เรื่องบังเอิญ

1422 Words
สุพิชฌาย์ติดต่อไปยังคอนโดมิเนียมเดียวกับอาจารย์ปณัยกรเมื่อรู้ว่าเขาซื้อคอนโดห้องไหน หญิงสาวก็แจ้งกับทางคอนโดว่าอยากจะได้ห้องที่อยู่ตรงกันข้าม แต่ตอนนี้มีคนจองไว้ก่อนแล้วและเขาจะย้ายเข้ามาในเดือนหน้าสุพิชฌาย์จึงเสนอซื้อห้องต่อจากเจ้าของเดิมในราคาที่แพงขึ้นส่วนเจ้าของเดิมเลือกซื้อห้องใหม่ที่อยู่ในตึกเดียวกัน “แกเข้าไปอยู่ที่คอนโดนั้นหลายวันแล้วได้เจอกับอาจารย์ไนท์บ้างหรือยังเปียโน” ณัฐมลถามระหว่างที่นั่งทานอาหารกลางวันด้วยกันที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย “ยังไม่เจอเลยทางคอนโดบอกว่าอาจารย์ไนท์จะย้ายเข้าอาทิตย์หน้า” “แล้วแกแน่ใจนะว่าอาจารย์เขาจะมาอยู่ห้องนั้นจริงๆ ไม่ใช่ถึงเวลาแล้วเป็นใครก็ไม่รู้มาอยู่ห้องนั้นทีนี้ก็เสียเงินฟรีเลยนะ” “ไม่หรอกใบตอง ฉันสืบแล้วรับรองไม่มีพลาด” “แล้วถ้าแกเจอกับเขาแล้วแกจะทำยังไงถึงจะสนิทสนมกับเขาได้ล่ะ ตอนนี้เขาก็ไม่ได้มาสอนที่นี่แล้ว มีเรื่องอะไรต้องคุยกัน” “ก็คุยกันในฐานะเพื่อนบ้านไง มีอะไรหลายอย่างที่เพื่อนบ้านอยู่ด้วยกันแล้วต้องพึ่งพาอาศัยกัน” “ฉันว่าในหัวแกตอนนี้มีแต่แผนการจะใกล้ชิดกับอาจารย์ไนท์มากเกินไปแล้วนะอย่าลืมสนใจการเรียนล่ะ” “ไม่ลืมหรอกน่าเจน แล้วเมื่อไหร่พวกแกจะไปเที่ยวห้องฉันล่ะไปเย็นนี้เลยดีไหม ซื้ออะไรไปกินที่นั่นแล้วไปค้างกับฉัน” เพราะย้ายออกมาอยู่คนเดียวหลายวันแล้วสุพิชฌาย์ก็เลยรู้สึกเหงา “เอาไว้ช่วงใกล้สอบแล้วกันจะได้ไปติวหนังสือกันด้วยแกว่าดีไหมใบตอง” “ก็ดีนะ แล้วถ้าแกต้องไปเรียนเมืองนอกล่ะ ห้องนี้จะเอายังไง ทิ้งไว้เฉยๆ หรือให้คนอื่นเช่า” “ฉันยังไม่คิดเรื่องนั้นเลยใบตอง บางทีก็อยากจะเก็บห้องไว้เผื่อกลับมาเมืองไทยจะได้เจอกับอาจารย์ไนท์” หญิงสาวพูดไปยิ้มไปจากนั้นทั้งสามคนก็เดินกลับมายังห้องเรียน แล้ววันที่สุพิชฌาย์รอคอยก็มาถึงเมื่อเย็นวันหนึ่งหลังจากเธอเลิกเรียนและขับจนรถมาจอดในที่ประจำก็เห็นรถยนต์ของอาจารย์ปณัยกรจอดอยู่ใกล้ๆ กับรถของเธอ คอนโดแห่งนี้เป็นคอนโดที่มีที่จอดรถให้กับผู้เช่าทุกห้องและเรียงตามห้องพักรถของเธอกับปณัยกรก็เลยอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กัน สุพิชฌาย์รีบกลับขึ้นไปบนห้องอาบน้ำแต่งตัวและสั่งขนมจากร้านประจำให้มาส่งจากนั้นก็ไปเคาะห้องของชายหนุ่มในเวลาค่ำ เธอรออยู่หน้าห้องด้วยความตื่นเต้นเพราะนี่ก็เกือบจะสิบวันแล้วที่เธอไม่ได้เจอกับอาจารย์คนนี้ แต่ก็ติดตามข่าวคราวของเขาผ่านทางอาจารย์กิ่งแก้วภรรยาของอาจารย์ทรงวุฒิอยู่ตลอด หัวใจหญิงสาวเต้นแรงและเมื่อประตูห้องเปิดออกก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นอาจารย์ปณัยกรอยู่ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นต่างจากทุกครั้งที่เจอกัน “อ้าว......อาจารย์ไนท์” หญิงสาวทำสีหน้าตกใจเหมือนไม่รู้ว่าห้องที่ตนเองมาเคาะคือห้องของเขา “เปียโนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” “หนูพักอยู่ห้องนี้ค่ะอาจารย์และหนูรู้จากนิติว่าผู้เช่าคนใหม่ย้ายเข้ามาหนูก็เลยเอาขนมมาให้ต้อนรับเพื่อนบ้านค่ะ” หญิงสาวส่งของคุกกี้ที่เพิ่งส่งมาเมื่อครู่ให้กับอาจารย์หนุ่ม “ขอบคุณนะเปียโน แต่ผมไม่มีอะไรให้คุณเลยเพิ่งย้ายเข้ามาน่ะ ของยังเก็บไม่เข้าที่เลย” “ให้หนูช่วยอาจารย์จัดของไหมคะ” “ไม่เป็นไรอีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว ผมเพิ่งรู้ว่าคุณพักอยู่ที่นี่” “อันที่จริงหนูก็พักอยู่ที่บ้านค่ะ แต่ช่วงนี้อยากออกมาใช้ชีวิตคนเดียวก็เลยมาอยู่ที่นี่ค่ะ” “บังเอิญมากเลยนะ” เขามองหน้าเธอแล้วยิ้มแต่ก็แอบสงสัยว่าทำไมมันบังเอิญมากขนาดนี้ “อาจารย์จัดของอีกเยอะหรือเปล่า” “อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว มีอะไรเหรอเปียโน” “อาจารย์กินข้าวเย็นหรือยังคะ แถวนี้มีร้านอาหารอร่อย เยอะเลยให้หนูพาอาจารย์ไปเลี้ยงต้อนรับดีไหม” “แต่ผมยังต้องจัดของต่อนะคุณจะไม่หิวแย่เหรอ” “ไม่หิวหรอกค่ะ ถ้าอาจารย์จัดของเสร็จแล้วไปเคาะห้องหนูนะคะ แล้วหนูจะพาอาจารย์ไปกินของอร่อยๆ ตกลงไหม” “แต่ผมว่า.....” “อาจารย์อย่าปฏิเสธเลย ตอนนี้เราไม่ใช่อาจารย์กับนักศึกษากันแล้วนะคะ เราคือเพื่อนบ้านกันค่ะและการเลี้ยงต้อนรับเพื่อนบ้านก็เป็นอะไรที่คนอื่นเขาทำกันตกลงนะหนูจะรอ” “เอางั้นก็ได้ครับ” ปณัยกรเห็นด้วยกับสิ่งที่หญิงสาวเขาจึงตอบตงลงเพราะเขาเพิ่งย้ายมาวันแรกเลยไม่รู้จักร้านอาหารบริเวณนี้ เมื่อสุพิชฌาย์เดินกลับห้องของตัวเองไปแล้วปณัยกรก็ปิดประตูแล้วเอาคุ้กกี้มาวางบนโต๊ะทานอาหารในห้องครัวก่อนจะจัดของที่เหลือเข้าที่โดยเร่งความเร็วขึ้นกว่าเดิมเพราะเมื่อหญิงสาวพูดถึงการกินข้าวเขาก็เริ่มหิวขึ้นมาเนื่องจากใช้พลังงานเยอะในการจัดของให้เข้า หลังจากจัดของเสร็จเขาก็รีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะเดินไปเคาะประตูห้องตรงข้าม ปณัยกรยืนรอไม่นานเจ้าของห้องก็เปิดประตู “เสร็จแล้วเหรอคะอาจารย์” “เสร็จแล้วไปกันเลยไหมต้องเอารถไปหรือเปล่า” “ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ร้านที่เราจะไปเดินไม่กี่ช่วงตึกเอง” ระหว่างทางไปร้านอาหารหญิงสาวก็ชวนเขาคุยไปเรื่อยไม่นานนักทั้งสองก็หมายถึงร้านอาหารบรรยากาศดีแห่งหนึ่ง “อาจารย์อยากกินอะไรคะ ที่นี่มีอาหารหลายแบบเลยค่ะ” “ผมตามใจคนเลี้ยงก็แล้วกันนะว่าวันนี้อยากกินอะไร” “งั้นกินเป็นสเต๊กกับสลัดดีไหมคะ ที่นี่สเต็กอร่อยมากๆ เลยค่ะ อาจารย์ชอบกินสเต๊กอะไรคะ” “ผมขอเป็นสเต๊กเนื้อก็แล้วกันคุณล่ะ” “หนูขอเป็นสเต๊กปลาค่ะ” จากนั้นสุพิชฌาย์ก็เรียกพนักงานมาสั่งเมนูสเต๊กของตนเองและปณัยกรและเพิ่มเติมสปาเกตตีและสลัดมาอีกสองจาน การทานอาหารด้วยกันวันนี้ยังคงเป็นสุพิชฌาย์ที่ผูกขาดการคุยเช่นเดิมส่วนปณัยกรก็ได้แค่พยักหน้าหรือตอบรับและตอบคำถามสั้นๆ เท่านั้น “อาจารย์อยากซื้อของใช้อะไรเข้าคอนโดไหมคะ” หญิงสาวถามเมื่อกำลังจะเดินผ่านร้านสะดวกซื้อ “ก็ดีเหมือนกันนะ คุณรีบกลับหอหรือเปล่าล่ะ” ปณัยกรถามอย่างเกรงใจ “ไม่หรอกค่ะหนูก็อยากซื้อของใช้อยู่เหมือนกัน” ทั้งสองเข้าไปเลือกซื้อของในร้านสะดวกซื้อก่อนจะได้ของใช้ที่จำเป็นมาคนละหนึ่งถุง “ให้ผมช่วยถือไหม” “ไม่เป็นไรค่ะแค่นี้เองของอาจารย์ถุงใหญ่คงจะหนักน่าดูนะคะ” “ไม่เท่าไหร่หรอกครับ เราไปกันเถอะนี่มันก็เริ่มจะดึกมากแล้วพรุ่งนี้ผมมีสอนแต่เช้า คุณล่ะมีเรียนหรือเปล่า” “หนูก็มีเรียนแต่เช้าเหมือนกันค่ะ” “ขอบคุณนะเปียโนที่เลี้ยงผม” “ไม่เป็นไรค่ะอาจารย์ เราเป็นเพื่อนบ้านกันนี่คะ อาจารย์คะแล้วเมื่อไหร่อาจารย์จะให้เบอร์โทรศัพท์หนูล่ะ” “คุณไม่ได้เรียนกับผมแล้วนี่เจ้าเบอร์โทรศัพท์ผมไปทำไม” “ก็เราเป็นเพื่อนเหมือนกันไงคะ เพื่อนบ้านกันก็ต้องแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ แต่สัญญาเลยค่ะว่าจะไม่โทรไปรบกวนเวลางานจองอาจารย์ และถ้าจะให้ดีขอแอดไลน์อาจารย์ด้วยได้ไหมคะ” เพราะเห็นว่าหญิงสาวเป็นเพื่อนบ้านและตอนนี้ล่ะสถานะระหว่างเขาก็ไม่ใช่อาจารย์กับลูกศิษย์แล้วปณัยกรเลยยอมให้เบอร์โทรศัพท์และแอดไลน์กับหญิงสาว ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าห้องของตนเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD