“เรื่องเมื่อคืน?”
“เรื่องเมื่อคืนฉันไม่ผิด”เสียงหวานของพายสะบัดใส่ธันเดอร์ทันที เธอยังเคืองเรื่องที่เขาไล่เธอออก ในใจคิดไปแล้วว่าเขาคงเรียกเธอมาต่อว่าอีกแน่นอน
“เรื่องเป็นยังไง?”
“ทำไมคุณไม่ถามผู้ชายคนนี้ล่ะคะ หรือว่าถามแล้วแต่เขาก็ยังยืนยันว่าฉันผิด”คาเตอร์ที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ชะงักไปทันที เมื่อถูกหญิงสาวพาดพิงถึง
“ฉันอยากฟังจากปากเธอมากกว่า”
พายเหยียดยิ้มออกมาทันที ปกติเธอไม่ใช่ผู้หญิงไม่มีมารยาทกับคนที่อายุมากกว่า แต่วันนี้ขอทำตัวแหกกฎตัวเองหน่อยเถอะ“ฟังไปทำไมคะ ในเมื่อคุณไล่ฉันออกไปแล้ว”
“ยังปากดีไม่เลิกนะ”คาเตอร์ส่งเสียงพูดออกไปทันทีอย่างเหลืออด เขาพอจะรู้ว่าเธอไม่พอใจที่โดนไล่ออก แต่ควรฟังเหตุผลก่อนไหม ไม่ใช่เอาแต่ทำสีหน้าและท่าทางไม่พอใจอยู่แบบนี้ เห็นแล้วมันอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงต่อว่าเธอออกไป แถมเขายังเป็นคนช่วยเธอต่างหาก แต่เหมือนไม่มีบุญคุณกับเธอสักนิด หรือเห็นว่าเขาไม่ทวงบุญคุณเรื่องที่ช่วย เธอเลยทำตัวได้ใจอยู่แบบนี้
“ที่ฉันไล่เธอออกก็เพราะความปลอดภัยของเธอนะ คิดว่าฉันเป็นคนยังไง ที่จริงฉันจะไล่ใครออกก็ไม่ต้องมานั่งอธิบายให้ฟังนะ แต่รู้ว่าเธอกำลังคิดว่าฉันเข้าข้างคนพวกนั้นล่ะสิ”ธันเดอร์เอ่ยออกไปอย่างมีเหตุผล พอจะมองออกว่าเธอไม่พอใจเรื่องนี้
“ไม่ต้องไปอธิบายให้คนแบบนี้เข้าใจหรอกครับ อธิบายไปก็เปล่าประโยชน์”
พายตวัดสายตามองคาเตอร์ทันทีด้วยความไม่พอใจ“พวกคุณคงไม่เข้าใจหรอกว่าชีวิตที่ต้องดิ้นรนทุกอย่างเป็นยังไง ตอนนี้งานคือสิ่งที่ฉันต้องการ ไม่งั้นคงไม่อดทนเลิกดึก ๆ ทุกวัน แต่พอรู้ว่าโดนไล่ออก เป็นใครจะไม่โกรธบ้างคะ เหตุผลอะไรก็ไม่มีให้ จะให้ฉันเข้าใจว่ายังไง”
ดวงตากลมโตมีน้ำเอ่อคลอออกมา แต่เธอก็พยายามข่มน้ำตาเอาไว้อย่างที่สุด เธอไม่อยากร้องไห้ให้ใครเห็น แต่ทว่าคาเตอร์จับได้ว่าน้ำเสียงเธอสั่นเครือ แต่ก็ยังคงนั่งทำสีหน้าเรียบเฉยอยู่
“เอาล่ะ ฉันเข้าใจนะ แต่จะให้เธอกลับมาทำงานไม่ได้จริง ๆ คนพวกนั้นอันตรายกว่าที่เธอคิดนะ”
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าคุณเรียกฉันมาพบทำไม”
“ฉันมีหลักฐานที่จะเอาผิดพวกมันแล้ว แค่อยากให้เธอตัดสินใจว่าจะเอายังไง เพราะมันเป็นเรื่องของเธอ”
พายขยับตัวเล็กน้อย ใช้ความคิดอย่างหนัก ใจหนึ่งเธอก็โกรธคนพวกนั้นที่ทำแบบนั้นกับเธอ แต่อีกใจมันก็แย้งว่าเธอไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้อีกแล้ว ไหน ๆ เธอก็ไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว คงไม่มีวันได้เจอกับคนพวกนั้นอีก
“ไม่ค่ะ”พายส่ายหน้าทันทีเมื่อคิดได้ เธอตัดสินใจจบเรื่องนี้ไว้แค่นี้
“หึ”แต่ทว่าเธอได้ยินเสียงหัวเราะเยาะดังมาจากผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอ
“แล้วแต่เธอนะ แต่ถ้าจะเอาผิดฉันรวบรวมหลักฐานทุกอย่างไว้ให้แล้ว”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปได้แล้วใช่ไหมคะ”ธันเดอร์พยักหน้าตอบกลับ หญิงสาวเลยลุกขึ้นจากตรงนั้นทันที เธอไม่อยากนั่งให้ผู้ชายคนนั้นใช้สายตาดูถูกเธออีกแล้ว แต่ทว่าเธอเดินออกมาได้ไม่เท่าไหร่ ก็ได้ยินเสียงทุ้มพูดขึ้นมาลอย ๆ เหมือนกำลังด่าเธออยู่
“มีหลักฐานแต่กลับไม่เอาผิด เธอนี่ไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเองเลยนะ”
พายตวัดสายตาไปมองเขาทันทีอย่างไม่พอใจ ที่เธอต้องโดนไล่ออกจากงานไม่ใช่เพราะว่ารักศักดิ์ศรีตัวเองหรือไง แต่ทว่าคนแบบนี้พูดไปก็เท่านั้น เพราะเขาตัดสินเธอไปแล้ว“แล้วพี่เกี่ยวอะไรด้วยคะ”
“ฉันไม่อยากเกี่ยวอยู่แล้ว เธอจะแจ้งความหรือไม่แจ้งมันก็เรื่องของเธอ”
“ถ้าไม่เกี่ยวก็อย่าพูดแบบนี้ค่ะ ฉันไม่ชอบ”
“ปากแบบเธอนี่ ฉันไม่น่าช่วยไว้เลยจริง ๆ ทำเป็นอวดดี อวดเก่ง ทั้งที่ตัวเองไม่มีอะไรให้อวด”
คาเตอร์ใช้สายตามองเธอหัวจรดเท้า เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนปากดีได้เท่าเธอมาก่อน ขนาดเขาช่วยไว้แท้ ๆ แต่เธอยังปากเก่งกับเขาไม่เลิก
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน ไม่ว่าพี่อยากได้อะไรตอบแทนเรื่องที่ช่วย ถ้าฉันทำได้ ฉันจะทำทุกอย่าง”
พายพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเพราะโกรธเขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว อย่างน้อยเธอก็ควรเจียมตัวว่าเขาเป็นคนช่วยเธอจากเรื่องเมื่อคืน ตัวเธอเองก็ไม่ใช่คนไม่รู้บุญคุณคนขนาดนั้น แต่เพราะเขาเอาแต่พูดประชดเธอจนทำให้เธอหลุดคำพูดไม่ดีออกไปนับครั้งไม่ถ้วน
“เธอแน่ใจเหรอที่พูดออกมา”
หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นเพื่อยืนยันว่าเธอคิดแบบนั้นจริง ๆ“ค่ะ”
คาเตอร์เหยียดยิ้มมุมปาก ผู้หญิงคนนี้บางทีก็ดูฉลาด บางทีก็ดูเหมือนโง่ อย่างเรื่องนี้เธอกำลังเปิดโอกาสให้เขาหาประโยชน์จากเธอเพราะคำพูดที่ดูเหมือนไม่ตั้งใจของเธอเอง
“ตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออกว่าต้องการอะไรตอบแทน เอาเบอร์เธอมา”มือหนาล้วงเอาโทรศัพท์ส่งไปให้เธอทันที“ถ้าฉันคิดออกจะติดต่อไปเอง”
พายรับโทรศัพท์เครื่องหรูของคนตรงหน้ามาเมมเบอร์เธอใส่ไว้ให้เขาแล้วส่งคืนเจ้าของกลับไปทันที
“นี่ค่ะ”เมื่อส่งโทรศัพท์คืนไปแล้ว เธอก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที โดยไม่เหลียวหลังกลับไปมองเขา ส่วนคาเตอร์ก็เดินไปยังลานจอดรถทันทีเหมือนกัน ระหว่างที่เขาขับผ่านตรงถนนหน้าผับ หางตาเขาเหลือบเห็นผู้หญิงอวดดีเมื่อกี้ กำลังนั่งรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์
มือหนาเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อที่เธอเมมไว้ในโทรศัพท์ของเขา
“พาย”เสียงทุ้มอ่านชื่อที่เธอเมมไว้ ริมฝีปากก็ยกยิ้มขึ้นมา ตอนแรกก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเธอแล้ว แต่เพราะเธอปากเก่ง อวดดีกับเขา ทำให้ต้องทวงบุญคุณที่เขาช่วยเธอไว้ทั้งที่ไม่อยากทวงเลยสักนิด
วันต่อมา
วันนี้เป็นวันแรกที่พาย ต้องมาทำงานในคาเฟ่มหาลัย เธอจะทำทั้งวันเพราะวันนี้ไม่มีเรียน โดยทางร้านจะจ้างเธอเป็นรายชั่วโมง ถึงคิดดูแล้วรายได้น้อยกว่าเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับเกินครึ่ง แต่เธอไม่สามารถหยุดหางานที่ถูกใจได้ ต้องเลือกงานที่อยู่ตรงหน้าเธอก่อน
“วันนี้ลูกค้าเยอะเลย สงสัยจะเป็นเพราะพนักงานใหม่สวย”กวินเพื่อนร่วมงานเอ่ยแซว
“เมื่อก่อนเราเห็นลูกค้าก็เยอะอยู่นะ”พายเอ่ยออกไปอย่างถ่อมตน ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่าวันนี้ลูกค้าเยอะมากกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็นก็เถอะ แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ใช่คนหลงตัวเอง เลยมองว่าไม่น่าจะใช่เพราะเธอเพียงอย่างเดียว
“ถ่อมตัวจริง ๆ ว่าแต่สวยแบบนี้ มีแฟนหรือยังอ่ะ”
“ยังไม่มี และคงไม่มีเร็ว ๆ นี้หรอก”กวินทำหน้าเจื่อนไปทันที ยอมรับว่าถูกตาต้องใจหญิงสาวมากตั้งแต่ที่มาสมัครงานเมื่อวานแล้ว
“ต่อให้มีคนดี ๆ เข้ามาจีบ เธอก็ไม่คิดเปิดโอกาสให้เขาเหรอ?”
พายยิ้มออกมาอย่างข่มขื่น ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเจอผู้ชายที่กวินว่าสักคน อาจเพราะเธอไม่เปิดโอกาสให้ใครเข้ามา หรืออีกอย่างคือไม่มีใครอยากเอาเธอไปเป็นภาระในชีวิตของเขามากกว่า
“เรายังไม่เจอคนนั้นเลยและคิดว่าคงไม่มีหรอก”
“เธออาจมองไม่เห็นเขามากกว่า”กวินพูดทิ้งทายพร้อมยักคิ้วด้วยท่าทางกวน ๆ ทำให้พายยิ้มออกมาทันที อันที่จริงกวินเพื่อนร่วมงานของเธอคนนี้หน้าตาก็จัดว่าดีมาก แต่เรื่องนิสัยใจคอ เธอยังไม่รู้จักเขาดีพอ เพราะเพิ่งเจอกันแค่วันเดียว
กริ่ง! กริ่ง!
เสียงกริ่งหน้าประตูคาเฟ่ดัง พร้อมสามหนุ่มวิศวะปรากฏตัวขึ้น ทำให้สาว ๆ ในร้านฮือฮา ส่งยิ้มไปให้ผู้มาใหม่กันทุกคน ซึ่งพายเองที่กำลังก้มหน้าจดออเดอร์โต๊ะมุมด้านในอยู่ มองไม่เห็นบุคคลมาใหม่
“นึกยังไงอยากกินกาแฟ แม่ง!!! ไม่เข้ากับลุคมึงเลยไอ้กาย”
คีรินเอ่ยแซวเพื่อนทันที เมื่อถูกลากตัวมายังคาเฟ่มหาลัย รวมถึงคาเตอร์ด้วยที่โดนลากตัวมาเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่สถานที่นี้เรียนมาจบจะครบสี่ปี เขาไม่เคยเหยียบย่างมาเลยสักครั้ง
เหตุผลที่ไม่มาก็เพราะไม่ชอบที่คนเยอะ ๆ ไม่ชอบสายตาของผู้หญิงที่มองมาพร้อมกับส่งยิ้มให้แบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยยิ้มตอบกลับไปให้ใครสักคน แต่ผู้หญิงพวกนี้ก็ยังทำหน้าชวนฝันแบบนี้ตลอด
“กูง่วงนอน อยากกินกาแฟสักแก้ว พวกมึงจะเอาด้วยไหม กูสั่งให้”สกายอาสาเป็นคนไปสั่งเครื่องดื่มให้ คีรินเขายังพอรู้ว่ามาคาเฟ่มหาลัยบ่อย แต่คาเตอร์ที่ยืนทำหน้าเบื่อหน่ายนั้น ไม่รู้ว่าเคยกินกาแฟสักแก้วหรือเปล่าในชีวิตนี้
“กูไม่เอานะ”คาเตอร์พูดขึ้น พร้อมเดินไปนั่งหลบมุมตรงโต๊ะที่สามารถหลีกเลี่ยงสายตาของผู้หญิงเหล่านั้นได้