อยากได้...คุณ
บทที่ 1
อยากได้...คุณ
“สวัสดีค่ะ ลูกค้ามีโต๊ะหรือยังคะ” เสียงหวานใสของพีอาร์สาวสวยดังขึ้นเมื่อรุ้งตะวันเดินมาถึงประตูทางเข้าสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านทองหล่อ หญิงสาวยิ้มและส่ายหน้าพร้อมกับส่งบัตรประชาชนให้การ์ดหน้าร้านตรวจอายุ
“ตอนนี้ที่ร้านของเราโต๊ะเต็มแล้วนะคะ” พีอาร์คนเดิมบอก
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่แวะมาหาเพื่อนแป๊บเดียว” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ก่อนที่เรือนร่างอรชรบนรองส้นเข็มสูงสี่นิ้วจะเดินเข้าไปข้างใน ใบหน้าสวยเชิดขึ้นนิด ๆ เรียกความมั่นใจ เมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกจ้องอย่างเปิดเผยจากผู้ชายที่นั่งดื่มอยู่ในร้าน
ครั้นเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์บาร์และทำการสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อเสร็จ ดวงตาเฉี่ยวคมจากการกรีดอายไลเนอร์ก็กวาดมองไปรอบ ๆ เพื่อหาเป้าหมายที่ทำให้ใจเธอร้อนลุ่มจนต้องรีบแต่งตัวและถ่อมาถึงที่นี่ในเวลาเกือบเที่ยงคืนเช่นนี้
“ได้แล้วครับคนสวย” บาร์เทนเดอร์สุดหล่อเสิร์ฟเครื่องดื่มพร้อมส่งสายตาให้อย่างเจ้าชู้ ทว่ารุ้งตะวันไม่ได้สนใจเพราะตอนนี้เธอกำลังรู้สึกร้อนเป็นไฟ กับภาพชายหนุ่มที่เธอคุ้นเคยกำลังจูบนัวเนียอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเมามัน
เธอจะไม่เดือดขนาดนี้เลย ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่แฟนของเธอ!
หญิงสาวกระดกเตกีลาโรสดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วด้วยความช้ำในอก สายตายังจ้องมองภาพนั้นด้วยความเจ็บปวด แต่ที่น่าแปลกคือน้ำตาที่ควรจะหลั่งรินออกมาเป็นสายน้ำ ทว่าบัดนี้กลับไม่ไหลออกมาเลยสักหยด
อาจเป็นเพราะเธอเจอเรื่องบัดซบแบบนี้จนชินชาไปแล้วกระมัง
มือบางยกเหล้าขึ้นมากระดกไม่ขาด เครื่องดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าถูกยกมาเสิร์ฟตามเวลาที่ไหลผ่านไปเรื่อย ๆ ดวงตาเรียวรีของรุ้งตะวันยังจ้องเขม็งอยู่ที่ชายชั่วกับหญิงเลว มองภาพความโสมมนั้นให้สาแก่ใจ หลังจากวันนี้เธอจะไม่ทนเป็นผู้หญิงหน้าโง่ที่โดนแฟนสวมเขาอีกต่อไป
“เท่าไหร่” ครั้นเริ่มรู้สึกกรึ่มเมาได้ที่ ร่างบางก็หันกลับไปเคลียร์ค่าเสียหายพร้อมเปิดกระเป๋าถือใบเล็ก แล้วหยิบบัตรเดบิตที่เพิ่งมีเงินเดือนเข้ายื่นไปให้
ทว่าพนักงานที่เคลียร์บิลหน้าเคาน์เตอร์กลับยกมือปฏิเสธ ก่อนจะผายไปยังเจ้าของร่างสูงที่นั่งบนเก้าอี้สตูลทรงสูงข้าง ๆ เธอ “คุณผู้ชายคนนี้จ่ายให้แล้วครับ”
รุ้งตะวันหันไปมองพลางขมวดคิ้วเข้าหากันนิด ๆ มองใบหน้าคร้ามคมของคนตรงหน้าผ่านความมืดสลัวด้วยความไม่ไว้ใจในเจตนา เธอยืนอยู่ตรงนี้ประมาณสี่สิบนาทีกว่าได้ ทว่ากลับไม่ได้สนใจสิ่งรอบกายเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้าง ๆ มีหนุ่มหล่อแต่งตัวดีนั่งมองตนอยู่
“ผมเจครับ” วริศยิ้มมุมปาก มองร่างบางในชุดเดรสสายเดี่ยวรัดรูปสีดำอวดสัดส่วนด้วยแววตาที่ฉายความปรารถนาออกมาอย่างชัดเจน เลื่อนแก้วเตกีลาที่เธอสั่งดื่มรัว ๆ ไปตรงหน้า ก่อนจะชูแก้วออนเดอะร็อกของตัวเองออกไปขอชนเพื่อหวังจะสานความสัมพันธ์ในคืนนี้
เขาเห็นหญิงสาวตั้งแต่เธอเดินเข้ามา กระทั่งมายืนข้าง ๆ แล้วสั่งเหล้าดีกรีแรงดื่มรัว ๆ โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างหรือสายตาผู้ชายคนไหนที่มองเรือนร่างและสะโพกกลมกลึงด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย เอาแต่จ้องเขม็งไปที่โต๊ะหน้าเวทีซึ่งมีชายหญิงคู่หนึ่งยืนเต้นคลอเคลียกันอยู่
เพียงแค่นี้ก็ทำให้หนุ่มมากประสบการณ์อย่างวริศเข้าใจสถานการณ์ได้ไม่ยาก
ด้านรุ้งตะวันที่ได้สบกับนัยน์ตาสีเข้มซึ่งดูมากเล่ห์คู่นั้น ก็รู้สึกเหมือนโดนอะไรสักอย่างสะกดไม่ให้ละสายตาหนีไปไหน หัวใจที่มืดดำเพราะความโกรธก็เกิดสั่นไหวรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวนึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะรีบปรับให้กลับมาเป็นปกติ แล้วถามเขาออกไปตรง ๆ
“คุณเลี้ยงเหล้าฉันทำไม”
“อยากได้…คุณ” วริศบอกจุดประสงค์ของตัวเองออกไปอย่างชัดเจนไม่ปิดบัง เขามีประสบการณ์ในเรื่องแบบนี้มามากพอสมควร และไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องอ้อมค้อม หากอีกฝ่ายปฏิเสธ ทุกอย่างก็คือจบ
“งั้นก็เสียใจด้วยนะคะ เพราะคุณคงไม่ได้” พูดจบ ใบหน้าสวยเฉี่ยวของรุ้งตะวันก็หันไปถามราคาเครื่องดื่มของตนกับพนักงาน ครั้นได้คำตอบ เธอก็หันกลับมาพูดกับเขาอีกครั้ง “ขอเลขบัญชีด้วยค่ะ จะโอนเงินคืน”
วริศอดรู้สึกเสียดายขึ้นมาไม่ได้ ยอมรับกับตัวเองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โคตรมีแรงดึงดูด ชายหนุ่มแอบสำรวจเรือนร่างอรชรตั้งแต่เธอเดินเข้ามา พลางจินตนาการไปด้วยว่าคงจะดีไม่น้อย หากคืนนี้เขาได้ยกขาเรียวบนรองเท้าส้นสูงสีแดงเพลิงนั่นขึ้นมาพาดบ่าหรือเกี่ยวรอบเอว รวมถึงสะโพกกลมกลึงที่เด้งไปมาตอนกระแทกกระทั้นเข้าหาจากด้านหลัง
อ่า...เพียงแค่คิด เขาก็ตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง รีบยกขาข้างขวาขึ้นมาทับข้างซ้าย นั่งไขว่ห้างเพื่อปิดบังความเป็นชายซึ่งกำลังผงาดขึ้นมาประจานผู้เป็นเจ้าของที่กำลังคิดอกุศล
“คิด ก่อนปฏิเสธ” ชายหนุ่มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวรีคู่สวย มันดูร้อนแรง ดื้อรั้นและพยศ ทำให้เขาเกิดความรู้สึกท้าทาย อยากได้เธอเป็นบ้า!
เพียงแค่ได้สบตา รุ้งตะวันก็รู้แล้วว่าเขาเป็นผู้ชายเพลย์บอยอย่างที่หาได้ทั่วไปตามสถานบันเทิงต่าง ๆ ทว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เพราะทันทีที่ได้สบกับนัยน์ตาสีเข้มซึ่งร้อนแรงดั่งเปลวไฟคู่นั้น และมีแวบหนึ่งที่เธอรู้สึก...อยากลองเล่นกับไฟ
“หรือคุณมีสิ่งที่อยากได้ เรามาทำข้อตกลงกันก่อนก็ได้นะ” ครั้นเห็นสาวเจ้ามีท่าทีลังเล วริศจึงรีบโน้มน้าวทันที ให้ตายเถอะ! ยิ่งมองเขาก็ยิ่งอยากได้ ยิ่งขยับเข้าใกล้กลิ่นกายสาวก็พานให้เขาใจสั่น
หญิงสาวคิดหนักเมื่อได้ยินข้อเสนอ เรียวปากอิ่มเบียดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างชั่งใจ ก่อนจะผินหน้าไปมองชายชั่วหญิงเลวที่ยังไม่ผละออกจากกัน มือบางกำเข้าหากันแน่น ความโกรธจัดและเจ็บแค้นที่ถูกสวมเขานับครั้งไม่ถ้วนทำให้รุ้งตะวันตัดสินใจวางความผิดชอบชั่วดีไว้ข้างหลัง วินาทีนี้เธอต้องเอาคืนให้สาแก่ใจ
“คุณรวยมากหรือเปล่า” เธอถามทั้งที่สายตายังจ้องไปยังเป้าหมาย ไม่สนแม้จะเป็นคำถามที่เสียมารยาท และไม่สนว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าตนเป็นผู้หญิงอย่างไร
วริศยกยิ้มมุมปาก พลางคิดในใจว่าผู้หญิงก็ซื้อได้ด้วยเงินเหมือนกันหมด “คุณอยากได้อะไรล่ะ ลองบอกผมมาสิ”
“ตอบฉันมาว่าคุณรวยมากแค่ไหน แล้วคืนนี้ฉันจะยอมนอนกับคุณ”
“ก็...รวยมาก”
“มากพอที่จะซื้อที่นี่ได้หรือเปล่า”
คราวนี้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยด้วยความสงสัย เริ่มไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าต้องการอะไรกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตอบไปอย่างโอ่ ๆ ในความรวยของตน
“อีกสิบที่ก็ซื้อได้สบาย ๆ”
“งั้นดีล คืนนี้ฉันจะนอนกับคุณ”
“แต่ว่า...เฮ้ย! เดี๋ยว ๆ คุณจะไปไหน”
วริศกำลังจะอธิบายต่อว่า ถึงเขาจะรวยมากถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐี แต่เขาก็ไม่บ้าซื้อของราคาเกินแปดหลักให้ผู้หญิงที่นอนด้วยเพียงคืนเดียวหรอกนะ ทว่าก็ไม่ทันได้พูดอะไร เมื่อจู่ ๆ เธอก็คว้าขวดวอดก้าราคาแพงจากมือบาร์เทนเดอร์ แล้วเดินลิ่วมุ่งหน้าไปยังโต๊ะหน้าเวทีโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเขาเลยสักนิด
ชายหนุ่มมองตามร่างบางด้วยความอึ้งระคนงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังไม่ทันได้ดึงสติ วริศก็ถูกบาร์เทนเดอร์ที่สนิทกันผลักไหล่ พร้อมพยักพเยิดหน้าไปยังเจ้าของร่างอรชรแล้วบอกให้เขารีบตามไปห้าม
“รีบตามไปสิวะ”
คนที่ยืนนิ่งรีบสลัดทุกความมึนงงออกไป แล้วรีบเดินฝ่าผู้คนที่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนานตามหลังหญิงสาวไปให้เร็วที่สุด ด้วยรู้ว่าอีกไม่ถึงหนึ่งนาทีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น มือหนายื่นออกไปหมายจะคว้ามือเล็กที่กำคอขวดแก้วซึ่งกำลังง้างขึ้น หากก็คว้าได้เพียงแค่อากาศ เพราะเธอฟาดขวดลงกลางศีรษะของผู้ชายคนหนึ่งไปเสียก่อน
เขาช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
ขณะที่สถานการณ์ในผับกำลังชุลมุน ผู้คนหวีดร้อง วิ่งหนี เพราะหวาดกลัวกับภาพที่เห็น วริศได้แต่ยืนนิ่งมองร่างเพรียวระหงซึ่งกำลังชี้หน้ารัวด่า พ่นคำหยาบสารพัดใส่ชายหญิงคู่นั้นด้วยความรู้สึกที่อึ้งกว่าเดิม
บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ออก จะบอกว่ากลัวก็ไม่ใช่ ตกใจในความเลือดเย็นก็ไม่เชิง น่าจะเพราะเขารู้สึกทึ่งกับความใจเด็ดของเธอมากกว่า ในชีวิตเขาไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อนเลยจริง ๆ
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะ!