ตื่นเต้นกับบทบาทใหม่

1395 Words
นลินนานอนพลิกตัวไปมาบนเตียงนุ่ม คืนนี้เป็นอีกคืนที่เธอข่มตาหลับไม่ลง ไม่ใช่เพราะความกังวลเหมือนเมื่อครั้งที่นอนผิดที่ผิดทาง แต่เป็นเพราะความตื่นเต้นกับบทบาทใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันพรุ่งนี้ แม้ที่ผ่านมาจะเรียนอย่างหนักและใช้เวลาฝึกงานอยู่หลายเดือน แต่มันก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างมาก การเป็นนักศึกษาฝึกงานกับการทำงานโดยไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของครูพี่เลี้ยงนั้นมันต่างกันอย่างลิบลับ หญิงสาวพยายามทำสมาธิให้ตัวเองสงบลงแต่นั้นก็เป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเวลาตีห้านลินนาดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันทีด้วยความตื่นเต้นกับการไปเริ่มงานวันแรก เธอเดินออกมาจากห้องนอน ตรงไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าซึ่งปกติแล้วคนที่เตรียมอาหารจะเป็นป้าสุรีย์เสียมากกว่า แต่วันนี้นลินนาอยากจะแบ่งเบาภาระและแสดงความพร้อมสำหรับการเป็นผู้ใหญ่ เมื่อป้าของเธอตื่นนอนมาในอีกชั่วโมงต่อมา ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นอาหารทุกอย่างพร้อมอยู่บนโต๊ะแล้ว ทั้งข้าวสวยร้อนๆ และกับข้าวอีกหลายอย่างที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยลิน ทำไมอาหารเสร็จเร็วแบบนี้ล่ะ” ป้าสุรีย์ถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย “ก็ลินตื่นเต้นดีค่ะป้าสุ ก็เลยตื่นมาทำกับข้าวตั้งแต่เช้า” นลินนาตอบพลางยิ้มกว้าง แม้ใบหน้าจะดูอิดโรยเล็กน้อยจากการนอนไม่พอแต่ก็เต็มใจที่จะทำอาหารเช้านี้ “แล้วเมื่อคืนนอนหลับหรือเปล่า ป้าว่าเช้านี้หนูดูไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่” ป้าสุรีย์เดินเข้ามาใกล้แล้วลูบผมหลานสาวเบาๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย “ลินหลับไปได้ไม่นานค่ะป้า มันกังวลมากเลยค่ะ วันนี้เป็นวันแรกด้วย ลินไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานจะเป็นยังไงบ้าง จะเจอปัญหาอะไรที่ไม่เคยเรียนมาหรือเปล่า” นลินนาพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคู่สวยฉายแววไม่มั่นใจ “ไม่ต้องกลัวนะลิน การไปทำงานแรกๆ จะมีรุ่นพี่คอยให้คำแนะนำอยู่แล้วแหละหนู ไม่ต้องกังวลไปเลย” ป้าสุรีย์ปลอบโยนอย่างอ่อนโยน พลางจับมือหลานสาวเบาๆ “ป้าคะ ถ้าเกิดรุ่นพี่เขาไม่ช่วยให้คำแนะนำลินจะทำยังไง” เธอเงยหน้าขึ้นมองป้าสุรีย์แล้วด้วยความไม่แน่ใจ “คนในแผนกเดียวกันยังไงก็ต้องได้ให้คำแนะนำจ้ะ เพราะยิ่งลินทำงานเป็นเร็วเท่าไหร่ เพื่อนร่วมงานก็จะเหนื่อยน้อยลง ลินอย่ากังวลเลยนะ ป้าว่าตอนนี้หนูไปอาบน้ำให้สดชื่นแล้วแต่งหน้าแต่งตาสักหน่อยนะ แล้วค่อยออกมากินข้าวดีไหม” ป้าสุรีย์พูดพร้อมรอยยิ้มอุ่นใจ พยายามคลายความกังวลให้หลานสาว “ค่ะป้า แล้วตอนนี้ป้าสุหิวหรือยังคะ” นลินนายิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของป้า เธอถามด้วยน้ำเสียงกังวลว่าป้าจะรอนาน “ป้ายังไม่หิวหรอกจ้ะ กะว่าจะออกไปรดน้ำต้นไม้สักหน่อย ไหนๆ ก็ไม่ต้องทำกับข้าวแล้วนี่” ป้าสุรีย์ตอบอย่างอารมณ์ดี “ถ้างั้นลินขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะป้า” “ได้จ้ะ อีกครึ่งชั่วโมงค่อยมากินข้าวพร้อมกันนะ” ป้าสุรีย์บอกพลางส่งยิ้มให้ “ค่ะ” นลินนาตอบรับเสียงใส ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากขึ้น หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ใบหน้าสวยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบบอ่อนๆ ริมฝีปากบางทาลิปสติกสีชมพูนู้ด ปัดมาสคาร่าเล็กน้อยเสริมให้ดวงตากลมโตดูน่าค้นหายิ่งขึ้น ผมยาวถูกมัดรวบเป็นหางม้าแล้วผูกโบว์สีขาวเสริมให้ดูดียิ่งขึ้น เธอเลือกสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวไว้ด้านในและสวมทับด้วยสูทพอดีตัวสีดำสนิท คู่กับกระโปรงทรงสอบสีน้ำตาลเข้ม ชุดทำงานที่ดูสุภาพแต่ก็แฝงไปด้วยความคล่องตัว นลินนาหมุนตัวอยู่หน้ากระจกหลายรอบเพื่อสำรวจความเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องด้วยรอยยิ้มมั่นใจ “วันนี้หลานสาวของป้าสวยมากเลย” “ขอบคุณค่ะป้า” “ไม่น่าเชื่อเลยนะจากเด็กน้อยจะกลายเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานแล้ว ป้าภูมิใจในตัวลินมากเลยนะ” ป้าสุรีย์เอ่ยชมด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ เธอมองหลานสาวด้วยความรักใคร่ “ถ้าลินไม่ได้ป้าสุส่งเสียให้เรียนก็คงแย่” นลินนายิ้มเขินเล็กน้อยและพูดด้วยความซาบซึ้งใจ “อย่าพูดอย่างนั้นสิลูก เงินที่ป้าเอามาส่งเสียหนูก็เป็นเงินของพ่อแม่หนูทั้งนั้นแหละ” ป้าสุรีย์พูดพลางลูบผมหลานเบาๆ น้ำเสียงอ่อนโยน “แต่ถ้าไม่มีป้าสุ ลินก็คงไม่มีวันนี้ ขอบคุณป้าสุมากนะคะที่คอยให้กำลังใจและช่วยลินจนเรียนจบ ลินสัญญาค่ะ ถ้าลินได้เงินเดือนเยอะๆ เมื่อไหร่ ลินจะให้ป้าลาออกจากงานแล้วมาอยู่บ้านเฉยๆ” เธอพูดอย่างหนักแน่น ดวงตาเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่น “ถ้าป้าลาออกแล้วป้าจะไปทำงานอะไรล่ะลูก งานที่ป้าทำมันไม่ได้หนักหนาอะไรเลย และป้าก็ทำมานานเกือบยี่สิบปีแล้วนะ” “แต่ลินอยากให้ป้าได้พักบ้าง ป้าเหนื่อยมามากแล้วนะคะ” นลินนาพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย “เอาเป็นว่าถ้าป้าทำงานไม่ไหวจริงๆ ป้าจะอยู่บ้านเฉยๆ ปลูกต้นไม้ปลูกดอกไม้ให้ลินเป็นคนหาเลี้ยงดีไหมล่ะ” ป้าสุรีย์เสนอทางออกด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยความสุขที่ได้เห็นหลานเติบโต “ลินยินดีที่จะดูแลป้าสุค่ะ แต่วันนี้ป้าสุคงต้องไปทำงานก่อนนะคะ เพราะเงินเดือนลินยังไม่ออกเลย” นลินนาพูดติดตลก “นั่นสิป้าลืมไปเลย แล้วเดือนนี้ป้าคงต้องเพิ่มเงินเดือนให้หนูแล้วแหละ” ป้าสุรีย์เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าค่าใช้จ่ายของหลานสาวจะต้องมากขึ้นกว่าตอนไปเรียน “ไม่ต้องเพิ่มหรอกค่ะป้า เงินเก็บหนูยังพอมีอยู่” นลินนารีบปฏิเสธ “ได้ยังไงล่ะหนู ไปทำงานต้องนั่งรถไฟฟ้าไปตั้งหลายสถานี ไหนจะต้องมีค่าอาหารกลางวันอีก” “แค่ข้าวกลางวันคงไม่ต้องให้เพิ่มหรอกค่ะป้า” นลินนากล่าวอย่างเกรงใจ “บริษัทกลางใจเมืองแบบนั้นราคาอาหารไม่เหมือนในมหาวิทยาลัยนะ เดี๋ยวป้าจะโอนค่าใช้จ่ายเพิ่มให้ก็แล้วกันนะ” ป้าสุรีย์พูดอย่างใจดีไม่ยอมให้หลานปฏิเสธ “ก็ได้ค่ะป้า ลินจะใช้อย่างประหยัดนะคะ” ป้ากับหลานนั่งทานอาหารเช้าเสร็จก็ช่วยกันล้างจาน จากนั้นนลินนาก็นั่งรถของคุณป้ามาลงที่สถานีรถไฟฟ้า เธอโบกมือลาป้าด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนจะเดินขึ้นไปบนสู่สถานีรถไฟฟ้า เธอรู้สึกตื่นเต้นและพร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิต เธอใช้เวลาบนรถไฟฟ้าประมาณครึ่งชั่วโมง มองออกไปนอกหน้าต่าง ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า เมื่อมาถึงสถานีปลายทาง เธอก็เดินมุ่งหน้าไปยังบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ทันทีที่ก้าวเข้าสู่โถงตึกกระจกขนาดใหญ่ นลินนาก็รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และเป็นมืออาชีพของสถานที่แห่งนี้ เธอไปรายงานตัวที่แผนกบุคคลที่ชั้น 15 ตามที่ได้รับแจ้งไว้ พนักงานต้อนรับยิ้มแย้มและให้คำแนะนำอย่างดี หลังจากจัดการเรื่องเอกสารเรียบร้อย นลินนาก็ได้รับบัตรพนักงานและคำแนะนำให้ตรงไปยังแผนกจัดซื้อที่ชั้น 12 ทันที หัวใจของนลินนาเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง นี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตการทำงานอย่างเป็นทางการของเธอ เธอไม่รู้ว่าอะไรกำลังรอเธออยู่บ้าง แต่เธอก็พร้อมที่จะเรียนรู้และเติบโตในเส้นทางสายอาชีพนี้อย่างเต็มที่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD