บทที่ 7 เด็กเส้น 2/2

1124 Words
“สนใจมาช่วยดูแลไหมล่ะ” เธอฉีกยิ้มหวานประดิษฐ์ส่งให้เขาพร้อมกับคำพูดแสนเชือดเฉือน “ไม่เอาของเก่า เคยได้แล้วเบื่อ” แบะปากคว่ำหลังพูดจบเหมือนนางร้ายในละคร แล้วก็ไม่รออยู่ให้โดนเขาเอาเรื่องที่ว่าเขาแก่ รีบวิ่งไปโรงอาหารเพราะตอนนี้กอบัวน่าจะรอเธอกินข้าวจนเป็นลมไปแล้ว “นี่...กลับมาเดี๋ยวนี้นะยายตัวแสบ อุตส่าห์ขายของไม่คิดจะซื้อเลยหรือไง” เธอจะรู้ไหมผู้ชายอย่างเขามีคนเข้ามาจีบตั้งเท่าไหร่ แต่เขาไม่สนใจเพราะรอใครบางคนนี่แหละ เขาถอดเสื้อกาวน์ วางพาดไว้ที่เก้าอี้ประจำตัว แล้วเดินไปทานข้าวที่โรงอาหาร โรงพยาบาลแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องสวัสดิการที่ดี แล้วโรงอาหารของเจ้าหน้าที่ก็มีอาหารฟรีทุกวัน และเป็นอาหารดี ๆ อีกด้วย “หูยย กอบัว ฉันต้องอ้วนตายแน่ ๆ ถ้ามาประจำที่นี่” ไลน์อาหารเป็นบุฟเฟต์แบบบริการตัวเอง อาหารถูกเสิร์ฟแบบสดใหม่กำลังร้อน ๆ แต่ละอย่างน่าทานเหมือนอาหารในร้านหรู “พูดเหมือนจะย้ายโรงพยาบาล” กอบัวหน้าง้ำเมื่อเพื่อนพูดอย่างนี้ เธอรอเมริษามาตั้งนานแล้ว บอกให้ย้ายตามมาก็ไม่ยอม ที่นี่เธอจึงไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทสมัยเรียนนัก “ฉันเด็กเส้นบัวก็รู้” เธอหรี่เสียงให้เบาลง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้มีคนเขม่นได้ง่าย ๆ เรื่องเส้นสายการทำงานในโรงพยาบาลนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ใครก็เอามาพูดได้ “จ้ะ...เส้นสามีเก่า” “เบาหน่อย ฉันไม่อยากให้ใครรู้” “สักวันก็ต้องรู้” “ฉันอยากพิสูจน์ว่าฉันก็เก่งเหมือนกันนะ หากมีคนรู้ว่าฉันเป็นอดีตภรรยา แล้วเรื่องซุบซิบจะขนาดไหนกัน” “เออ...นี่เมย์ ระวังหมออรินดาไว้ก็ดี หากให้ดีผู้มิตรไว้ เพราะเส้น ผอ.ปวิน” เธอเห็นสีหน้าไม่พอใจของหมอมาวินเมื่อเช้า จึงวิ่งแจ้นแอบไปสืบที่ฝ่ายบุคคลมา แล้วก็ได้รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง “จริงเหรอ แต่อดีตฉันออกตัวแรงมาก ฉันจะไม่โดนเขม่นจริงเหรอ” “สู้ ๆ นะฉันเป็นกำลังใจให้” เรื่องราวในแผนกกอบัวช่วยไม่ได้จริง คงต้องให้เธอเผชิญชะตาชีวิตด้วยตัวเอง มาวินที่เดินไปตักอาหารแล้วก็มาร่วมโต๊ะกับสองสาวที่นั่งกระซิบกระซาบกันอยู่สองคน เมื่อเขาลากเก้าอี้ออกเพื่อนั่ง สองสาวที่กำลังสุมหัวก็แยกจากกันทันที เปลี่ยนเป็นนั่งทานต่อ “คุยอะไรกันอยู่” เสียงมาวินถามแบบขอไปที เพราะท่าทางที่ดูพิรุธทั้งคู่ “ป่าวค่ะพี่วิน เราแค่ตกลงชวนกันไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสเลิศ เกรดพรีเมี่ยมที่เปิดใหม่ แล้วคุยกันว่าใครชอบกินเส้น ใครชอบเกาเหลา” กอบัวไหลยิ่งกว่าปลาไหลไฟฟ้ากล่าวออกไป พร้อมยกมือปาดเหงื่อกลัวเขาจะรู้ว่าแอบนินทาอยู่ “ไปเมื่อไหร่” เขาตักข้าวกินไปก็ถามไปด้วย “ไว้นัดกันตอนว่าง ๆ ค่ะ ตอนนี้เมย์เพิ่งเริ่มงานวันแรก คงต้องปรับตัวสักพัก” กอบัวรู้ว่ารุ่นพี่ตั้งใจถามเพื่ออยากติดสอยห้อยตามไปด้วย แต่เมื่อหันไปมองหน้าเพื่อนที่นั่งฝั่งเดียวกับเขา ก็รับรู้ได้ทันทีว่ายังไม่ต้องนัดกินอะไรตอนนี้ เธอกำลังหลบเขาอยู่ “อยากไปเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน” มาวินบอกเป็นนัย ๆ ว่าเขาจะไปด้วย “ได้เลยค่ะ” เมริษาทานอาหารด้วยความเงียบ ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก แล้วก็จบที่ยกจานไปเก็บแล้วไปหาอะไรอุ่น ๆ ดื่ม วันนี้ทำงานวันแรกก็แดงเดือด เธอหาช่องเข้าห้องน้ำตลอด เพราะเป็นประจำเดือนทีไรต้องปวดท้อง และที่ที่ทำให้เธอหายปวดคือห้องน้ำ เธอเลือกนมอุ่นดื่ม แล้วก็เดินเข้าไปที่ห้องทำงานเพื่อจัดการงานต่อ มาวินเข้าไปนอนพักที่โซฟาด้านข้างโต๊ะทำงาน สายตาเหลือบมองเธออยู่ตลอด ใบหน้าซีดเซียวนั้นทำให้เขาอดห่วงไม่ได้ ‘ใช้งานหนักไปเหรอวะ!’ เขาคิดอย่างสงสัย เพราะอยากอยู่ใกล้เธอจึงเรียกให้ทำโน้นทำนี่ตลอด เรียกได้ว่าตัวติดกันเลยทีเดียว เมื่อผ่านไปสักพัก เธอก็ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ และเมื่อนั่งอยู่ในนั้นสักพักอาการปวดท้องก็ดีขึ้น เธอเผลอพิงผนังห้องน้ำ แล้วก็หลับไป มาวินลุกขึ้นมานั่งทำงานนานแล้ว แต่ไม่เห็นร่างที่นั่งตรงหน้าเขาเลย เขามองซ้ายมองขวาแล้วก็ไม่เจอ จนต้องออกไปตาม “เห็นหมอเมย์บ้างไหม” เขาถามพยาบาลที่อยู่หน้าแผนก “เห็นเดินเข้าไปห้องน้ำล่าสุด แต่นานแล้วนะ” พยาบาลที่ทำหน้าที่ตรงส่วนกลางบอก บ้าชิบ! มาวินสบถลั่น หวังว่าไม่ได้เป็นลมอยู่ในห้องน้ำหรอกนะ “เมย์...เมย์...เมย์” เขาเรียกตั้งแต่อยู่ด้านหน้า เมื่อไม่เห็นเธอออกมา จึงเข้าไปพร้อมกับพยาบาลท่านอื่นอีกคน เขาไล่เปิดประตูจนเหลือประตูบานสุดท้ายที่ปิดอยู่ ปัง ปัง ปัง! “เมย์...อยู่ในนั้นหรือเปล่า เมย์” ไม่มีเสียงตอบรับ เขามองลอดไปด้านล่างแล้วก็เห็นว่าเป็นรองเท้าของเธอ “เมย์...เมย์” เขาถีบประตูเข้าไป และนั่นทำให้ร่างที่หลับไปแบบสนิทค่อย ๆ ตื่นขึ้น พรวด! ใบหน้าซีดเผือดตกใจ เมื่อเห็นว่ามีคนพังประตูเข้ามา “เป็นอะไรไป” ทั้งหมอมาวินและพยาบาลพากันตกใจเมื่อเห็นสีหน้าหมอเมย์ไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาเข้าไปพยุงร่างของเธอออกจากห้องน้ำ แล้วพาไปห้องตรวจทันที ทั้งจัดแจงตรวจร่างกายเองโดยไม่ให้หมอคนอื่นทำ “อาจารย์คะ ไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะ” เธอหน้าเสียมากที่ทำให้หลายคนเป็นห่วง ทั้งหมอชวกรและหมอคณิณก็มาด้วย สองหนุ่มเป็นคนที่สนิทสนมกันตั้งแต่ไปร่วมซะตากรรมที่ตุรกี “เป็นลมในห้องน้ำขนาดนั้นไม่เป็นอะไรได้ยังไง” เขาจิ้มเข็มแทงจิ๊กเข้าที่แขนของเธอ ส่งตัวอย่างเลือดใส่หลอดให้ชวกรนำไปตรวจ ส่วนตัวต้นเหตุจะบอกยังไงดีว่าแค่มีประจำเดือน แต่มันมากไปหน่อยแค่นั้นเอง สองสามเดือนนี้เธอมีอาการแปลก ๆ เกี่ยวกับประจำเดือน มาขาดบ้าง มาเกินบ้าง จนไม่รู้ว่ารอบเดือนตัวเองวันที่เท่าไหร่แล้ว จึงยังไม่ได้ตรวจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD