ต้องหนี

1018 Words
เสียงฝีเท้าที่กำลังดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้หญิงสาวคนหนึ่งต้องเร่งฝีเท้าอย่างเต็มที่ แต่รองเท้าส้นสูงที่สวมอยู่นั้นก็ทำให้เธอวิ่งได้ไม่ถนัด หญิงสาวก้มลงถอดรองเท้าขึ้นมาถือไว้แน่นเพราะถ้าจะทิ้งไปก็รู้สึกเสียดาย การวิ่งด้วยเท้าเปล่าถึงมันจะเจ็บแต่ก็สามารถวิ่งได้เร็วกว่าเดิม อีกไม่กี่เมตรข้างหน้าเธอจะวิ่งไปถึงถนนใหญ่และถ้าวิ่งไปฝั่งตรงกันข้ามได้เธอก็น่าจะรอดจากพวกที่กำลังวิ่งตามหลัง แต่เสียงที่ตามมานั้นก็ทำให้เธอขนลุกเพราะมันใกล้เข้ามามากอีกทั้งพวกมันยังมีกันหลายคน หญิงสาววิ่งอ้อมมุมตึกออกมาพอใกล้จะถึงถนนใหญ่ก็มีรถตู้คันหนึ่งจอดอยู่ ประตูรถยังเปิดทิ้งไว้เธอจึงรีบขึ้นไปหลบอยู่ทางด้านหลังในจังหวะที่ชายฉกรรจ์สามคนวิ่งโผล่มาจากมุมตึกพอดี เธอชะโงกหน้าขึ้นมามองและเห็นว่าผู้ชายพวกนั้นวิ่งไปฝั่งตรงข้ามก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เธอเป็นใคร แล้วขึ้นมาอยู่บนรถฉันได้ยังไง” เสียงที่ฟังดูมีอำนาจทำให้หญิงสาวกลัวจับจิต เธอค่อยๆ หันหน้ามาอย่างช้าก่อนจะส่งยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่ถามนั้นมีใบหน้าหล่อราวกับเทพบุตร “หนูขอโทษ” “ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ แต่ฉันอยากได้คำตอบ” “หนูชื่อเม่ล่อน ทำงานที่กาสิโน” “ทำงานที่กาสิโน แล้วทำไมถึงมาอยู่บนรถฉันหรือว่าเธอไปโกงเขามาพอเขาจับได้เลยวิ่งหนี” “ไม่ใช่นะคะ หนูไม่ได้โกงใครเลย” “ไม่โกงแล้วทำไมต้องมาหลบอยู่บนรถ บอกฉันมาตรงๆ ว่าเธอกำลังหนีอะไรมา” “หนูจะบอกคุณก็ได้ แต่คุณพาหนูไปจากที่นี่ก่อนได้ไหมคะ พวกมันกลับมากันแล้ว” เธอมองไปทางด้านนอกรถแล้วเห็นผู้ชายพวกนั้นกำลังเดินตรงมา “ถ้าฉันช่วยเธอฉันจะได้อะไร” “อะไรก็ได้ หนูให้คุณได้ทุกอย่าง แค่อย่าให้พวกนั้นพาหนูกลับไปก็พอ” “ถ้าเธอไม่ทำตามที่พูดฉันจะเป็นคนพาเธอมาส่งที่นี่เอง” “หนูสัญญา” หญิงสาวยกนิ้วก้อยยื่นมาตรงหน้าเขา ชายหนุ่มลังเลเพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนแต่เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของอีกคนเขาก็ยื่นนิ้วของตัวเองมาเกี่ยวไว้ “ฉันจะเชื่อเธอสักครั้ง ไปนั่งดีๆ เดี๋ยวฉันจะพาออกไปจากที่นี่” พูดจบเขาก็พูดไปยังไมโครโฟนขนาดเล็กที่ใช้สื่อสารระหว่างคนขับกับผู้โดยสาร “ภูมิ ออกรถ” “เราจะไปไหนกันครับ” “ขับวนไปเรื่อยๆ ก่อนฉันมีเรื่องต้องจัดการ” “ครับบอส” พอรถเคลื่อนตัวออกหญิงสาวที่นั่งนิ่งก็ถอนหายใจและพิงกับเบาะนั่งอย่างอ่อนแรง เธอไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนที่แอบขึ้นรถมานั้นเป็นใครมาจากไหน เธอรู้แค่ว่าตอนนี้เขาเป็นผู้มีบุญคุณกับเธอมาก “เอาล่ะ บอกมาได้แล้วว่าเธอกำลังหนีอะไรมา” “เรื่องมันยาว” “ถ้าไม่อยากเล่าฉันจะพากลับไปส่ง” “หนูก็แค่บอกว่าเรื่องมันยาว ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะไปมาเล่า คุณอาก็ทำใจร้อนไปได้” “เดี๋ยวนะเธอเรียกฉันว่าคุณอา” “ค่ะ ดูแล้วคุณก็คงอายุมากกว่าหนูหลายปี เรียกพี่ก็คงจะดูไม่ค่อยให้เกียรติเท่าไหร่ใช่ไหมคะ” “เรียกฉันว่าออสติน ถ้าเรียกฉันว่าอาอีกฉันจะพาเธอกลับ” “ก็ได้ค่ะคุณออสติน” วรรษมนเล่าให้เขาฟังว่าเธอเป็นนักศึกษาและกำลังหางานทำในช่วงปิดเทอม แล้วพี่สาวเธอก็แนะนำให้มาทำงานที่กาสิโน เธอเพิ่งเริ่มงานได้แค่สามวัน วันนี้เธอก็แต่งตัวมาทำงานตามปกติ แต่แล้วคนคุมบ่อนก็เรียกเธอเข้าไปถามว่าสนใจรับงานบริการไหม เพราะมีแขกกระเป๋าหนักหลายคนที่สนใจจะนอนกับหนู พอหนูไม่ยอมพวกมันก็ขู่ว่าจะจับหนูไปขังและไม่ให้หนูกลับประเทศไทยอีกเลย พวกมันยึดพาสปอร์ตของหนูกับเพื่อนไว้” “แต่เธอก็หนีออกมาได้นี่” “พวกมันกำลังจะพาหนูไปส่งให้เสี่ยคนนั้นแต่ระหว่างทางมีนักพนันโวยวายแล้วขวางทางอยู่หนูก็เลยวิ่งหนีออกมา” “ฉันจะเชื่อเธอได้ยังไ ถ้าเกิดเธอไปขโมยของเขามาหรือทำผิดกฎหมายมาฉันจะไม่ซวยไปด้วยเหรอ” “คุณก็เห็นนี่ว่าหนูวิ่งมาตัวเปล่า นี่ก็มีแค่ชุดที่ใส่กับรองเท้าคุณจะค้นตัวหนูไหมล่ะ” วรรษมนรีบแสดงความบริสุทธิ์ใจจนลืมไปเลยว่าชุดที่ตนเองสวมนั้นมันทั้งสั้นและรัดรูปจนคนมองแอบกลืนน้ำลาย “หนีออกมาได้แล้วคิดจะทำยังไงต่อ” “คุณพาหนูไปแจ้งความได้ไหม” “ได้สิ แต่เธอมีหลักฐานไหมล่ะ อีกอย่างคนที่นี่ก็พวกพ้องเยอะถ้าไปแจ้งตำรวจแล้วคิดเหรอว่าตำรวจจะไม่เป็นพวกเดียวกัน” “แล้วหนูจะทำยังไง เพื่อนหนูก็ยังอยู่ที่นั่น แล้วพาสปอร์ตของหนูอีก คุณออสตินพอจะหาใครช่วยได้ไหม” “ไอ้ช่วยมันก็ช่วยได้หรอกนะ แต่ฉันก็ไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่ง พวกนั้นน่าจะมีอิทธิพลมากพอตัว” “ถ้าคุณไม่ช่วย ก็ส่งหนูลงข้างหน้าเถอะค่ะ หนูจะลองเสี่ยงไปแจ้งตำรวจดู” “ฉันช่วยก็ได้” “ขอบคุณนะคะคุณออสติน นอกจะหน้าตาคุณจะหล่อมากๆ แล้วคุณยังเป็นคนดีอีกด้วย” “ไหนลองบอกมาว่าจะให้ช่วยยังไงบ้าง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD