จากตอนแรกที่ตั้งใจจะนอนอาบน้ำแร่แช่น้ำนมนานหน่อยสุดท้ายก็เปลี่ยนใจเพราะไม่อยากให้ใครบางคนรอนาน แม้จะอยากแกล้งอาบน้ำนานๆทว่าสุดท้ายก็ทำไม่ลง
เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เห็นสามีที่แต่งงานกันมาเกือบสี่ปีนอนเหยียดยาวกางแขนกางขาอ้าซ่าอยู่บนเตียงนอนขนาดคิงไซซ์ทั้งชุดทำงานเนกไทก็ไม่ยอมปลดถุงเท้าก็ไม่ยอมถอด เสียงกรนสม่ำเสมอเบาๆที่ดังมาให้ได้ยินบอกสถานภาพว่าสามีของพุดน้ำบุษย์เข้าเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้ว... คนอะไรจะหลับง่ายดายปานนั้น
เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็เดินเข้าไปหาคนตัวสูงที่นอนหลับอยู่บนเตียงกว้าง ถ้าเป็นผู้ชายอื่นก็คงเรียกว่าหมดสภาพดูไม่ได้ แต่ทว่าพอเป็นปิยังกูรหนุ่มหล่อทายาทตระกูลใหญ่นักธุรกิจสุดฮอตเจ้าของรางวัลบิสซิเนสอวอร์ด 4 ปีซ้อนจึงไม่สามารถใช้คำนี้ได้ สามีของเธอยังคงดูดีมีออร่า ใบหน้าหล่อเหลายังคงมีเสน่ห์ดึงดูดทุกสายตาให้หันมามองได้ดีเสมอ ผมดกดำที่เคยเซตเป็นทรงดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยทว่ามันไม่ได้ดูแย่ กลับทำให้เจ้าตัวดูเซ็กซี่ไปอีกแบบ จากหนุ่มหล่อเนี้ยบดูสะอาดสะอ้านมาดนักธุรกิจกลายเป็นหนุ่มหล่อเซอร์มาดแบดบอย เสียงกรนที่ดังสม่ำเสมอเบาๆไม่ได้ทำให้รำคาญหูทว่ามันกลับเพิ่มความมีเสน่ห์เฉพาะตัวให้คนตัวสูง ต้องบอกว่าปิยังกูรเป็นผู้ชายที่มี sex appear สูงมากจริงๆ
ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา แต่รวมถึงบุคคลิก การพูด การเดิน การนั่ง การยืนหรือแม้แต่การนอนสามีของเธอล้วนมีเสน่ห์ล้นเหลือดึงดูดเพศตรงข้ามได้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบหกเซนติเมตของเขาที่ไม่ผอมหรือว่าล่ำจนเกินไป จะใส่ชุดไหนล้วนเอาอยู่ ทุกอย่างที่รวมเป็นปิยังกูรมันคือนิยามของคำเพอร์เฟกต์
เมื่อจัดการถอดถุงเท้าให้คนหลับเสร็จก็ขยับขึ้นไปจัดการกับเนกไทต่อ ปลดกระดุมตรงคอเสื้อออกสามเม็ดจากนั้นก็หันไปปลดกระดุมแขนเสื้อทั้งสองข้าง เสร็จแล้วก็ไม่ลืมที่จะปลดเข็มขัดออกให้เพื่อให้คนหลับสบายตัวไม่อึดอัด
พุดน้ำบุษย์ลังเลระหว่างก้าวขาขึ้นไปนอนฝั่งตัวเองกับเดินไปเอาน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้สามี ทว่าสุดท้ายก็เลือกที่จะพาตัวเองขึ้นไปบนเตียงกว้าง ขยับไปนอนฝั่งตัวเองและหันหลังให้คนตัวสูงอย่างที่ไม่เคยทำในช่วงสองปีให้หลัง... ภาพสามียื่นผ้าเช็ดหน้าให้คุณหมออดีตคนรักที่ร้านกาแฟเมื่อตอนบ่ายทำให้เธอไม่สามารถทนนอนมองหน้าเขาได้
ผ้าเช็ดผ้าผืนนั้นนอกจากพุดน้ำบุษย์จะซักมันด้วยสองมือแล้ว ก็ยังใช้เวลาทั้งวันในการปักษ์ชื่อเขาไว้บนผืนผ้า... ทว่าเขากลับยื่นให้คนอื่นใช้ง่ายๆ ก่อนจะยื่นมันให้คุณหมออดีตคนรักถ้าสามีจะมีอากัปกิริยาลังเลสักนิดเธอก็คงไม่รู้สึกแย่มากขนาดนี้
"เป็นอะไร?"
เสียงเข้มของสามีที่อยู่ๆก็ดังขึ้นทำให้พุดน้ำบุษย์เอื้อมตัวหันกลับไปมอง มองสบตากับคนที่เธอคิดว่าเขาหลับ ส่วนคนที่นอนหลับไปประมาณยี่สิบนาทีก็เปลี่ยนจากนอนหงายเป็นนอนตะแคงข้างยกข้อศอกตั้งฉากกับที่นอนใช้กำปั้นหนุนแทนหมอนมองหน้าภรรยาสาวที่ยังหันหลังให้กัน
“คะ?”
“ปกติถ้าพี่หลับเธอจะเช็ดตัวให้” ถามเสียงเรียบ ทั้งหงุดหงิดทั้งไม่พอใจ
นอกจากเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้รู้สึกสดชื่น ปิยังกูรจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่พุดน้ำบุษย์นอนหันหลังให้กันคือเมื่อไหร่ หนึ่งปีหรือสองปีเขาก็จำไม่ได้... ทว่าทุกครั้งที่ลืมตาตื่นก็มักจะเห็นร่างเล็กของภรรยานอนขดตัวอยู่ในอ้อมแขนตลอด ใบหน้าเล็กของเธอมักจะซุกซบอยู่ที่อกแกร่งของเขาไม่ยอมห่าง แต่การกระทำเหมือนรังเกียจเดียดฉันท์กันของเธอในครั้งนี้ทำให้เขาหงุดหงิด
เธอทำเหมือนเขาไม่ใช่ผัว...
“วันนี้ไม่ปกติมั้งคะ”
“ทำไม?”
“นั่นสิคะ... ทำไมกัน” หญิงสาวที่อารมณ์ไม่ปกติมาตั้งแต่บ่ายถามกลับเสียงเบา ขยับตัวนอนตรงมองสบตาสามีไม่ยอมหลบ
“ไร้สาระ”
พุดน้ำบุษย์ยิ้มเศร้า ทั้งสะอึกทั้งพูดไม่ออกกับคำพูดกล่าวหาที่ไม่มีมูลเหตุ อยากจะตอบกลับไปแรงๆ แต่ทว่าวันนี้เธอเหนื่อยเกินกว่าจะลุกขึ้นมาทะเลาะ และคิดว่าเรื่องคงไม่จบง่ายๆ ดีไม่ดีสามีก็จะโยงไปเรื่องเดิมๆ... หาว่าเธอถูกเพื่อนเป่าหูมา
อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าเพื่อนไม่เคยเป่าหูเธอ ทุกอย่างเพราะเธอเห็นมันด้วยสองตาตัวเอง เป็นจารวีซะอีกที่ค่อยบอกให้เธอใจเย็นๆ อย่าวู่วาม และอย่าคิดมาก
“ถ้าบัวจะทำงานพี่โปรดคิดว่ายังไงคะ”
“อยากทำงานงั้นเหรอ?”
“ก็ประมาณนั้นค่ะ” เธออยากทำงานจะได้ไม่มีเวลาว่างคิดฟุ้งซ่าน ทว่าคำฟังคิดไปอีกแบบ
คำตอบของภรรยาทำให้ปิยังกูรเลิกคิ้วสูง มองคนพูดด้วยสายตาดุ ก่อนจะถอนหายใจแรงออกมาอย่างหงุดหงิด “เธออยากทำงานเพราะโกรธพี่งั้นเหรอดอกบัว ถ้าจะทำงานเพราะต้องการประชดพี่ก็อยากทำเลยดีกว่า ไร้สาระ”
ไร้สาระอีกแล้ว...
การที่เธออยากทำงานเป็นเรื่องเป็นราวมันคือเรื่องไร้สาระงั้นเหรอ?
หรือว่าเธอพุดน้ำบุษย์สามารถเป็นได้แค่แม่บ้านคอยช่วยสามีแต่งตัวไปทำงานกับเดินไปส่งสามีขึ้นรถแค่นั้น ปิยังกูรลืมไปแล้วเหรอว่าเธอเองก็เรียนจบมีความรู้ความสามารถ คิดได้ยังไงว่าพุดน้ำบุษย์อยากทำงานเพื่อประชดเขา
ใครกันแน่ที่ไร้สาระ