ตอนที่ 1 วิศวะมาดเซอร์

1001 Words
“กรี๊ด....” เสียงกรี๊ดกร๊าดดังระงมไปทั่วทั้งบริเวณโรงอาหารของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทั้งที่ปกติคณะของพวกเธอมีผู้หญิงน้อยจนแทบจะนับคนได้ แต่ตอนนี้เสียงกรี๊ดกลับดังราวกับมีผู้หญิงเป็นร้อย “มีดารามาถ่ายละครหรือไงนะ ทำไมเสียงดังจัง” กัญญาดา หรือ กุ้ง สาวห้าวประจำเอกโยธาชั้นปีที่สี่ หันไปมองทางเข้าโรงอาหารก็เห็นว่ามีสาวๆ หลายคน ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนที่อยู่ตรงกลางกลุ่มคนเหล่านั้น คนที่พวกเธอยังไม่เห็นว่าเป็นใคร “นั่นสิคะ แล้วผู้หญิงพวกนั้นไม่รู้มาจากคณะไหนกันบ้างนะคะ ไม่เห็นคุ้นเลย” คณานางค์ หรือ คะน้า สาวสวยตัวเล็กประจำเอกพยายามมองฝ่ากลุ่มคนแต่ก็ยังมองไม่เห็น “ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเลยกินข้าวต่อดีกว่า คะน้ากินเยอะๆ นะ พี่ว่าช่วงนี้เราผอมลงมาก ไม่ค่อยกินข้าวหรือว่ากำลังไดเอทจ๊ะ แต่ผอมขนาดนี้แล้วไม่ต้องไดเอทแล้วมั้ง เดี๋ยวลมจะพัดปลิวไปซะก่อนนะ” “ค่ะ” คณานางค์ไม่คิดจะเล่าอะไรให้อีกฝ่ายฟังเพราะไม่อยากทำให้กัญญาดาต้องรู้สึกเครียดไปด้วย เนื่องจากพี่สาวคนนี้ก็มีเรื่องให้เครียดมากพออยู่แล้ว เธอตักอาหารขึ้นมาเพื่อจะกินต่อ แต่แล้วมือน้อยก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าต้นเหตุที่ทำให้มีเสียงกรี๊ดดังๆ นั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเมธาวินกับเพื่อนอีกสองคนของเขานั่นเอง แต่วันนี้มีบางสิ่งเปลี่ยนไป นั่นก็คือ เมธาวิน เปลี่ยนสีผมจากสีดำสนิทมาเป็นสีเทาแถมยังเจาะหูข้างหนึ่งและใส่ห่วงเล็กๆ เอาไว้ ส่งผลให้เขากลายเป็นแบดบอยที่ดูหล่อเร้าใจแบบสุดๆ ไปเลย ส่วน วฤทธิ์ ก็เปลี่ยนผมเป็นสีน้ำตาลประกายทอง และ คีตกาล ก็เปลี่ยนผมเป็นสีน้ำตาลอมม่วงเช่นกัน แต่กลุ่มของพวกเขาไม่ได้เดินมานั่งที่โต๊ะของเธอเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว นับตั้งแต่วันที่เขาจ่ายค่าเทอมให้ เขากับเธอก็ไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมอีก โดยเฉพาะสายตาที่เขามองเธอนั้นมันมีแต่ความว่างเปล่า ไม่ได้มีความอบอุ่นใจดีอีกต่อไป “สาวๆ ครับ ยังไงพวกพี่ขอเวลาส่วนตัวในการกินข้าวสักหน่อยนะครับ เอาไว้เย็นนี้ค่อยเจอกันที่สนามบาสนะครับ” วฤทธิ์ หรือ ฤทธิ์ เพลย์บอยสุดหล่อประจำกลุ่มเป็นคนบอกนักศึกษาสาวที่ห้อมล้อมพวกเขาในตอนนี้ “ได้เลยค่ะ ขอให้กินข้าวให้อร่อยนะคะ” แล้วพวกเธอก็ทยอยกันกลับไปอย่างว่าง่าย เพราะยังไงช่วงบ่ายก็มีเรียนเหมือนกัน พวกเธอจึงต้องกลับไปกินข้าวที่คณะของตัวเองเพื่อให้ขึ้นเรียนทัน “เฮ้อ...ไปกันได้ซะที เพราะมึงเลยไอ้โน้ต ไม่น่าชวนพวกกูไปทำสีผม ดูสิ จากที่หล่ออยู่แล้วก็หล่อมากขึ้นไปอีก สาวๆ ตามมากรี๊ดทั้งมหา’ลัยแล้วเนี่ย” วฤทธิ์แกล้งบ่นออกมา “กูเห็นว่าพวกเราเป็นเด็กดีมาสามปีแล้วไง เลยอยากให้เปลี่ยนลุกส์บ้าง ไหนๆ มหา’ลัยเราก็ไม่ได้ห้ามทำสีผมนอกจากตอนซ้อมเชียร์ปีหนึ่งแล้ว อีกไม่ถึงปีก็จะเรียนจบ มันก็ต้องใช้ชีวิตนักศึกษาให้คุ้มหน่อยสิวะ แต่เราสองคนแค่ทำสีผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอก มึงดูไอ้หัวเทานั่น พอเจาะหูหน่อยแม่งโคตรดูแบดบอยเลยว่ะ นี่ถ้ากูเป็นผู้หญิงก็คงได้ตามกรี๊ดมันเหมือนกันนั่นแหละ” คีตกาล หรือ โน้ต หนุ่มหล่อมาดเซอร์บอกยิ้มๆ “เออ กูก็ยังแปลกใจอยู่ มึงนึกยังไงเจาะหูวะ คุณหญิงแม่ไม่บ่นเหรอเห็นมึงสภาพนี้น่ะ” วฤทธิ์ถามขึ้น “ไม่นี่ ท่านไม่ได้บ่นอะไรแถมยังบอกว่าเท่ดีด้วย ท่านบอกว่าสมัยพี่ซันหนุ่มๆ น่ะ ดูแบดกว่านี้เยอะ อย่างกูเรียกเด็กๆ” เมธาวิน หนุ่มฮอตเนิร์ดของรุ่นบอกเสียงเนือยๆ “เออดีว่ะ แล้วนี่จะกินอะไรกันล่ะ วันนี้เวรใครไปซื้อวะ” “เวรกูเอง พวกมึงจะแดกอะไรกันล่ะ กูว่าจะไปซื้อร้านตามสั่งของป้าแป๋วหน่อย” เมธาวินถามพลางลุกขึ้น “กูเอากะเพราหมูกรอบ” วฤทธิ์บอก “ส่วนกูขอพริกแกงกุ้ง บอกป้าขอพิเศษกุ้งด้วยนะ” คีตกาลตอบบ้าง “โอเค งั้นมึงไปซื้อน้ำด้วยนะไอ้ฤทธิ์ ของกูเอาชามะนาว” “ได้ครับลูกพี่โดม” วฤทธิ์รีบรับคำสั่ง คีตกาลจึงได้นั่งอยู่คนเดียวตามลำพัง ระหว่างนั้นก็มีสายโทรเข้า ชายหนุ่มจึงได้กดรับสาย (“ครับแม่”) (“โน้ต พรุ่งนี้วันเสาร์กลับบ้านมั้ยลูก”) (“พรุ่งนี้เหรอครับ...อืม...น่าจะไม่กลับนะครับ แม่มีอะไรรึเปล่าครับ”) (“ไม่มีอะไรจ้ะ เห็นอาหมอเค้าบอกว่าจะฝากสมุนไพรที่ขนมาจากจีนให้พ่อน่ะ ถ้าลูกกลับแม่จะให้แวะไปเอาที่โรงพยาบาลให้หน่อย”) (“ได้สิครับ งั้นแม่โทรบอกอาหมอนะครับว่าเย็นนี้ผมจะไปรับ ให้ท่านเตรียมไว้เลย แล้วผมจะกลับบ้านเย็นนี้เลยละกัน แต่คงต้องกลับเข้ากรุงเทพฯ เย็นวันเสาร์นะครับ พอดีมีรายงานต้องทำน่ะ”) (“โอเคจ้ะ ขอบใจนะลูกแล้วเจอกันจ้ะ เดี๋ยวแม่เตรียมกุ้งตัวใหญ่ๆ ไว้ให้นะ”) (“ขอบคุณครับแม่”) เมื่อคุยกับมารดาเรียบร้อยเขาก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเพื่อนทั้งสองคนกลับมาพร้อมอาหารและเครื่องดื่ม พวกเขาจึงได้นั่งกินกันไปจนกระทั่งอิ่มก็กลับขึ้นตึกไปเรียนในภาคบ่าย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD