ตอนที่ 4
รู้สึกดี
ทั้งสองคนใช้ระยะเวลาในการรับประทานอาหารเย็น และพูดคุยกันอยู่ประมาณสองชั่วโมง ก่อนที่ลูเซียโน่จะเป็นคนอาสาไปส่งยาหยีที่คอนโดมิเนียมของเธอ ซึ่งเธอก็ตอบตกลงที่จะให้เขาไปส่ง เพราะเธอรู้สึกไว้ใจเขาขึ้นมาในระดับหนึ่ง หลังจากที่ได้พูดคุยทำความรู้จักกันเพิ่มเติม
“พี่ลูเซียสส่งหยีตรงหน้าคอนโดก็ได้ค่ะ” ยาหยีเอ่ยขึ้น เมื่อรถยนต์ขับเคลื่อนมาจอดหน้าคอนโดมิเนียมของเธอ
“พรุ่งนี้พี่มารับไปส่งที่ร้านนะ หยีทิ้งรถไว้ที่ร้านหนิ” ลูเซียโน่เอ่ยขึ้น ก่อนที่รถจะจอดเทียบหน้าคอนโดของเธอ
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ยาหยีหันไปตอบลูเซียโน่ ก่อนที่จะเปิดประตูรถลงไป
“ขึ้นห้องไปได้แล้วค่ะ” ลูเซียโน่เปิดกระจกรถลง ก่อนจะชะโงกหน้าไปตะโกนบอกกับยาหยีที่ไม่ยอมเดินขึ้นคอนโดไป ยาหยีเมื่อได้ยินดังนั้นจึงโบกมือลาลูเซียโน่ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปข้างในคอนโดของเธอ
ยาหยีเดินยิ้มเข้ามาภายในห้องของตัวเองด้วยความอิ่มเอมหัวใจ แบบที่เธอเองก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่ลูเซียโน่เองก็ไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่เธอทำความรู้จัก แต่พอเป็นรู้เซียโน่ เธอรู้สึกสบายใจ และผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ทั้งน้ำเสียงที่อบอุ่น และความเป็นสุภาพบุรุษ การพูดจาตรงไปตรงมาของเขา มันทำให้เธอรู้สึกพิเศษกับเขามากกว่าผู้ชายคนอื่นๆ ที่เธอเคยคุยด้วย
ครืด ครืด ครืด
ยาหยีหยิบโทรศัพท์มือถือที่กำลังส่งสันญาณแจ้งเตือนว่ามีสายเรียกเข้าในกระเป๋าสะพ่ายข้างออกมารับสาย ขณะที่กำลังเดินไปหยิบน้ำดื่มในตู้เย็นมาดื่ม
“ฮัลโหล่” ยาหยีกรอกเสียงลงไปยังปลายสายด้วยความสงสัย เพราะเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ที่ไม่ได้ขึ้นชื่อ
(พี่เองนะ)
“พี่ลูเซียสเหรอคะ”
(อืม)
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
(พี่แค่จะโทรมาถามว่าถึงห้องรึยัง)
“ส่งถึงหน้าคอนโดแล้วยังไม่ไว้ใจอีกเหรอคะ”
(พี่แค่เป็นห่วง)
“ถึงแล้วค่ะ กำลังดื่มน้ำอยู่”
(พี่กวนรึเปล่า)
“เปล่าค่ะ หยีต่างหากที่ต้องถาม พี่ลูเซียสขับรถอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”
(เปล่า พี่จอดรถอยู่หน้าคอนโดน่ะ)
ริมฝีปากบางระบายยิ้มกว้างออกมาด้วยความรู้สึกมีความสุขกับการใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของลูเซียโน่ ก่อนที่เธอจะเดินออกไปตรงระเบียง เพื่อรับลมเย็นๆ ยามค่ำคืน เพราะทิศของห้องเธอ บวกกับความสูงของชั้นที่เธออยู่ทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นเขาได้
“กลับไปได้แล้วค่ะ ขับรถดึกๆ อัตรายนะคะ”
(ครับ เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน)
“ค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะคะ”
(ค่ะ ฝันดีนะคะ)
“ฝันดีค่ะ”
ใบหน้าหวานเงยมองพระจันทร์ที่เด่นเต็มดวงอยู่บนท่องฟ้าด้วยความรู้สึกมีความที่เอ่อล้นออกจนดวงตาเป็นสระอิ เพราะรอยยิ้มของเธอ
“ผู้ชายพูดค่ะ น่ารักจังแหะ” ยาหยีพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินกลับเข้ามาภายในห้อง แล้วจัดการอาบน้ำทำธุระส่วนตัวของเธอให้เรียบร้อย โดยก่อนนอนเธอได้บำรุงผิวหน้า และผิวกายนานอยู่หลายชั่วโมง เพื่อที่พรุ่งนี้เธอจะได้ดูดีเวลาเจอกับลูเซียโน่
เช้าวันต่อมา
ยาหยียืนเช็กความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจกด้วยความตื่นเต้น เป็นเช้าวันแรกที่เธอรู้สึกประหม่า และไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะวันนี้เธอจะได้พบเจอกับลูเซียโน่อีกครั้ง
ติ๊ง!
ยาหยีหยิบโทรศัพท์มือถือมาอ่านข้อความที่ระบุว่าส่งมาจากลูเซียโน่ที่บอกว่าเขาได้จอดรออยู่หน้าคอนโดแล้วด้วยท่าทางร้อนร้น ก่อนจะรีบเช็กความเรียบร้อยครั้งสุดท้าย แล้วคว้ากระเป๋าสะพ่ายข้างคู่ใจรีบลงไปทันที
“รอนานไหมคะ” ยาหยีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบทันทีที่ขึ้นมานั่งภายในรถ เพราะก่อนหน้านี้เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงมาหาเขา เพราะกลัวว่าเขาจะรอนาน
“ไม่นานค่ะ” ลูเซียโน่ตอบกลับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนอย่างเคย ทำให้ยาหยีส่งยิ้มหวานกลับไปด้วยความเคยชิน เพราะทุกครั้งที่อยู่กับเขาถึงแม้ในใจเธอจะรู้สึกตื่นเต้น แต่น้ำเสียงและรอยยิ้มของเขาก็ค่อยปลอบประโลมให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลง และเป็นกันเองเสมอ
“พี่ลูเซียสทำงานกี่โมงเหรอคะ”
“วันนี้พี่เข้าบริษัทสิบโมง มีอะไรเหรอ”
“เปล่าค่ะ หยีกลัวพี่จะไปทำงานสาย”
“สายแล้วไง ใครจะกล้าว่าพี่ละ”
“เป็นเจ้านายไปสายเป็นตัวอย่างไม่ดีเลยนะคะ เดี๋ยวพนักงานก็เอาไปนิททาไม่รู้ด้วยนะ” ยาหยีหยอกเย้าชายหนุ่มด้วยท่าทางทะเล้นเหมือนที่เธอชอบทำกับคนสนิท
“งั้นพี่หักเงินเดือนตัวเองดีไหมคะ”
“ดีเลยค่ะ หักเยอะๆ เลยนะ แล้วเอาตรงนั้นไปแจกโบนัสพนักงาน” ยาหยีแสดงความคิดเห็นอย่าสนุกสนาน
“แบบนี้พนักงานพี่คงจะเชียร์ให้หยีขึ้นมาเป็นนายหญิงกันยกใหญ่แล้วล่ะ”
ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี จึงได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ แก้เขินกลับไปให้ชายหนุ่ม
“พี่แค่พูดเล่น ไม่ต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นก็ได้” ลูเซียโน่บอกด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ มือหนาเอื้อมมือมาขยี้ลงบนศีรษะทุยด้วยความเอ็นดู โดยที่สายตาคมยังคงมองถอดไปยังท้องถนนตรงหน้า
ความอบอุ่นจากฝามือหนาที่ส่งผ่านมา ทำให้หัวใจดวงน้อยๆ รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา มันฟองโตจนยาหยีไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ได้ ว่าเธอ...กำลังรู้สึกดีกับเขา