คณะบริหาร
"เดินผ่านทุกวัน ไม่เคยเห็นว่าเขาจะสนใจเลย พรุ่งนี้กูไม่ไปแล้วนะ เบื่ออีตานั่น แซวอยู่ได้"
คาเทียร์บ่นพึมพำ เธอไม่ชอบผู้ชายเรียนวิศวะเลย ถึงพ่อเธอจะเป็นศิษย์เก่ามาก่อนก็เถอะ ผู้ชายท่าทางเถื่อน ๆ พวกนั้น ไม่พ้นนิสัยก็คงเถื่อนไม่ต่างกัน
"มึงก็นะมิลลิ ไปชอบพี่เขาได้ยังไง กูยังไม่เห็นเคยยิ้มให้มึงเลย แถมยังนั่งก้มหน้าอีกต่างหาก ทำราวกับไม่สนใจผู้หญิงงั้นแหละ หยิ่ง ๆ แบบนี้ มีไรให้ชอบหนักหนา"
"พี่เขาหล่อนะ มึงเห็นหรือเปล่า สาว ๆ มองเขาเต็มเลย แต่เขาไม่เห็นเคยสนใจใคร กูอยากเป็นคนนั้น คนที่เขายิ้มให้กูอย่างเต็มใจ"
คาเทียร์และปลายฝนหันมองหน้า อย่างรู้กันว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนแบบไหน อยากได้อะไรต้องได้ ถึงจะไม่ได้เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นคนมุ่งมั่น
"อย่าให้พี่โซลกันพี่ฟรินท์รู้แล้วกัน กูสองคนไม่ช่วยนะ ตีนพี่มึงยิ่งหนัก ๆ อยู่ด้วย"
ปลายฝนทำท่าขยาดขนลุก เพราะพี่ชายของมิลลิ เป็นประเภทหวงน้องสาวมาก
"แต่ว่านะ พี่เขาเรียนปีเดียวกันกับพี่โซลนิ เขารู้จักกันป่าวว่ะ"
"ไม่รู้...กูเคยเห็นเพื่อนพี่กูหมดทุกคน ไม่เคยเห็นพี่เขาเลย แต่ไม่กล้าถามหรอก"
"เห้ออ...หนุ่ม ๆ ตามจีบเป็นขบวนรถไฟ มึงกลับไปชอบคนที่ไม่แม้แต่จะแลหางตาใส่มึง"
เธอเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
ทำไงได้ก็เธอชอบเขาไปแล้ว ไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ เธอจะไปชอบเขาเสียหน่อย มันมีความประทับใจต่างหากที่ทำให้เธอรู้สึกอยากรู้จักเขามากกว่านี้
ย้อนไปตอนปีหนึ่ง เธอเพิ่งเข้าเรียนที่นี่ใหม่ ๆ วันนั้นเธอรีบไปเข้ารับน้อง ไม่ทันระวังเลยไปชนกับเพื่อนนักศึกษาจนเอกสารหลายฉบับปลิวว่อน แล้วเพื่อนคนนั้นก็ดูจะไม่พอใจเธอเอามาก ๆ นอกจากว่าสีหน้าท่าทางจะออกแล้ว คำพูดคำจาก็โทษเธอไม่หยุด ขนาดว่าเธอช่วยเก็บเอกสารพวกนั้นอยู่ตั้งนาน จนตัวเองต้องเข้ารับน้องสายถูกทำโทษอีกต่างหาก
แต่ทว่าระหว่างที่เธอกำลังช่วยคนที่เธอเดินชนเก็บเอกสาร รุ่นพี่คนนั้นก็เดินมาช่วยด้วย ถึงจะแสดงสีหน้าเย็นชา และไม่ได้พูดคุยอะไรกัน แต่เธอก็ลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา อย่างไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกที เธอก็รู้สึกอยากรู้จักพี่เขามากกว่านี้ ไม่ใช่แค่การที่เขามีน้ำใจมาช่วยเธอเก็บเอกสาร แต่เป็นเพราะว่าเธอน่าจะชอบพี่เขามากกว่า ถูกใจในรูปร่าง หน้าตา เหมือนกับผู้หญิงทั่ว ๆ ไป
"มิลลิ!!! หึ...นั่งเหม่ออีกแล้ว นี่มึงคิดถึงพี่เขาใช่ไหม"
"กูอยากรู้จักพี่เขา แค่เดินผ่านกูว่าไม่น่าจะพอ มีวิธีไหนอีกบ้างว่ะ ที่จะทำให้กูได้ใกล้ชิดพี่เขามากกว่านี้"
ปลายฝนกับคาเทียร์กรอกตามองบน อย่างเหนื่อยใจ ตอนนี้ความชอบของเพื่อนน่าจะเกินขีดจำกัดไปแล้ว
"จริงจัง?"
"ไม่จริงจังจะเดินผ่านลานเกียร์คณะวิศวะ ทำไมทุกวันว่ะ พวกมึงต้องช่วยกูด้วยนะ"
"เอางี้ไหม วันนี้เราไปกินข้าวเที่ยงคณะวิศวะกัน แบบนี้ดีหรือเปล่า"
"กูรักมึง"
มิลลิเดินเข้าไปอ้อนเพื่อนทั้งสองทันที ถูกใจที่เพื่อนคิดเหมือนมานั่งอยู่ในใจเธอ
บอกแล้วสองคนนี้ถึงจะชอบบ่นเธอ แต่คือสายซัพพอร์ตสุด ๆ เราสามคนไม่ใช่แค่เพื่อนกัน แต่พ่อแม่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำให้สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ขนาดเลือกคณะเรียน ยังเลือกคณะเดียวกันเลย
เมื่อตกลงกันได้ ก็เดินไปเข้าเรียนวิชาแรกตามปกติ จนถึงตอนเที่ยงที่นัดกันว่าจะไปกินข้าวคณะวิศวะ ก็รีบเก็บของแล้วเดินตรงไปโรงอาหารคณะวิศวะทันที แต่ทว่าพอมาถึง มิลลิกลับเพิ่งคิดได้ว่าบรรดาพี่ ๆ ของพวกเธอก็เรียนคณะนี้ด้วย
"แย่แล้ว พวกพี่โซลนี่หว่า พวกมึงทำไงดี"
มิลลิหันหลังทำหน้าตกใจ
"ไม่ทันแล้ว เดินกันมานู่นแล้ว"
ไม่ใช่แค่พี่ชายมิลลิที่เดินตรงมาทางนี้ แต่เป็นพี่ชายของพวกเธอทั้งสามคนเลย ที่เดินหน้าตาบูดบึ้งเข้ามาหา ที่หน้าตาเป็นแบบนั้นก็เพราะโดนสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เดินมาคณะนี้ เพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
บอกแล้วว่าเรียนที่นี่มาปีกว่า นี่คือครั้งแรกที่แหกกฏเดินมากินข้าวที่นี่ ถ้าไม่ใช่เพราะมิลลิ พวกเธอสองคนไม่เดินมาแน่
"มากันทำไม ที่คณะตัวเองไม่มีให้กินหรือไง"
เสียงทุ้มของโซลเอ่ยถามอย่างหาเรื่อง พร้อมใบหน้าหล่อที่หันมองรอบ ๆ โรงอาหารที่ตอนนี้ส่วนใหญ่หันมามองทางนี้กันเป็นตาเดียว
"ที่คณะ ไม่มีที่นั่งเลย"
นิ้วเรียวเล็กไขว้กันด้านหลัง เป็นสัญลักษณ์ว่าเธอโกหกผู้เป็นพี่ชาย
"ไอ้เตอร์ ไอ้กาย มึงว่าไง"
คาเตอร์ที่สายตาคมก็จ้องน้องสาวตาเขม็งเหมือนกับสกายที่เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่พอใจ ที่เห็นน้องสาวมาที่นี่
"ให้ไปนั่งกับพวกเราดีกว่า ให้นั่งกันเองมีหวังพวกแม่ง!!! ไม่เป็นอันกินข้าวแน่"
พวกแม่งที่ว่าก็คือสายตานับสิบ ๆ คู่ที่จ้องมองน้องสาวของพวกเขาอยู่
สรุปสามสาวก็ต้องเดินตามผู้เป็นพี่ชายเข้าไปนั่งโต๊ะเดียวกัน ถึงจะผิดแผนที่มาไปหน่อย แต่มิลลิก็แอบเห็นรุ่นพี่คนนั้น นั่งกินข้าวอยู่ที่นี่เหมือนกัน โดยเธอก็ส่งสายตาไปมองอย่างจงใจให้เขารู้ และคราวนี้ดูเหมือนว่าเขาจะมองเธออยู่เหมือนกัน
"เห้ย!!! กลุ่มน้องคนสวยนี่หว่า"
ตะวันที่ตาไวยิ่งกว่าอะไร เรื่องสาว ๆ เขาไม่เคยปล่อยให้คลาดสายตาไปได้
"เออ...ทำไมมากับไอ้พวกนั้นว่ะ ไม่ใช่ว่าเป็นเด็กของพวกมันอีกนะเว้ย"
"แม่ง!!! มันกะเก็บหมดทั้งมหาลัยเลยหรือไงว่ะ กูมองมาตั้งนาน ไม่เห็นเคยยิ้มให้กูแบบนั้นบ้างเลย"
ยีนส์นิ่งฟังบทสนทนาของเพื่อนสองคน ถึงจะทำเป็นไม่สนใจ แต่เมื่อเห็นผู้หญิงคนที่เพื่อนบอกว่าชอบมองเขา มากับคู่แค้นคนสำคัญ ก็มีความคิดร้าย ๆ ผุดขึ้นมาในหัว
ที่จริงผู้หญิงที่อดีตเพื่อนรักเขาควงก็มีเยอะอย่างเพื่อนเขาว่าจริง แต่ไม่รู้ทำไมพอเป็นผู้หญิงคนนี้เขาเกิดสนใจขึ้นมา หรือเป็นเพราะดวงตากลมโตที่ลอบมองเขาอยู่ตลอด ขนาดตอนนี้เรานั่งตรงกันด้วยความบังเอิญ ถึงจะมีโต๊ะขั้นกลางหลายโต๊ะ แต่ก็บังเอิญอีกนั่นแหละ ที่เราสามารถสบตากันได้ เพราะตรงที่เรานั่งเป็นช่องว่างให้เรามองเห็นกัน
รอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นมา ถึงจะเป็นเพียงแวบเดียว แต่คนช่างสังเกตุอย่างคีรินที่นั่งข้างกัน ก็เห็นอาการของเพื่อน เขาใช้สายตามองตามสายตาของยีนส์มองตรงไป ก็เจอกับเจ้าของดวงตากลมโต ที่นั่งส่งยิ้มเขินให้เพื่อนของเขา
"มึงคงไม่คิดจะทำอะไรใช่ไหม ไอ้ยีนส์"
คีรินถามเสียงกระซิบ ยีนส์หันมาสบตาเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
"อย่าทำอะไรคนที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของมึงเลย ผู้หญิงคนนั้นดูจะชอบมึงนะ"
"หึ ก็เหมือนที่จูเน่ชอบมันตอนนั้นไง"
คีรินถอนหายใจ เห็นที่เรื่องเมื่อสองปีก่อนจะย้อนกลับมาอีกแล้ว หลังจากนี้คงมีแต่ความยุ่งยากตามมา