เหมือนมันจะบอกว่า ใช่สิ อย่าผลีผลามเด็ดขาด ทำอะไรยากมากมายมานักต่อนัก แค่จะกินนม เอ๊ย ไม่ใช่ จะจีบสาวคงไม่ใช่เรื่องยาก เวรกรรม เขาคิดอะไรนี่ จิตตกชะมัด
เสียงถอนหายใจหนักๆ ของชายหนุ่ม ทำให้ซินนี่หันมามองด้วยความสนใจ
“ไม่มีอะไร ฉันแค่อิ่ม อาหารอร่อยดี งั้นฉันไปเดินเล่นนอกบ้านก่อนแล้วกัน ฝากเธอเก็บด้วยนะ”
เขาบอกแก้เก้อ เพราะที่ถอนหายใจก็จะอะไรซะอีก เขาบอกตัวเองว่าไอ้จีบสาวนี่แหละเรื่องใหญ่เลย เกิดมาเคยจีบสาวที่ไหน ที่สำคัญต้องทำยังไงก่อนล่ะนี่
“ค่ะ” ซินนี่รีบเข้ามาเก็บจานชาม ชายหนุ่มลุกไม่ขึ้นเลยทีเดียวเพราะเธอมาก้มอยู่หน้าเขา เต้าอวบๆ ก็มาลอยอยู่ตรงหน้า ขาแข็งขึ้นมาทันที
เธอนี่กระไร ไม่ว่าอะไรเขาเลย เขามองหน้าเธออยู่นะ เขาด่าเธอในใจ แต่ได้แค่ด่าเท่านั้น
เอกภาพขยับแว่นทำเป็นขรึม แล้วยังปักหลักนั่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน ซินนี่ยิ้มหวานให้เขา ก่อนที่จะเดินโยกย้ายส่ายก้นเข้าห้องครัวไป
“โอ๊ย” ชายหนุ่มคร่ำครวญ รีบก้าวขาออกไปจากบริเวณนั้น เขาต้องรีบเร่งออกไปจากที่นี่ พอพ้นออกมาจากบ้านได้ก็ต้องถอนใจ ที่ถอนใจไม่ใช่เพราะเสียดาย แต่เพราะกลัวใจตัวเอง เลยบอกว่าโล่งใจ
เป็นงั้นไป ชายหนุ่มกำลังต่อสู้กับความผิดชอบชั่วดีที่รักษามาตลอดชีวิตหนุ่ม เขาต้องคิดเรื่องอื่นสิ เรื่องที่มีสาระกว่านี้
“ต้องคิดเรื่องอื่น ต้องหางานทำให้มากกว่านี้” เขาบอกตัวเองก่อนจะเริ่มคิดเรื่องประดิษฐ์หุ่นยนตร์ตัวใหม่ให้หลานๆ เล่น ลูกโป่งกับปิงปองคงชอบ พอคิดเรื่องงานก็เผลอยิ้มกว้าง ภูมิใจว่าตัวเองทำสำเร็จ แต่ที่ไหนได้ ใบหน้าสวยกับหุ่นอวบอัดทรมานใจชายของใครบางคนก็ลอยเข้ามาแปะที่หน้าของเขา
“เฮ้ย อย่าฟุ้งซ่าน” เอกภาพสะดุ้งตกใจที่เผลอคิดถึงใครบางคน แล้วรีบสะบัดหัวไปมาลบความคิดนั้นทิ้งไปให้หมด
เอกภาพเดินรอบบ้านเพื่อคุยกับต้นไม้ใบหญ้าที่งดงามเจริญเติบโตเต็มที่ เพราะปกติเขาเปิดเพลงให้ฟังด้วย รวมถึงให้น้ำ ให้อาหารครบถ้วนจึงเจริญเติบโตมากกว่าบ้านอื่นๆ ในละแวกนี้ ความที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ทำให้เขารู้จักต้นไม้พวกนี้เป็นอย่างดี ได้เดินแล้วผ่อนคลาย บอกตัวเองว่าลดความหมกมุ่นไปเยอะ แต่ต้องชะงักฝีเท้าทันทีที่เห็นแม่บ้านสาวสวยกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่
ตายแล้ว เขาควรทำยังไงดี เอกภาพแอบสะดุ้ง ก่อนที่จะรวบรวมสติ ด่าตัวเองว่าบ้า เขาจะต้องทำยังไงล่ะ เธอเป็นแม่บ้านก็ต้องทำงานบ้าน เขาแค่เลี่ยงไปเท่านั้นเอง แต่ทำไมขาเจ้ากรรมมันดันก้าวไม่ออกล่ะนี่ แต่แม่เจ้า เธอเปลี่ยนชุดอีกแล้วเหรอ
เอกภาพครางยาว เธอเล่นใส่รองเท้าส้นสูงกับกระโปรงสั้นปิดแก้มก้น แถมเสื้อตัวสั้นโชว์หน้าท้องขาวเนียนที่เขาได้เห็นเต็มตาเพราะยืนแอบมองอยู่ใต้ต้นไม้
“ซินนี่ เธอทำอะไร ทำไมแต่งตัวแบบนี้ นี่ต้องตักเตือนเป็นการใหญ่แล้ว ไม่งั้นเธอจะได้ใจ” เขารีบปรับหน้าให้ขรึม เพื่อไม่ให้หลุดขณะอยู่ต่อหน้าเธอ เขาต้องเข้าไปตักเตือนเธอ แต่ก้าวขาไม่ออกนี่สิ ทำไงดี เอกภาพหน้ายุ่ง เผลอกุมความแข็งแกร่งของตัวเองแน่น
ให้ตายเถอะ เขาอยากตายวันละร้อยรอบ ทำไมอยากร่วมรักกับเธอใจจะขาดแบบนี้ แม้จะเคยเห็นผู้หญิงแต่งตัวโป๊ๆ มามาก แต่ทำไมไม่รู้สึกอะไรเลย เอกภาพหายใจหอบแรง เหมือนฮอร์โมนทางเพศของฝ่ายชายจะทำงานหนัก ให้ความรู้สึกว่าเจอคู่ที่สมควรร่วมรักกันได้แล้ว
“ว้าย” ซินนี่สวมรองเท้าส้นสูงจึงเผลอล้ม ชุดนี้เป็นชุดที่เสกเอามาจากแค็ตตาล็อกที่อาจารย์อูลก้าเอามาให้ เธอเห็นสวยเซ็กซี่ดีเลยใส่ แต่รองเท้าใส่ยากชะมัด ด้วยความที่งานไม่เข้ากับชุดเลยเสียท่าจนได้ อุตส่าห์โพ้สท่าสวยๆ แล้วเชียว เผื่อเอกภาพจะเห็น
ซินนี่ล้มแบบก้นจ้ำเบ้า เรียวขาชี้ขึ้นฟ้า เอกภาพตาลุกวาว มองเห็นเธอใส่กระโปรงไม่ใส่ซับในกำลังอ้าขานั่งอยู่บนพื้นหญ้า
โอ๊ย.... อะตอมเอ๊ย ขันแตกก็คราวนี้แหละ
เขาอยากละจากภาพตรงหน้าเดินเข้าบ้านไปสำเร็จโทษกับตัวเอง แต่กลับก้าวขาไม่ออก ซินนี่ถอดรองเท้าส้นสูงออก ยังนั่งเปิดเรียวขาโชว์นวลเนื้อต่อไป เอกภาพเช็ดเลือดที่ไหลหยดออกจากจมูกจนเป็นทางไปพลาง เขาเป็นลม หงายหลังลงทันที เพราะหัวใจทำงานหนัก เต้นแรงเกินพิกัด
ซินนี่ได้ยินเสียงอะไรใกล้ต้นไม้ พอเดินไปดูจึงได้เจอเอกภาพนอนหน้าแดงก่ำ เลือดกำเดาไหลเป็นทาง
“ท่านเป็นอะไรนี่” ซินนี่ประคองร่างเขาขึ้นมา เอกภาพตาลอยคว้าง มองเห็นใบหน้าสวย แต่ความนุ่มนิ่มที่ทาบทับหน้าเขาอยู่ทำให้หายใจหอบแรงขึ้น
“ท่านเป็นอะไร แย่แล้ว” ซินนี่มองด้วยความตกใจ เห็นเลือดเขาไหลจากจมูกไม่หยุด เอกภาพซุกอกไซส์มหึมาไม่หยุดเช่นกัน หายใจหอบแรงเหมือนกำลังจะขาดใจ
“ซินนี่” เขาพูดเสียงสั่นก่อนที่จะสลบไปจริงๆ
“คุณอะตอม”
ซินนี่ใช้เวทมนตร์พาเขาเข้าบ้านเพราะเขาหนักมาก เธอประคองไม่ไหวหรอก ดีที่ได้ฝึกฝนเวทมนตร์เอาไว้บ้าง ไม่นาน เอกภาพก็ลอยเข้าไปนอนอยู่ในห้องรับแขกของบ้าน
ซินนี่ประคองศีรษะชายหนุ่มไว้บนโซฟาตัวยาว ใช้เวทมนตร์ห้ามเลือดเอาไว้ ไม่นาน เอกภาพจึงลืมตาตื่น มองเห็นใบหน้านวลระยะกระชั้นชิด เขารีบกะพริบตาถี่ๆ สะบัดศีรษะไปมา แต่เจ้ากรรม สะบัดไปโดนอะไรนุ่มๆ นิ่มๆ สองเต้าอวบของเธอนี่เอง
“เป็นยังไงบ้าง” ซินนี่ลูบใบหน้าหล่อบาดใจเบาๆ พยายามดึงศีรษะเขาซบอกด้วยความห่วงใย แต่แอบยิ้มกริ่มในใจ คราวนี้เสร็จเธอ เขาจะบอกสารภาพรักเธอหรือเปล่าหนอ แต่ซินนี่กลับตกใจเพราะเอกภาพลงไปนอนชักดิ้นชักงออยู่ด้านล่างแล้วหมดสติไปอีกครั้ง
ซินนี่ถอนใจ จำต้องใช้เวทมนตร์ห้ามเลือดให้ชายหนุ่มอีกรอบ แล้วพาร่างสูงใหญ่นอนบนโซฟาตัวยาว
“ทำไมท่านถึงได้เป็นแบบนี้ ใจเสาะชะมัด” ซินนี่มองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มด้วยความขัดใจ แทนที่แผนยั่วของเธอจะสำเร็จ ที่ไหนได้ เขากลับไม่ได้หลงเสน่ห์ของเธอ กลับชักดิ้นชักงอ เลือดกำเดาไหลซะงั้น
ซินนี่ดูแลชายหนุ่มอย่างดี หาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้และขยับตัวให้เขานอนสบายบนโซฟา ก่อนจะไปนั่งมองเขานิ่งอยู่อีกด้าน
“ดูๆ ไปคุณหล่อเหมือนกันนะนี่” ซินนี่ยิ้มให้ชายหนุ่มที่หลับใหลไม่ได้สติ เธอหัวใจเต้นแรง รู้สึกว่ากำลังมีความรู้สึกที่ผิดแปลกไปจากเดิมตอนที่เจอเขาครั้งแรก
เอกภาพสะดุ้งตกใจ พลัดตกจากโซฟาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีอะไรนุ่มนิ่มรองรับ ซินนี่ตกใจเช่นกันที่เห็นเขาตกลงมาอีกรอบ เธอมัวแต่มองเขาเพลินเลยไม่ทันช่วยเขาไว้
เขารีบควานหาแว่น แต่กลับไม่เจอ ไม่รู้ไปหล่นอยู่ที่ไหน ซินนี่จึงหยิบแว่นให้เขา และใจดีสวมให้เขาเสียเลย เอกภาพตาโตทันทีที่สวมแว่น อกอวบอัดของแม่บ้านสาวที่ตามหลอกหลอนเขากลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง
“คุณเป็นยังไงบ้างคะ” ซินนี่ถามเสียงใส เอกภาพรีบเงยหน้ามองหน้าสวยของแม่บ้านสาว เขาไม่ได้ตาฝาดจินตนาการไปเอง เธออยู่ตรงนี้จริงๆ ต่างหาก
“ฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ” เขาถามแก้เก้อ ใช้มือสางผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากด้วยหัวใจเต้นแรง พยามควบคุมน้ำเสียงและสีหน้าให้เรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
“อยู่ดีๆ คุณหมดสติไป” ซินนี่ตอบ เล่าเหตุการณ์แล้วมองเขาตาแป๋ว
“เหรอ ฉันคงทำงานเครียดไป” เขาเฉไฉ รีบลุกขึ้นจากบริเวณที่ชวนหวาดเสียวทันที
“งั้นคุณควรพักผ่อน” ซินนี่ยืนขึ้นตามเขา มองแผ่นหลังบึกบึนของชายหนุ่มที่หันหลังให้ด้วยความสนใจ
“ฉันคิดว่าแบบนั้นแหละ” และไม่ทันที่จะได้พูดอะไรกันอีก โทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เอกภาพรีบไปรับ อยากหลีกเลี่ยงกับการสนทนากับแม่บ้านสาวให้มากที่สุด
“น้าอะตอม ลูกโป่งกับปิงปองรอนานแล้วนะครับ น้าทำอะไรอยู่อีก” ลูกโป่งกดโทรศัพท์หาน้าชายทันทีที่ได้เวลาเลิกเรียน เมื่อน้าชายยังไม่เห็นมารับเหมือนเคยจนเวลาล่วงเลยมาหลายนาทีแล้ว ปกติน้าจะต้องมาก่อนเลิกเรียนด้วยซ้ำ
เอกภาพสะดุ้งที่ได้ยินเสียงหลาน เขานอนหมดสติจนลืมหลานๆ ไปเสียสนิท
“ขอโทษที น้าติดงานนิดหน่อย” เขาแก้ตัวเสียงเรียบ กักเก็บอารมณ์ได้มิดชิดยิ่งยวด