังเกียจขอนั่งด้วยได้ไหมครับ
LT : เกอะ ( เสียงเบาบางก็กลืนลงคอตัวเองไป )
ทันใดเงาของร่างสูงก็เข้ามาบดบังตัวเธอ เตอร์ผู้ที่เป็นทุกสิ่งแล้วในนาทีนี้แล้วเขาคือกำแพงหนาชั้นดีที่จะปกปิดสีหน้าท่าทางของเธอไว้ให้พ้นจากคนใจร้ายตรงหน้า ที่กล้าเดินเข้ามาขอนั่งด้วยเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขาและเธอ มือทั้งสองข้างประสานกันไว้ที่ตักด้วยความประหม่า พยายามหาเสียงตัวเองให้ส่งออกไปแม้สักคำยังยากเย็น แต่ด้วยความสูงที่แทบจะเท่ากันทำให้เธอรู้สึกว่าเกอเกอะไม่ยอมถอยแน่ เตอร์ก็เช่นกันเขาไม่ฟังใครยกเว้นพี่ไทม์ ถ้ามีเรื่องกันตรงนี้เธอก็อายด้วยเลยตัดสินใจบอกให้เตอร์เป็นฝ่ายถอยแทน ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัท
PW : ...
LT : เชิญนั่งค่ะ...ฉันไม่เป็นไรเตอร์
ผมไม่ค่อยโอเคกับไอ้การ์ดลูกครึ่งนี่มาตั้งแต่ครั้งก่อนแล้ว แถมป่านนี้ก็ยังไม่มีใครหาประวัติมันเจออีกด้วย วันนี้ผมมีนัดกับทีมการตลาดของ NOS แต่ยังไม่ถึงเวลานัด เลขาเลยให้ผมมากินกลางวันที่นี่แทนจะไปที่อื่น แล้วผมก็บังเอิญเจอเสี่ยวตี้ของผมนั่งอยู่ เท้าผมมันไวกว่าความยับยั้งชั่งใจที่ควรจะต้องมี ผมแค่อยากมองหน้าเธอใกล้ ๆ นานเหลือเกินที่ผมไม่เจอเธอ นานเหลือเกินกว่าที่ผมจะกลายเป็นคนที่คู่ควรมายืนตรงหน้าเธออีกครั้ง แต่เพราะเราไม่ได้มีกันแค่ 2 คนเหมือนวันวาน ตอนนี้ทุกการกระทำของผมกับเธอมีครอบครัวมาเกี่ยวข้องไปแล้ว จะมาซื้อดอกไม้คุกเข่าขอคืนดีมันเป็นไปไม่ได้
PW : สบายดีไหม
LT : ก็อย่างเห็นค่ะคุณว่าน
PW : จะกินอะไรสั่งไปหรือยัง
LT : อิ่มแล้วค่ะกำลังจะกลับพอดี
PW : นั่งกับพี่ก่อนสิ
LT : ...
PW : สั่งอาหารไทยให้พี่หน่อย
LT : ฮึ...คุณว่านลองถามพนักงานเองจะดีกว่าขอตัวนะคะ
PW : เสี่ยวตี้
LT : เราไม่ได้สนิทกันอย่ามาเรียกดิฉันแบบนี้อีก!!
เธอลุกขึ้นทันทีแล้วก็เป็นมันอีกแล้วที่เข้ามาถึงตัวเธอระยะประชิด หน้าตาไร้อารมณ์แฝงด้วยแววตาแห่งความไม่พอใจ ผมเห็นแต่ก็ยอมรับว่าคนคนนี้เป็นคนที่ยากจะคาดเดา แต่ทุกการกระทำผมรู้ได้เลยว่ามันคิดไม่ซื่อ หมาวัดเสือกจะเด็ดดอกฟ้าสินะ ถ้าเป็นผมในอดีตผมคงเข้าใจและมองโลกในแง่ดีว่าเป็นเสี้ยวตี้ของผมนั้นแสนดีน่ารักใครอยู่ใกล้ก็ต้องชอบ ผมไม่ได้จะดูถูกว่ามันเป็นแค่การ์ดหรืออะไร มันอาจจะมีดีกว่าผู้ชายค่อนโลกแต่ไม่ใช่กับเธอ และการเป็นผมในวันนี้ต่อให้คนที่ขึ้นชื่อว่ามือ 1 เข้ามาขวางทาง ผมก็ไม่สนและมันก็จะทำได้เพียงเท่านั้น ได้แค่มองแล้วเก็บความรู้สึกของตัวเองกลืนลงคอไปซะ เพราะอีกไม่นานหรอกเธอจะต้องกลับมาอยู่ในอ้อมกอดของผม...ของผมคนเดียวเท่านั้น
KT : อยากกลับบ้านไหมครับ
LT : วันนี้มีประชุม
KT : ครับ
LT : ขอโทษนะ
KT : เรื่อง
LT : คุณว่าน
KT : ไม่มีอะไรที่คุณต้องขอโทษครับ
LT : อืม
ฉันไม่รู้ว่าทำต้องขอโทษเตอร์อาจเป็นเพราะเขาอุตส่าห์เอาตัวมาขวางแล้วแต่ฉันยังออกปากให้คนคนนั้นมานั่ง มันก็เหมือนหักหน้าเตอร์กลาย ๆ นั่นละ คนใจร้ายยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าเสี่ยวตี้อีก ฉันไม่ได้เป็นลูกแมวน้อยแสนเชื่องของเขาอีกแล้ว เจ็บก็ต้องจำสิจะมาหลอกอะไรอีกก็ไม่รู้ ฉันต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้เลยคอยดู
LT : เตอร์วันนี้ไปเที่ยวได้ไหม
KT : ครับ
LT : งั้นฉันชวนเพื่อนก่อน
KT : ครับ
LT : คลับพี่คริสก็ได้นะพี่ไทม์จะได้ไม่บ่น
KT : ครับ