“ไม่มีแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ใบหน้าเล็กส่ายไปมาเล็กน้อย ปากก็ขยับปฏิเสธออกไปทั้งที่ในใจยังคงสงสัยอยู่อีกหลายส่วน
“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวไปทำงานก่อนนะ”
“ค่ะ”
ปาริมาพยักหน้ารับน้อยๆ วริษาจึงเดินจากไปด้วยสีหน้ารื่นเริง ไม่ได้มีทีท่ากังวลอย่างที่ปาริมากังวลอยางที่ควรจะเป็น ปาริมาได้แต่มองตามแผ่นหลังของ
วริษาไปอย่างคลางแคลงใจ หญิงสาวไม่ได้คลางแคลงใจท่าทางของเพื่อนร่วมงาน หากแต่รู้สึกคลางแคลงใจเจ้าของคฤหาสน์เสียมากกว่า
เขาทำแบบนั้นไปทำไมกัน
หรือเพียงต้องการจะกลั่นแกล้งเธอ
หญิงสาวไม่เข้าใจเลยสักนิด
ร่างแบบบางในชุดเดรสเข้ารูปสีน้ำตาลอ่อน ความยาวกระโปรงตัวสวยยาวเลยหัวเข่ามาเล็กน้อย ใบหน้าสวยเฉี่ยวถูกแต่งเติมเอาไว้อย่างสวยงาม ริมฝีปากอวบอิ่มถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูนมแบรนด์ดังจากฝั่งอเมริกา กรีดดวงตาจนสวยเฉี่ยวราวกับหลุดออกมาจากนิตยสายชั้นนำ เส้นผมสีน้ำตาลเป็นลอนใหญ่ยาวถึงบริเวณกลางหลังถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ลลิตาขยับยิ้มตอนที่ก้าวผ่านเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงแรมชื่อดังใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างคาสซาโน่ แกรนด์ หญิงสาวเป็นทายาทตระกูลดังที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และผลิตภัณฑ์จากบริษัทของหญิงสาวก็ถูกส่งเข้าครัวของโรงแรมคาสซาโน่ แกรนด์มาหลายปี
“สวัสดีค่ะ คุณลิต้า มาหาคุณฟาบิโอใช่ไหมคะ”
พนักงานประชาสัมพันธ์สาวลุกขึ้นแล้วสอบถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ลลิตาส่งยิ้มไปให้ ก่อนจะตอบคำถามของอีกฝ่าย
“ใช่จ้ะ ฟาเข้ามาแล้วใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ คุณฟาสั่งเอาไว้ว่าให้คุณลิต้าขึ้นไปได้เลย”
“ขอบใจจ้ะ”
ลลิตาบอกพนักงานประชาสัมพันธ์คนดังกล่าว จากนั้นจึงก้าวเท้ามุ่งหน้าไปที่ลิฟต์ นิวเรียวกดลงบนหมายเลขชั้นสูงสุดของตัวอาคารขนาดใหญ่ ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลงแล้วเคลื่อนขึ้นสู่ชั้นบนในทันที
ห้องทำงานของฟาบิโอ
ร่างสูงของฟาบิโอใช้สะโพกสอบพิงเข้ากับขอบโต๊ะทำงาน ท่อนแขนกำยำทั้งสองข้างประสานกันไว้ที่ระดับอก เยื้องไปทางขวามือของชายหนุ่มมีติอาโก้ที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก
“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมช่วงนี้ทำไมในโซเชียลถึงได้โจมตีโรมแรมของเรานัก ทั้งที่การให้บริการของเราอยู่ในระดับมาตรฐาน และออกจะดีเกินมาตรฐานด้วยซ้ำ”
ฟาบิโอเอ่ยเสียงกระแทก ภายในน้ำเสียงนั้นแฝงความไม่พอใจเอาไว้อยู่หลายส่วน ที่เขาต้องบินกลับจากอิตาลีแบบปัจจุบันทันด่วนก็เพราะเรื่องนี้ เขาไม่ได้นิ่งนอนใจแม้จะเป็นเพียงการตั้งกระทู้ในเว็บชื่อดังเว็บหนึ่ง หากแต่มันส่งผลให้ยอดการจองและยอดการเข้าพักในโรงแรมต้องสั่นคลอน แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่อาจวางใจ
เบื้องหน้าของฟาบิโอคือเซบาสเตียน ชายหนุ่มสายเลือดอิตาลีขนานแท้ ซึ่งเซบาสเตียนเป็นอีกคนหนึ่งที่ฟาบิโอมอบความไว้วางใจให้เป็นอย่างมาก เรียกง่ายๆ ว่าเป็นมือซ้าย ส่วนใหญ่แล้วเซบาสเตียนจะคอยจัดการเรื่องธุรกิจโรงแรมแทนฟาบิโอในบางครั้ง มีอำนาจถึงสามารถตัดสินใจแทนฟาบิโอได้ในกรณีเร่งด่วน ส่วนติอาโก้ที่ทำหน้าที่ตามติดฟาบิโอแทบจะตลอดเวลาก็คือมือขวา
และทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน
“ผมให้เจ้าหน้าที่เทคนิคคอมพิวเตอร์ของเราตรวจสอบข้อมูลแล้วครับ พยายามจะเจาะให้ถึงข้อมูลของคนที่ตั้งกระทู้ แต่เข้าไม่ถึงครับ เพราะมีการป้องกันที่ซับซ้อนมาก เราคงต้องพึ่งฝีมือของคุณเดฟแล้วล่ะครับ”
คุณเดฟ ที่เซบาสเตียนกล่าวถึงก็คือเดวิด แม็กไบรด์ เพื่อนสนิทของฟาบิโอ ซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ฝีมือเยี่ยมและในทางกลับกันก็เป็นแฮกเกอร์ฝีมือฉกาจ เดวิดเป็นคนค่อนข้างรักสันโดษ บางทีก็มักจะหายเข้ากลีบเมฆไปโดยไม่บอกกล่าว เจออีกทีก็ปล่อยให้หนวดเครารุงรัง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าตัวเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาชนิดที่ว่าหาตัวจับยากคนหนึ่ง
“ดีที่เดฟเพิ่งโทรมาบอกว่าจะแวะมาหาฉัน น่าจะอยู่เป็นอาทิตย์ เราคงต้องพึ่งความสามารถของเดฟอย่างที่นายบอก”
“ครับ”
เซบาสเตียนพยักหน้ารับคำ ส่วนติอาโก้ทำเพียงลอบมองอย่างสังเกตการ เป็นครั้งแรกที่ฟาบิโอพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมาคล้ายเหนื่อยล้าเต็มทน
“ฉันไม่ชอบการต่อสู้กับสังคมโซเชียลแบบนี้เลยจริงๆ ให้ตายเถอะ มันน่ารำคาญมาก บางเรื่องก็ยังไม่ทันได้ไตร่ตรองกันให้ถี่ถ้วน สังคมก็ตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว ไม่แฟร์เลยสักนิด”
ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้ง แม้เขาจะเชี่ยวชาญในด้านการบริหารธุรกิจ สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเฉียบขาด แต่ในเรื่องเกี่ยวกับกระแสสังคมแบบนี้ บอกได้เลยว่าเขาไม่ชอบใจเลยจริงๆ
ติอาโก้กับเซบาสเตียนทำเพียงลอบสบตากัน ทั้งคู่ก็หนักใจในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย การจะหาต้นตอก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทั้งคู่ไม่ชำนาญด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นัก คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเดวิดเท่านั้น
จังหวะนั้นเองที่เสียงเคาะประตู สายตาสามคู่จึงมองไปที่บานประตูไม้สีเข้มอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ลิต้าเข้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าคะ”
ลลิตายิ้มบางๆ ยามที่กวาดสายตามองสามหนุ่มในห้อง เท้าเล็กขยับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดเท้าตรงหน้าฟาบิโอ
“ไม่หรอก เราคุยกันจบพอดี” ฟาบิโอตอบ “พวกนายออกไปก่อน อ้อ แล้วอย่าลืมย้ำคุณปรางด้วยนะ ว่าช่วงบ่ายฉันขอพบหัวหน้าแผนกทุกแผนก ย้ำว่าทุกแผนก”
“ครับ คุณฟา”
เซบาสเตียนเป็นคนรับคำ ก่อนที่ทั้งเขาและติอาโก้จะเดินออกไปจากห้องทำงานพร้อมกัน
ตอนนี้ภายในห้องจึงเหลือเพียงฟาบิโอและลลิตา
“มาหาผมแต่เช้าแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า”
ฟาบิโอเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา ลลิตาแสร้งมองค้อนไม่จริงจัง ก่อนจะเดินเข้าไปคล้องแขนชายหนุ่ม ซบใบหน้าตรงไหล่กว้างชั่วครู่ แล้วผละออก
“แหม...ลิต้าคิดถึงฟาแล้วมาหาไม่ได้หรือคะ”
หญิงสาวบอกแล้วเป็นฝ่ายหน้าแดงเสียเอง ก่อนจะซบใบหน้าลงที่ไหล่กว้างอีกครั้งเพื่อลดอาการขัดเขินที่เธอสร้างขึ้นด้วยตัวเอง หากแต่คนฟังอย่างฟาบิโอกลับมีสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม
“ปกติช่วงนี้ผมต้องอยู่ที่อิตาลีตั้งสามเดือน ไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว คุณยังไม่ชินอีกหรือ”
“แหม...ฟาน่ะ ทำไมไม่โรแมนติกบ้างเลย ปกติแล้วหนุ่มอิตาลีมักจะโรแมนติกไม่ใช่หรือคะ”
“ผมก็เป็นของผมแบบนี้”
ฟาบิโอตอบคล้ายไม่ใส่ใจ แต่ลลิตาไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองเพราะทราบดีว่านี่เป็นลักษณะนิสัยเฉพาะตัวของฟาบิโอ
“ลิต้าก็ไม่ได้จะว่าอะไรสักหน่อยนะคะ”
ลลิตาบอกเสียงอ่อน ก่อนจะละใบหน้าจากไหล่กว้างของชายหนุ่ม แล้วประสานสายตากับอีกฝ่าย
“ตกลงที่มาหาผมนี่มีอะไร คงไม่ใช่แค่คิดถึงผมอย่างเดียวหรอกล่ะมั้ง”
“ฟาน่ะ รู้ทันลิต้าตลอดเลย”
“ตกลงมีอะไร” ฟาบิโอถามย้ำ
“คือจริงๆ มื้อเที่ยงลิต้าอยากชวนฟาออกไปกินอาหารที่ร้านประจำน่ะค่ะ แต่ดูเหมือนว่าฟาจะมีประชุมช่วงบ่าย เอาไว้วันหลังก็ได้ค่ะ”