ตอนที่ 6
มาเฟียไซเบอร์
ราเชนท์ โชติวัฒน์ ตัวร้ายของเรื่องผู้เป็น มาเฟียไซเบอร์
ถึงแม้ มะลิ จะเกริ่นไว้แบบนั้นว่าตัวร้ายของเราเป็นมาเฟียสุดโหดดิบเถื่อน แต่ต้องบอกคุณผู้อ่านไว้ก่อนนะ ว่านี่ไม่ใช่นิยายบู๊ล้างผลาญ ชักปืนยิงกันใส้แตก เผากระท่อมระเบิดกองฟางแบบหนังอาฉลองช่องเจ็ดหรอกนะ
ก็บอกแล้วไงว่านิยายเรื่อง เมียจำยอมของมาเฟียคลั่งรัก
เป็น นิยายรักโรมานซ์อีโรติกกึ่งโรแมนติก
เพราะฉะนั้น มะลิจะไม่สร้างสถานการณ์หรือเหตุการณ์ยิงกันใส้แตกมาให้เอฟซีหนักใจเด็ดขาด แค่ฉากที่นักเขียนดังให้พระเอกยิงตัวร้ายตายนั่นก็โหดพอแล้ว ถึงจะมีฉากเอ็นซีดุเดือดตามอีกหลายตอนก็เถอะ
ผู้อ่านที่เซ้นท์ซิทีฟอย่างเธอก็เศร้าอยู่แล้ว
ดังนั้น เมื่อมะลิหลุดเข้ามาในโลกนิยายนี้แล้ว เธอจะไม่ยอมให้มีใครตายเด็ดขาด นิยายรักมันควรจะมีแต่เรื่องราวโรแมนติกชวนฟินไม่ใช่รึ?
ดังนั้น เธอจะแต่งตัวให้สวยที่สุด สำหรับงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ เผื่อจะเจอหนุ่มหล่อๆในงาน เพราะทรีตเม้นท์ของนิยายเรื่องนี้มีแต่ฉากงานเลี้ยงหรูหราทั้งนั้น ไม่ใช่แนวผู้บ่าวไทบ้านนะเธอ!
ใส่เดรสรัดรูป กับขนพิงค์ซะหน่อย
“แต่งตัวอะไรของเธอ?”
คำทักของนางเอก ทำให้คิ้วเรียวของ มะลิ ย่นเข้าหากัน
“คะ?”
“นี่งานกาลาดินเน่อร์นะ ไม่ใช่ปาร์ตี้พี้ยาจะได้แต่งแบบนี้”
น้ำเสียงของ ช่อฟ้าคล้ายเย้ยหยัน เมื่อเหลือบมองชุดเดรสหนังรัดรูปของเธอ ไหนจะรองเท้าบูธข้อยาว และถุงน่องลายตาข่ายแสนเซ็กซี่อีก
ทำไงได้!! ในตู้เสื้อผ้า นังแบล็คโรเซ่ มีแต่ชุดแบบนี้
“สวยใช่มั้ยคะคุณฟ้า?”
เธอถามกลับ ขณะที่นางเอกคนสวยในชุดเดรสสีทองสง่าส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะสาวเท้าขึ้นรถมินิแวนคันหรูที่เปิดประตูไว้รออยู่แล้ว
“ทำไมไม่ใส่ชุดเดรสแขนดอกบัวที่ฉันให้”
นางเอกคงน่าจะหมายถึงชุดเดรสผ้าซีฟองบางเบาสีชมพูอ่อนหวาน ที่แขวนไว้อยู่มุมห้อง ซึ่งน่าจะเป็นชุดของนางเอกที่ใส่จนเบื่อแล้ว เลยยัดเยียดให้กับเด็กในบ้านแทน
“มิลลิใส่ไม่ได้ค่ะ ช่วงอกมันเล็กเกินไป ใส่แล้วอึดอัด”
จะบอกว่าหล่อนน่ะ นมเล็กแล้วก็แบนเกิน! ชุดเล็กแบบนั้นใครจะไปยัดใส่ลงได้
“เดินให้ห่างฉันหน่อยละกัน”
ช่อฟ้า เบือนหน้าไปอีกทาง เมื่อเห็นหน้าอกหน้าใจของอีกคนที่ใหญ่โตจนแทบจะล้นทะลักกับเดรสเกาะอกออกมา
อะไรจะใหญ่เกินตัว! จนน่าหมั่นใส้ขนาดนั้น
.
.
งานเลี้ยงเปิดตัว โสภาจิวเวอรี่ ในตอนค่ำจัดที่โรงแรมหรูในเครือของกลุ่มรัตนโสภา ที่กลุ่มนักธุรกิจแวดวงไฮโซมาร่วมกันอย่างคับคั่ง มะลิ สังเกตว่ามีคนของบริษัท TIT รักษาความปลอดภัยที่เป็นของ ภูมินทร์ พระเอกของเรื่องมาคอยระมัดระวังอยู่รอบงาน ทว่ากลับไม่เห็นแม่แต่เงาของพระเอกรูปหล่อแม้แต่น้อย ทั้งที่นี่เป็นงานของนางเอกแท้ๆ
ในฐานะผู้อ่านที่เป็นเอฟซีตัวยง ขอบอกว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก! ถึงจะธงดำ ธงแดง ธงเทา อย่างไง แต่งานสำคัญของนางเอกก็ควรจะมาไม่ใช่รึ?
ทว่าก็เหมือน ช่อฟ้า นางเอกของเราจะไม่แคร์สักเท่าใด เพราะมะลิสังเกตเห็นว่า หล่อนกรีดกรายอยู่ท่ามกลางแขกเหรื่อและเพื่อนฝูงและยิ้มหัวเราะด้วยสีหน้าระรื่น มะลิจึงเดินหลบมาห่างๆตามคำบัญชา เพื่อหาอะไรอร่อยๆที่เป็นอาหารบุฟเฟ่ต์กิน
พลันสายตาเธอก็หันไปเห็นร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีเทาเข้ม หน้าหล่อเหลาและผมสีเงินยวงนั้น แม้มองในระยะร้อยเมตรก็รู้ว่านั่นคือ ราเชนท์ โชติวัฒน์ มาเฟียไซเบอร์ตัวร้าย
ว่าแต่นี่งานของ กลุ่มรัตนโสภา ที่เป็นคู่หมั้นของพระเอก คู่อริของเขา ...เขามาได้ไง
แม้ใจจริงอยากจะเดินเข้าไปแสดงตัว แต่ มะลิ คิดว่าอย่าเพิ่งดีกว่า เพราะหลังจากเหตุการณ์ป่วนระบบในคืนนั้น เธอกับเขาก็มีเซ็กส์กันอย่างเร่าร้อน และเธอก็หายออกมาเลย ขืนเข้าไปตอนนี้ได้โดยตัวร้ายตบด้วยด้ามปืนแน่นอน
ดังนั้น หลบหน้าไว้ก่อนดีกว่า
ไว้โอกาสเหมาะๆ ค่อยเข้าไปอธิบายอย่างใจเย็นว่า ...ความจริงฉันหลุดมาจากอีกโลกหนึ่งนะเป็นลูกคู่ขนานของนาย และหวังว่าเธอคงจะไม่ถูกจับเข้าโรงพยาบาลบ้าก่อน
“ชอบดื่มไวน์แดงเหรอครับ?”
เสียงทักด้านหลัง ทำให้มะลิหันกลับไปมอง และเมื่อสบตากับร่างหนาของหนุ่มตาน้ำข้าวที่เหมือนจะเป็นลูกครึ่ง เธอก็ต้องกระพริบตาปริบๆ
ทำไมตัวละครเรื่องนี้ มีแต่คนหล่อๆหว่า!
“ผมเอริค ครับ เห็นคุณยืนดื่มไวน์คนเดียวนานแล้ว”
เอริค!! นี่มันตัวร้ายอีกคนที่จะมาเสริมกับทีมของพระเอกและสุดท้ายหักหลังพระเอก ก่อนจะหันไปหลอก ราเชนท์ ตัวร้ายหลักต่อนี่นา
ทำไมเขียนตัวร้ายแต่ละคน หล่อบาดใจแบบนี้
แล้ว มะลิ จะต้องทำอย่างไงดี!
“อ้อค่ะ มิลลิค่ะ”
แต่เมื่อตั้งใจไว้แล้วว่าต้องการให้นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก เพราะฉะนั้นจะมีคนมาเข่นฆ่าทำร้ายกันในขณะที่ แบล็คโรเซ่อย่างเธอยังปรากฏตัวอยู่ไม่ได้เด็ดขาด
เพราะฉะนั้นผูกมิตรไว้ก่อนดีกว่า
“เป็นชื่อที่เพราะมากเลยนะครับ คุณมิลลิเป็นคนของรัตนโสภาเหรอครับ ผมเห็นตอนเดินเข้ามาในงานคุณเข้ามากับคุณช่อฟ้า แล้วเห็นเดิมมาหลบมุมคนเดียวแบบนี้”
เอริค ถามต่อ ดวงตาคู่สีมรกตเป็นประกายวาววับ เมื่อมองร่างระหงอวบอิ่มในชุดเดรสรัดรูป ที่ดูแปลกตากว่าสาวๆไฮโซทุกคนในงาน
“ใช่ค่ะ”
มะลิ ยิ้มหวานขณะหยิบซูซิเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พลางคิดในใจว่า แหม! อีริคนายก็รู้อยู่แล้วน่า!! “พอดีคุณช่อฟ้าอยากสนุกกับเพื่อนๆ และมิลลิก็เห็นว่าซูซิมุมนี้น่าทานดี ลองชิมสักหน่อยมั้ยคะ ทานกับไวน์แดงเข้ากันมากเลย”
หนุ่มลูกครึ่งหลุบตาลงต่ำ ก้มมองมือขวาที่ใช้ส้อมอันเล็กจิ้มซูซิขนาดพอคำยื่นให้ นั่นทำให้มุมปากหยักของเขายกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะโน้มหน้าลงใกล้และงับซูซิชิ้นนั้นเข้าไปในปาก
“อื้อ อร่อยจริงด้วยครับ”
“หน้าปลาไหลก็อร่อยนะคะ”
เธอคุยต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล และเหมือน อีริค เองก็มีท่าทีผ่อนคลาย เขาจิบไวน์ไปจนหมดแล้ว ก่อนจะหยิบแก้วใหม่ที่บริกรเดินมาเสริฟ์และยื่นให้เธออีกแก้ว
ทว่ามะลิสังเกตเห็นว่า แม้อีกฝ่ายจะคุยกับตนแต่สายตายังคงจับจ้องไปยัง ช่อฟ้า นางเอกของเรื่องและเหมือนจะคอยมองหา ภูมินทร์ พระเอกของเรื่องอยู่
“วันนี้คุณมินทร์ไม่ได้มาหรอกค่ะ”
คำบอกนั้นทำให้ เอริค ยกคิ้วขึ้นสูง
“งั้นเหรอครับ?”
“คุณมินทร์ติดงานที่ติวะเวทย์ ช่วงนี้เร่งโปรเจคสำคัญอีกอย่างนี่เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ของคุณช่อฟ้ากับเพื่อนฝูงเท่านั้น หากอยากเจอคุณภูมินทร์ ไว้เป็นงานหน้าที่งานกึ่งทางการกว่านี้ดีกว่าค่ะ”
เสียงหวานจากคนตัวเล็ก ทำให้อีริคหัวเราะร่าออกมา
“รู้ได้ไงครับว่าผมอยากเจอคุณภูมินทร์”
ก็แววตาแกออกซะขนาดนั้น! อีกอย่างฉันอ่านนิยายมาย่ะ!
“คุณเอริคทำธุรกิจพัฒนาชอฟแวร์ของ ATกรุ๊ป ยังไงก็คงต้องอยากจะผูกมิตรกับเครื่อข่ายของ TIT หรือ RN อยู่แล้วนี่คะ”
เอริค ชะงักเล็กน้อย ความสนใจจากสิ่งอื่นเมื่อจะมลายหายไป เขาหันมาสนใจคนตัวเล็กที่เป็นคนของ รัตนโสภาแทน ทว่าก่อนที่เขาจะเอ่ยอะไรต่อ สาวในชุดเดรสหนังตรงหน้าก็ยิ้มหวานละมุนให้
“ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาท มิลลิขอตัวไปเข้าห้องน้ำแปปนึง”
เอ่ยเสร็จเธอก็รีบผละห่างอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นร่างหนาของใครคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาที่นี่
ไม่นะ!!! ...หวังว่าเขาคงจะไม่เห็นเธอ
****************