“ฮือ...แม่จ๋า...อย่าทิ้งหนูไปเลยนะ แม่อยู่กับหนูก่อน หนูสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดีนะแม่นะ แม่อย่าทิ้งหนูเลยนะ หนูขอร้อง”
กัญญาดาจดจำถ้อยคำสุดท้ายที่เธอเคยอ้อนวอนกับมารดาได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ท่านจะผลักเธอออกแล้วก้าวขึ้นรถตู้สีดำคันนั้นไป
แล้วท่านก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย...
นับจากวันนั้นเธอก็ได้เจอกับผู้หญิงมากหน้าหลายตาของพ่อที่แวะเวียนมาปรนเปรอสวาทให้กับเจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อดังคนนี้คนที่ใครๆ ต่างก็เรียกเขาว่า ‘เสี่ยก้อง’
หญิงสาวก้มลงมองรูปถ่ายของมารดาใบเดียวที่เธอแอบเก็บไว้ เป็นรูปที่มีเธอ มารดาและบิดาโอบกอดกันด้วยความรักใคร่ ซึ่งตอนนั้นเธออายุเพียงแค่ห้าขวบเท่านั้น
แต่เมื่อถึงวันเกิดปีที่หก มารดาก็ทิ้งเธอไปอย่างเลือดเย็นที่สุด ท่านไป...ในตอนที่เธอกำลังจะเป่าเค้ก นับแต่นั้นมาเธอก็ไม่เคยฉลองวันเกิดอีกเลย ส่วนบิดาก็เอาแต่ทำตัวเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอมและเลี้ยงเธอด้วยเงินมาตลอด
และการที่ไม่มีมารดาคอยดูแล รวมถึงการต้องอยู่ท่ามกลางช่างซ่อมรถมากมายทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกแข็งกระด้าง พูดจาห่ามๆ และไม่เคยกลัวใครมาตลอด
แล้วผู้หญิงแบบเธอจะเป็นแม่ที่ดีให้กับลูกได้หรือเปล่านะ?
“เชิญหมายเลข D20 รับยาที่ช่องห้าค่ะ”
กัญญาดาเงยหน้าขึ้นมองหน้าจอมอนิเตอร์แล้วก้มลงมองบัตรคิวในมือให้แน่ใจ ก่อนจะเดินไปที่ช่องห้าตามเสียงที่ได้ยิน
“สวัสดีค่ะ คนไข้ชื่อคุณกัญญาดา นามสกุลอะไรนะคะ”
“กัญญาดา เจริญรักษ์ ค่ะ”
“โอเคค่ะ วันนี้คุณหมอจัดยาบำรุงครรภ์มาให้สามอย่างนะคะ อย่างแรกเป็น...”
หญิงสาวตั้งใจฟังที่เภสัชกรพูดจนครบทั้งหมด ก่อนจะรับยาแล้วออกเดินทางจากโรงพยาบาล
เมื่อขึ้นมาถึงรถ BMW สีดำขลับ หญิงสาวก็วางยาไว้ข้างๆ เบาะ ก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาแล้วมองหน้าจออย่างลังเลใจ
เธอควรบอกเขาดีไหมนะ?
คำถามนี้ผุดขึ้นมาในใจตั้งแต่รู้ผลตรวจว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้สิบสัปดาห์แล้ว แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน และคนที่โทรมาก็คือเขาคนนั้น...
(“ไง”)
(“แหม ทักทายผัวให้มันเพราะๆ กว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอเมียจ๋า”)
(“มีอะไรก็รีบพูดมา กำลังขับรถอยู่”) เธอตอบเสียงห้วนกลับไป ทั้งที่ในใจกำลังประหม่าไปหมด
(“ไม่มีอะไร แค่จะบอกว่าเย็นนี้จะไปหา มีเรื่องปรึกษาน่ะ”)
(“ปรึกษาอะไร”)
(“ก็บอกว่าตอนเย็นจะไปหาไง”)
(“พูดมาตอนนี้เลย เย็นนี้ไม่ว่างมีนัดแล้ว”)
(“นัดกับใคร?”)
(“ไม่ใช่เรื่องที่นายต้องรู้ สรุปจะปรึกษาอะไรก็ว่ามา”)
(“ไหนว่าขับรถอยู่”)
(“ก็พอคุยได้ แต่ต้องรีบคุยหน่อยนะ เพราะว่า...”)
(“พ่อบอกว่าจะให้ฤทธิ์หมั้นกับน้องเอยเดือนหน้า”)
กัญญาดายอมรับว่าเธอตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่เพราะรู้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขาจะจบลงแบบไหน เธอจึงไม่มีเวลาให้มานั่งคร่ำครวญอะไรทั้งนั้น
(“อ้อ”)
(“อะไร? แค่เนี้ยเหรอ”)
(“ดีใจด้วยนะ”)
(“ดีใจบ้าบออะไร ผัวเธอจะไปหมั้นกับคนอื่นนะ เธอไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”)
(“ระหว่างเราสองคนคำว่าผัวเมียมันไม่ได้สำคัญอะไรแต่แรกอยู่แล้ว เราตกลงกันแล้วนี่ว่าจะไม่ผูกมัดอีกฝ่าย อีกอย่างนะนายหมั้นกับน้องเค้าก็ดีแล้ว ฉันจะได้หาผู้ชายดีๆ มาคบเป็นตัวเป็นตนบ้างไงล่ะ”)
(“นี่เธอ...”)
(“หมั้นวันไหนก็บอกละกัน จะส่งดอกไม้ไปแสดงความยินดี แล้วช่วงนี้ถ้าไม่มีธุระสำคัญก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก สงสารว่าที่เมียในอนาคตของนายบ้างเถอะว่ะ ฉันเองก็ไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นชู้ของผัวใครเหมือนกัน แค่นี้นะ ขับรถต่อแล้ว”)
แล้วเธอก็กดวางสายไป พอเขาโทรมาอีกเธอก็ไม่คิดจะรับสายแม้แต่สายเดียวจนเสียงโทรศัพท์เงียบไปนาน
กัญญาดาหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วก้มลงมองที่หน้าท้องของตัวเอง
“ช่างเถอะ ไม่ต้องให้รู้เลยดีกว่า ลูกคนเดียวคนอย่างไอ้กุ้งเลี้ยงได้สบายมาก เด็กดีของแม่ แม่จะเลี้ยงหนูให้มีความสุขที่สุด แม่จะไม่มีวันทิ้งหนูไปเด็ดขาดเลยนะ”
วิศวกรสาววางโทรศัพท์ไว้บนเบาะข้างกับถุงยาก่อนจะไล้ฝ่ามือกับหน้าท้องที่ยังดูไม่ออกว่าเธอกำลังการตั้งครรภ์อยู่ จากนั้นก็ขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วบอกตัวเองไปตลอดทางว่า ‘ไม่เป็นไร’
แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมน้ำตามันถึงได้ไหลออกมาตลอดเวลา…
หลังจากเลิกงานแล้ว เธอก็แวะไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งและมุ่งหน้าไปยังร้านหนังสือที่แผนกแม่และเด็ก หญิงสาวเลือกเอาหนังสือเกี่ยวกับวิธีดูแลตัวเองในช่วงตั้งครรภ์มาหลายต่อหลายเล่ม พร้อมกับหนังสือการตั้งชื่อลูก จากนั้นเธอก็ไปซื้อของใช้อีกหลายอย่างที่แผนกซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนจะเดินทางกลับคอนโดที่พักในเวลาเกือบสามทุ่ม
แต่แล้วสองเท้าของเธอก็ต้องชะงักเมื่อก้าวออกมาจากลิฟต์แล้วพบว่า ‘พ่อของลูก’ ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนั้น
“ไปไหนมา ทำไมช้าจัง ฉันมายืนรอเธอจนขาแข็งแล้วเนี่ย”
วฤทธิ์เดินเข้ามาหาก่อนจะมองถุงที่เธอหิ้วอยู่ แต่พอเขายื่นมือมาเพื่อจะช่วยหิ้ว เธอก็บิดถุงหนีเพราะกลัวเขาจะเห็นของด้านใน
“ก็บอกแล้วว่ามีนัด แล้วมาทำอะไร”
“ก็จะมาคุยกับเธอให้รู้เรื่องไง”
“มีเรื่องอะไรต้องคุยอีก หรือจะเอาการ์ดงานหมั้นมาให้”