เรื่องของมาเฟีย

1448 Words
ออสตินมองหน้าวรรษมนเมื่อเห็นแววตาที่ช่างสงสัยก็ยิ้มมุมปาก เขาจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ตนเองนั่งคุยกับผู้หญิงนานๆ แบบนี้เมื่อไหร่ เพราะส่วนใหญ่ก็จะพากันขึ้นเตียงอย่างเดียว “ถ้าเธอรู้ว่าฉันทำอะไรบ้างเธออาจจะกลัวฉันก็ได้นะ” “ก็ลองเล่ามาสิคะ” “ฉันชื่อออสติน อายุ 35 แม่เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย พ่อเป็นคนอิตาลี ตอนนี้ท่านสองคนใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลี” “คุณมีพี่น้องไหมคะ” “เคยมีน้องสาว” “เคยเหรอคะ” “อือ แต่เธอเสียไปตั้งแต่เด็กแล้ว” “หนูเสียใจด้วยนะคะ แล้วคุณทำงานอะไร” “ก็โรงแรมที่กรุงเทพและที่เชียงราย กาสิโนที่สามเหลี่ยมทองคำอีกสองแห่งแล้วก็กาสิโนที่เธอหนีออกมานั่นแหละ” “คุณค้าผู้หญิงด้วยใช่ไหมคะ” “จะเรียกว่าค้าได้ยังไงในเมื่อทุกคนเต็มใจ” “แต่หนูไม่เต็มใจ” “นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ฉันต้องสอบสวนว่าใครเป็นคนทำเพราะกาสิโนที่นั่นมีคนท้องถิ่นเป็นหุ้นส่วนด้วย เธออาจจะคิดว่าฉันแก้ตัวนะ แต่ฉันไม่มีทางบังคับใครทำแบบนั้นหรอก” “หนูจะเชื่อคุณ” “ทำไมถึงเชื่อฉันล่ะ” “เพราะคุณช่วยหนู ไม่ใจร้ายกับหนู” วรรษมนเชื่อจริงๆ ว่าเขาเป็นคนดี ที่เชื่อเพราะเขาไม่ใจร้ายกับเธอ ส่วนเรื่องของเขากับงานของเขามันก็เป็นเรื่องส่วนตัว “อย่าเชื่อคนอื่นง่ายนะเมล่อน ขนาดพี่สาวเธอเขายังหลอกเธอมาขายได้ แล้วไม่คิดเหรอว่าตอนนี้เธอกำลังโดนฉันหลอก” “ก็แอบคิดค่ะ แต่หนูไม่ทางเลือก หนูอยากกลับกรุงเทพ อยากไปหางานทำและก็อยากจะเรียนให้จบ” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าและแววตาที่มุ่งมั่น ออสตินรู้สึกพอใจที่เห็นวรรษมนเป็นเด็กรักเรียนเพราะถ้าเป็นคนอื่นต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็อาจจะท้อไปแล้ว “ดูเธอตั้งใจเรียนดีนะ” “ก็ต้องตั้งใจสิคะ เรียนจบแล้วจะได้หางานดีๆ ทำ” แววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นทำให้คนมองรู้สึกถึงพลังบวกในตัวเธอที่ส่งมาทางสายตา “ถ้าถึงกรุงเทพแล้วฉันจะช่วยหางานให้” “ขอบคุณนะคะ หนูนึกแล้วว่าคุณต้องเป็นคนใจดีมากๆ” วรรษมนมองเขาแล้วยิ้มอย่างจริงใจ “ฉันไม่ได้ใจดีกับทุกคนหรอกนะ” “แต่อย่างน้อยก็ใจดีกับหนู แล้วปกติคุณมาที่นี่บ่อยไหมคะ หนูหมายถึงมาที่กาสิโน” เธอพยายามชวนเขาคุยเพราะอยากรู้จักเขาให้มากขึ้น “ก็เดือนละครั้งมาตรวจงาน” “คุณใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพเหรอคะ” “ฉันก็อยู่ไปเรื่อย” “หนูขอถามอะไรเพิ่มได้ไหม” “อือ” “คุณมีครอบครัวหรือยังคะ ถ้าหนูกลับไปพร้อมคุณจะทำให้คุณมีปัญหากับที่บ้านไหมคะ” “ไม่ต้องกลัวเรื่องนั้นหรอก ฉันยังไม่มีครอบครัว” “ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าคุณจะยังไม่มีครอบครัว” “ทำไมถึงไม่เชื่อ” “ก็คุณทั้งหล่อทั้งรวยผู้หญิงก็คงจะเยอะ” “ฉันไม่เถียงว่าฉันมีผู้หญิงเยอะ แต่ฉันยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตใครหรอกนะ” “คุณพูดเหมือนมีอันตรายอยู่รอบตัว” “การทำธุรกิจแบบนี้ก็ย่อมมีศัตรูมากกว่าอาชีพอื่น ถ้าฉันมีแฟนหรือมีครอบครัวพวกเขาจะเป็นจุดอ่อนของฉัน” “หนูไม่เข้าใจความคิดของคุณเลย การมีครอบครัวหนูว่ามันดีออก” “เธอยังไม่มีครอบครัวจะรู้ได้ยังไงว่ามันดี” “ก็ตอนพ่อยังไม่ตายพ่อเคยพูดว่าเวลาพ่อทำงานมาเหนื่อยๆ แล้วมาเจอหนูพ่อก็หายเหนื่อย” วรรษมนนึกถึงวัยเด็กแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ นั่นเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมาก เธอจะรอพ่อที่หน้าบ้านทุกวันรอให้พ่อมกอดมาหอมแล้วเข้านอนด้วยกันทุกคืน “ฟังแล้วดูอบอุ่นดีนะ” “ใช่ค่ะ ถึงตอนนี้พ่อจะไม่อยู่แล้วแต่หนูก็ยังคิดถึงท่านเสมอคิดถึงวันที่มีความสุข” ออสตินกำลังคิดถามที่เธอพูดและรู้สึกว่าวรรษมนกำลังหาใครสักคนมาแทนพ่อซึ่งเขาไม่อยากให้เธอรู้สึกกับเขาแบบนั้น “เมล่อน ฉันขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม” “ขออะไรคะ” เธอมีสีหน้าตกใจเพราะกลัวเขาจะขอในสิ่งที่เธอยังไม่พร้อม “ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก” “แล้วมันเรื่องอะไรคะ” “เลิกแทนตัวเธอว่าหนูเถอะ ฟังแล้วมันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันแก่มาก” “แล้วจะให้แทนตัวเองว่าอะไร ฉันเหรอคะ” “เมล่อนไง เธอชื่อเมล่อนไม่ใช่เหรอ” “ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา” “เอาเป็นว่าเรารู้จักกันแล้วนะ อีกนานกว่าจะถึงกรุงเทพเธอจะนอนก่อนไหม” “ค่ะ หนู เอ้ย เมล่อนก็เริ่มง่วง ว่าแต่ในรถไม่มีผ้าห่มเหรอคะ” “หนาวเหรอ” “ก็นิดหน่อยค่ะ” วรรษมนไม่ค่อยกล้านอนเท่าไหร่ถ้าไม่มีอะไรมาห่มเนื่องจากชุดที่เธอสวมนั้นเป็นชุดเกาะอกตัวสั้นเหนือเข่า แม้เขาบอกว่าจะยังไม่นอนกับเธอวันนี้แต่หญิงสาวก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดี “เอาเสื้อฉันไปก่อนก็ได้” ออสตินถอดสูทส่งให้เพราะดูแล้ววรรษมนก็คงจะหนาวจริง แม้เขาจะเบาแอร์ให้แล้วก็ตาม “ขอบคุณค่ะ คุณไม่หนาวเหรอะคะ” “ฉันมีเสื้ออีกตัว” พอรับเสื้อมาแล้ววรรษมนก็เอามาห่ม ก่อนจะปรับให้เอนลงไม่นานหญิงสาวก็หลับ ออสตินนั่งมองหน้าเธออยู่นานก่อนจะมองออกไปข้างนอกพลางใช้ความคิด เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่นั้นเรียกว่าใจดีอย่างที่หญิงสาวพูดหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่ชอบที่เธอถูกหลอกมาแบบนี้ เท่าที่เขารู้ผู้หญิงทุกคนที่มาทำงานล้วนเต็มใจและเรื่องนี้เขาคงต้องให้คนสืบให้รู้เรื่อง “ภูมิ ไปที่คอนโดนะ” ออสตินบอกคนขับเมื่อรถเข้าเขตกรุงเทพ “ถึงแล้วเหรอคะ” วรรษมนถาม “ใกล้ถึงแล้ว ฉันจะให้เธอไปที่อยู่ที่คอนโดก่อน” “เมล่อนขอกลับไปอยู่ที่บ้านได้ไหมคะ” “คิดจะหนีฉันเหรอ” “เปล่านะคะ ก็แค่อยากไปดูว่าสองคนนั้นเอาอะไรที่บ้านไปบ้าง” “เอาไวพรุ่งนี้ค่อยไปดูก็ได้ บ้านมันไม่หนีไปไหนหรอกน่า” “ก็ได้ค่ะ” วรรษมนตกลงเพราะไม่อยากทำตัวเรื่องมาก “เธอขึ้นไปคนเดียวนะ ฉันบอกคนของฉันไว้แล้วว่าเธอจะมาพัก” “แล้วคุณล่ะ” “ปกติฉันพักที่โรงแรม” “ค่ะ ขอบคุณนะคะ” วรรษมนดีใจที่อย่างน้อยวันนี้ตนเองก็ยังไม่ต้องเริ่มงานแต่ก็ไม่รู้ว่าตนเองจะรอดไปถึงเมื่อไหร่ คนอย่างเธอพูดคำไหนก็คำนั้นในเมื่อเขาช่วยเธอกลับมาถึงกรุงเทพได้แค่เรื่องนอนกับเขามันก็ไม่ใช่ปัญหา หญิงสาวขึ้นมายังคอนโดมิเนียมหรูชั้นบนสุดซึ่งห้องของเขากินพื้นที่มากถึงสองในสาม แล้วอีกส่วนที่เหลือก็เป็นห้องพักของแม่บ้านและคนของเขา “คุณมีอะไรเรียกป้าได้ตลอดนะคะ กดที่ออดสีฟ้าค่ะ” “แล้วออดสีแดงล่ะคะ” “สีแดงสำหรับขอความช่วยเหลือ ถ้ากดปุ่มนั้นคนที่จะเข้ามาก็จะเป็นบอดี้การ์ดของคุณออสตินค่ะ” “ขอบคุณนะคะ หนูคงมารบกวนเวลานอนของป้า” “ไม่เป็นไรค่ะ ปกติแล้วคุณออสตินไม่เคยมาใครมาที่นี่ขนาดตัวท่านเองยังค่อยมา ป้าเลยแทบจะไม่ได้ทำงานอะไรเลย” “หนูคงรบกวนไม่นานหรอกค่ะ” “รบกวนนานก็ได้ มีคนมาอยู่ที่นี่จะได้ไม่เหมือนห้องร้าง” “แต่ดูไม่เหมือนห้องร้างเลย ป้าคงทำความสะอาดทุกวัน” “ใช่ค่ะ ป้าทำความสะอาดทุกวันแล้วก็ดีใจที่มีคนมาอยู่” “หนูคงอยู่รบกวนป้าไม่นานหรอกค่ะ” “ป้าอยากให้อยู่นานๆ คืนนี้ดึกแล้วป้าว่าเราแยกกันไปนอนดีกว่าหนูมีอะไรก็เรียกป้านะ” “ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD